หลังทีมชาติไทยเปิดบ้านเก็บ 3 แต้มสำคัญจากไต้หวันได้ เงื่อนไขความสำเร็จที่จะผ่านเข้ารอบ 12 ทีมสุดท้าย ฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก โซนเอเชีย เป็นอย่างไร เราสรุปมาไว้ที่นี่

สำหรับทีมชาติไทย มีโอกาสที่จะผ่านเข้ารอบ 12 ทีมสุดท้าย ในศึกฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย ก่อนที่จะพบกับ ทีมชาติอิรัก ในการบุกไปเยือน วันที่ 24 มีนาคม 2559 โดยจะต้องดูผลการแข่งขันของสายอื่นๆ และผลอีกคู่ในสายเอฟ ภายใต้เงื่อนไขดังนี้ ซึ่งจะรู้ผลวันที่ 17 พฤศจิกายน

1.ลุ้นผลของอีกคู่ในสายเอฟ ที่ไต้หวันจะพบกับ อิรัก วันที่ 17 พฤศจิกายนนี้ หากไต้หวันสามารถยันเสมอ หรือเปิดบ้านชนะสำเร็จ ทัพช้างศึกจะเข้ารอบเป็นที่ 1 ทันที ในฐานะแชมป์กลุ่มเอฟ โดยไม่ต้องดูผลในสายอื่นแต่อย่างใด

2. พิจารณาจากผลการแข่งขันในสายอื่นอีก 7 สาย เพื่อการันตีเป็นอันดับสองที่ดีที่สุดในโควต้า 1 ใน 4ทีม ซึ่งเฃื่อนไขต่อไปนี้ จะทำให้ทีมอันดับสองในสายนั้นๆ ไม่มีทางสู้กับทีมชาติไทยที่ปัจจุบันมี 13 แต้มในทุกกรณี

สำหรับผลการแข่งขันที่มีผลกับคู่ของไทยมีดังนี้

สายเอ. มาเลเซีย –ยูเออี
ต้องลุ้นผล : ให้มาเลเซีย เสมอเป็นอย่างน้อย
สายบี. คีร์กิซสถาน- จอร์แดน
ต้องลุ้นผล : ให้คีร์กิซถาน เสมอเป็นอย่างน้อย (จอร์แดนหรือออสเตรเลีย คะแนนจะสู้เราไม่ได้แน่ๆ 1ทีม)
สายซี. ฮ่องกง - จีน
ต้องลุ้นผล : ทั้งคู่ต้องเสมอกัน
สายดี. ไม่มีผล เพราะคะแนนของทีมชาติไทยเหนือกว่าอันดับสองที่ดีที่สุดสายนี้แน่นอน
สายอี. สิงคโปร์ - ซีเรีย
ต้องลุ้นผล :ทให้สิงคโปร์ เสมอเป็นอย่างน้อย
สายจี. เมียนมา – คูเวต
ต้องลุ้นผล : ให้เมียนมา เสมอเป็นอย่างน้อย
สายเฮช เกาหลีเหนือ-บาห์เรน, เยเมน-อุซเบกิสถาน
ต้องลุ้นผล : ให้บาห์เรน เสมอเป็นอย่างน้อย หรือ อุซเบกิสถาน บุกแพ้เยเมน กรณีใดกรณีหนึ่ง

หากผลการแข่งขันเป็นไปตามเงื่อนไข เพียง 3 สาย ทีมชาติไทยจะการันตีเข้ารอบ 12ทีมสุดท้ายเช่นกัน

3.หากยังไม่การันตีการเข้ารอบ ไทยต้องไปลุ้นผลเสมอจากอิรัก ในการบุกไปเยือน ช่วงต้นปีหน้า ซึ่งจะเข้ารอบเป็นแชมป์กลุ่มทันที หรือ ลุ้นให้ทีมอันดับหนึ่งและสองของสายอื่นๆตัดแต้มกันเอง ไทยจะเข้ารอบเช่นกัน