ขุนพลจัลโลรอสซีคว้าชัยชนะนัดแรกในรอบแบ่งกลุ่มยูซีแอลได้สำเร็จ หลังกำราบอาคันตุกะจากเมืองเบียร์ในเกมที่พลิกไปพลิกมาอย่างสุดมัน

รูดี้ การ์เซีย กุนซือเจ้าบ้าน เปลี่ยนแปลงตัวผู้เล่นจากเกมก่อนในลีกที่บุกไปแพ้อินเตอร์ มิลาน 0-1 เมื่อคืนวันเสาร์เพียงแค่รายเดียวเท่านั้น คือ ดานิเอเล เด รอสซี ที่ได้กลับมาลงเล่นเป็นตัวจริงแทน ดั๊กลาส ไมคอน ส่วนสามประสานในแดนหน้ายังเป็น แชร์วินโญ, โมฮาเหม็ด ซาลาห์ และ เอดิน เชโก้ เหมือนเดิม

ด้านทีมเยือนของ โรเจอร์ ชมิดต์ ปรับทัพจากนัดล่าสุดในลีกที่บุกไปแพ้โวล์ฟสบวร์ก 1-2 ทั้งสิ้น 2 ราย คือ โอเมอร์ โทปรัก และ สเตฟาน คีสลิงก์ ที่ได้โอกาสลงเป็น 11 คนแรกแทนที่ของ คริสตอฟ คราเมอร์ กับ คาริม เบลลาราบี ขณะที่ตัวหลักอย่าง ฮาคาน คัลฮาโนกลู และ ฮาเวียร์ "ชิชาริโต้" เฮอร์นานเดซ พร้อมสู้เช่นเคย

ออกสตาร์ตเกมการแข่งขันได้เพียง 2 นาทีเท่านั้น เป็นโรมาที่มาพังประตูขึ้นนำได้อย่างรวดเร็ว จากจังหวะที่ เชโก้ ดีดไซด์ก้อยทะลุช่องจากกลางสนามให้ ซาลาห์ หลุดเดี่ยวไปจิ้มด้วยซ้ายข้างถนัดแฉลบลอดขาของ แบรนด์ เลโน เข้าไป ส่งให้ทัพหมาป่ากรุงโรมออกนำ 1-0

ถัดมานาทีที่ 29 จัลโลรอสซีมาบวกลูกสองเพิ่มได้อีก จากจังหวะที่ รัดจา เนียงโกลัน ผ่านบอลให้ เชโก้ หลุดเดี่ยวไปเอี้ยวตัวแปด้วยซ้ายส่งบอลเรียดเสียบเสาไกลไปอย่างเด็ดขาด ช่วยให้เจ้าบ้านหนีห่างเป็น 2-0 ก่อนจะจบ 45 นาทีแรกไปด้วยสกอร์นี้

กลับมาสู้กันต่อในครึ่งหลังได้ไม่ถึงนาที เป็นเลเวอร์คูเซนที่มาได้ประตูตีไข่แตกจากจังหวะที่ เควิน คัมเพิล เลี้ยงแหวกแนวรับโรมาไปจนสุดเส้นหลังฝั่งขวา ก่อนจะไหลย้อยมาให้ อัดเมียร์ เมห์เมดี้ กดด้วยขวาจากแถวสองแสกหน้า วอยเชียค เชสนีย์ เสยเพดานตาข่ายเข้าไป ทำให้ห้างขายยาไล่มาเป็น 1-2

ถัดมาไม่กี่อึดใจในนาทีที่ 51 เกมกลับมาสนุกสูสีอีกครั้ง เมื่อทีมเยือนมาได้ตีเสมอได้สำเร็จ จากจังหวะที่ เบลลาราบี ตัวสำรองที่ลงมาแทน คิสลิงก์ ตั้งแต่เริ่มครึ่งหลัง แทงทะลุช่องให้ ชิชาริโต้ ซัดด้วยขวาแม้จะโดน เชสนีย์ พุ่งปัดไว้ได้ปลายมือแต่ก็หยุดความแรงของลูกไม่อยู่ ทำให้สกอร์กลับมาเสมอกัน 2-2

5 นาทีต่อมา จัลโลรอสซีที่นอกจากจะโดนตีเสมอแบบไม่ทันตั้งตัวแล้ว ยังต้องมาพบข่าวร้ายเมื่อต้องมาเสีย อเลสซานโดร ฟลอเรนซี วิงแบ็คจอมบุกที่โชคร้ายบาดเจ็บจนฝืนเล่นต่อไม่ไหว ทำให้ต้องส่ง ไมคอน ลงมายืนเป็นแบ็คขวาแทน

จากนั้นทั้งสองทีมต้องมาเสียโควต้าเปลี่ยนตัวไปหนึ่งที่ เนื่องจากมีนักเตะบาดเจ็บด้วยกันทั้งคู่ เริ่มจากฝั่งเลเวอร์คูเซนเปลี่ยนเอา เบลลาราบี ที่เพิ่งจะลงมาในช่วงครึ่งหลังออกไปแล้วส่ง คราเมอร์ ลงมาแทน ในนาทีที่ 73 ส่วนโรมาก็ถอดตัวสำรองที่เพิ่งลงไปเช่นกันอย่าง ไมคอน ออกแล้วส่ง วาสซิลิส โทโรซิดิส ลงไปแทน ในอีก 3 นาทีต่อมา 

แต่แล้วในช่วงท้ายเกมนาทีที่ 80 เกมกลับตาลปัตรอีกครั้ง เมื่อทัพหมาป่ากรุงโรมมาได้จุดโทษ จากจังหวะที่ ซาลาห์ โดน โทปรัก เจตนาผลักล้มลมในกรอบ 18 หลา ทำให้ผู้ตัดสินควักใบแดงไล่ดาวเตะเชื้อสายตุรกีออกจากสนามไปทันทีด้วย ก่อนจะเป็น มิราเล็ม ปยานิช รับหน้าที่สังหารเข้าไปไม่พลาด ทำให้โรมาขึ้นนำอีกหนที่ 3-2

สุดท้ายจบเกมเป็นโรมาที่เปิดบ้านเฉือนเอาชนะไปอย่างหวุดหวิด 3-2 เก็บสามแต้มแรกในยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกได้สำเร็จ พร้อมแซงขึ้นมารั้งรองจ่าฝูงของกลุ่มอี มี 5 คะแนน ส่วนเลเวอร์คูเซนหล่นมาอยู่อันดับ 3 มี 4 คะแนนเท่าเดิม