การแข่งขันฟุตบอลยูฟ่า แชมป์เปี้ยนส์ ลีก กลุ่มเอ
วันพุธที่ 25 พฤศจิกายน 2558
ชัคตาร์ โดเนตส์ค 3 - 4 เรอัล มาดริด

 
สนาม : อารีน่า ลวีฟ (ลวีฟ, ยูเครน ; สนามกลาง)

          ชัคตาร์ โดเนตส์ค รองแชมป์พรีเมียร์ ลีก ยูเครน เมื่อฤดูกาลที่แล้ว ลงเล่นในสนามกลางที่อารีน่า ลวีฟ เมืองลวีฟ ประเทศยูเครน ปะทะ เรอัล มาดริด รองแชมป์ลา ลีกา สเปน ซีซั่นก่อน ในยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม นัดที่ 5 ซึ่งราชันชุดขาวผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายเรียบร้อยแล้ว และหากชนะก็จะคว้าแชมป์กลุ่ม เอ ทันที

          มีร์เซีย ลูเชสคู กุนซือชาวโรมาเนียของชัคตาร์วัย 70 ปี ขาด โอเล็กซานเดอร์ คูเชอร์ เซนเตอร์แบ็กและ ดาริโย เซอร์น่า แบ็กขวากัปตันทีม ต่างติดโทษแบนคนละ 1 นัด หลังจากสะสมใบเหลืองครบ 3 ใบ แต่ทีมได้ ทาราส สเตปาเนนโก้, อเล็กซ์ เตเซยร่า สองมิดฟิลด์ที่ได้พักในเกมล่าสุด กลับมาลงสนามตามเดิม

          ส่วน ราฟาเอล เบนิเตซ กุนซือเรอัล มาดริด วัย 55 ปี มี คริสเตียโน่ โรนัลโด้ นำทัพ เขารั้งดาวซัลโวร่วมของแชมเปี้ยนส์ ลีกซีซั่นนี้ ยิงไปแล้ว 5 ประตู และทำได้มากถึง 82 ประตูในแชมเปี้ยนส์ ลีก เป็นเจ้าของสถิติยิงประตูสูงสุดในรายการนี้ ซึ่งกัปตันทีมชาติโปรตุเกสลงสนามแดนหน้าเคียงข้าง แกเร็ธ เบล, อิสโก้ ขณะที่ คาริม เบนเซม่า, ฮาเมส โรดริเกซ, โทนี่ โครส นั่งสำรอง

          เกมครึ่งแรก นาที 18 เรอัล มาดริดนำ 1-0 อิสโก้ ทำชิ่งกับ ลูก้า โมดริช โยนบอลไปเข้าทาง แกเร็ธ เบล ตักบอลจากกรอบเขตโทษฝั่งซ้ายไปที่เสาสองให้ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ โหม่งมุมแคบตุงตาข่าย นับเป็นประตูที่ 83 ในการเล่นยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก นัดที่ 120 ของเขา และเขานำดาวซัลโวแชมเปี้ยนส์ ลีกซีซั่นนี้ที่จำนวน 6 ประตู

          นาที 31 โรนัลโด้ ได้โหม่งเผาขน ทว่า อังเดร เปียตอฟ บล็อกเอาไว้ได้

          สองนาทีต่อมา เรอัล มาดริดเปลี่ยนเอา ราฟาแอล วาราน เซนเตอร์แบ็กทีมชาติฝรั่งเศสออกจากสนาม เนื่องจากบาดเจ็บกล้ามเนื้อต้นขา และส่ง ดานิโล่ ลงเล่นแทน

          ท้ายเกมครึ่งแรก นาที 40 แกเร็ธ เบล ได้ซัดเต็มเท้าทางฝั่งซ้าย เปียตอฟ เซฟได้เยี่ยม จบครึ่งแรก เรอัล มาดริดนำ 1-0

          มาถึงครึ่งหลัง นาที 50 ราชันชุดขาวนำห่าง 2-0 กาเซมีโร่ โยนบอลยาวจากแดนตัวเองให้ โรนัลโด้ เลี้ยงตะลุยเข้าไปในกรอบเขตโทษฝั่งขวาจ่ายให้ ลูก้า โมดริช ซัลโวเท้าขวาที่เสาแรกเรียบร้อย

          นาที 52 ทีมเยือนนำห่าง 3-0 คริสเตียโน่ โรนัลโด้ แผลงฤทธิ์อีกแล้ว ทำท่าจะยิงนอกกรอบเขตโทษฝั่งขวา แต่กลับจ่ายให้ ดาเนียล การ์บาฆาล ล็อกหนีการสกัดของ มาร์โซ่ อเซเวโด้ และปั่นด้วยเท้าซ้ายที่เสาแรก บอลลอยโค้งข้ามตัว ปียาตอฟ เสียบมุมไกลอย่างสวยงาม

          เข้าสู่นาที 71 ยอดทีมจากสเปนนำห่าง 4-0 เฟร็ด เสียบอลบริเวณวงกลมกลางสนาม และเป็น แกเร็ธ เบล พาบอลขึ้นมาทางริมเส้นฝั่งซ้าย เข้าไปในกรอบเขตโทษฝั่งซ้าย จ่ายต่อให้ โรนัลโด้ ยิง 6 หลาที่เสาแรกตุงตาข่าย เป็นลูกที่สองของเขาในนัดนี้ และเป็นประตูที่ 84 ของเขาในแชมเปี้ยนส์ ลีก

          นาที 77 กาเซมีโร่ ทำฟาวล์ ไทสัน กองหน้าบราซิล ตัวสำรองของชัคตาร์ ทำให้ ชัคตาร์ได้ลูกจุดโทษ อเล็กซ์ เตยเซยร่า สังหารจุดโทษเท้าขวาเข้าประตู ชัคตาร์ โดเน็ตส์คตีไข่แตก ไล่ตามหลังมาที่สกอร์ 1-4 และเป็นการเสียประตูแรกของเรอัล มาดริด ในแชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม ฤดูกาลนี้

          นาที 83 ชัคตาร์ไล่ตามหลังมาที่สกอร์ 2-4 ทาราส สเตปาเนนโก้ ผ่านบอลให้ เดนตินโญ่ หัวหอกบราซิลตัวสำรองยิงเผาขนเข้าประตู

          นาที 88 กองเชียร์ชัคตาร์ได้เฮอีกครั้งเมื่อทีมรักได้ประตูไล่ตามหลังมาเป็น 3-4 ไทสัน เปิดจากกรอบเขตโทษฝั่งซ้ายไปเข้าทาง อเล็กซ์ เตยเซยร่า ยิงหน้าประตูเข้าไป นับเป็นลูกที่สองของเขาในนัดนี้ จบเกมเรอัล มาดริดบุกมาชนะชัคตาร์ โดเนตส์ค 4-3 คว้าแชมป์กลุ่มเอไปครอง

          รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม

          ชัคตาร์ โดเนตส์ค : อังเดร เปียตอฟ - วาซิย์ล โคบิน, อิวาน ออร์เด็ตส์, ยาโรสลาฟ ราคิตสกี้, มาร์โซ่ อเซเวโด้ - เฟร็ด, ทาราส สเตปาเนนโก้ - มาร์ลอส, อเล็กซ์ เตเซยร่า (กัปตันทีม), แบร์นาร์ด - โอเล็กซานเดอร์ กลัดกี้

          สำรอง : อันตัน คานิโบล็อตสกี้ (ผู้รักษาประตู), เดนตินโญ่, ฟากุนโด้ แฟร์เรย์ร่า, เอดูอาร์โด้, ไทสัน, เซอร์เก คริย์ฟต์ซอฟ, วิคตอร์ โควาเลนโก้

          เรอัล มาดริด : กีโก้ กาซิญ่า - ดาเนียล การ์บาฆาล, เปเป้ (กัปตันทีม), ราฟาแอล วาราน, เซร์คิโอ รามอส, นาโช่ เฟร์นานเดซ - ลูก้า โมดริช, คาเซมีโร่, มาเตโอ โควาซิช - แกเร็ธ เบล, คริสเตียโน่ โรนัลโด้, อิสโก้

          สำรอง : เกย์ลอร์ นาวาส (ผู้รักษาประตู), โทนี่ โครส, คาริม เบนเซม่า, ฮาเมส โรดริเกซ, ลูกัส บาซเกซ, เฆเซ่, ดานิโล่

          ผู้ตัดสิน : บาส ไนจ์ฮุส (ฮอลแลนด์)