การแข่งฟุตบอลเยาวชนชิงแชมป์ประเทศไทย ยู-19 รายการ ''โค้ก คัพ'' ครั้งที่ 19 รอบ 8 ทีมสุดท้าย นัดแรก คู่แรกเป็นการฟาดแข้งกันระหว่าง ''กิเลนเจ้าสัว'' อัสสัมชัญ ยูไนเต็ด แชมป์โซนภาคตะวันตก ที่เปิดสนามอัสสัมชัญธนบุรี ต้อนรับ ''ฉลามชล'' ชลบุรี เอฟซี แชมป์โซนภาคตะวันออก

ใบแดงว่อน โค้ก คัพ รอบ 8 ทีมสุดท้ายนัดเเรก อัสสัมชัญเฉือนชล บุรีรัมย์ยำระนอง

อัสสัมชัญ ยูไนเต็ด 1 - 0 ชลบุรี เอฟซี
 
 

         เกมนี้ผู้เล่น 11  ตัวจริงของอัสสัมชัญ ยูไนเต็ด ประกอบด้วย พีรพงษ์ ศรีนอก, วิริทธิ์พล ชนกกวินกุล, สุประวีร์ มีประทัง, ชาติชาย แสงดาว, ชินภัทร ลีเอาะ, ณัฐพสุตม์ มิละซ้อน, ปฏิภาณ ปิ่นเสริมสูตรศรี, พิชา อุทรา, เบค ซอง กิล, สุรเดช กลั่นขำ (กัปตันทีม) และ ภูมินทร์ แก้วตา  ด้าน  11 ตัวจริงของชลบุรี เอฟซี  มี จิรัญญ์พงษ์ ธรรรมสีหา เป็นผู้รักษาประตู, จีระศักดิ์ อินเอียม, อรรถโกวิทย์ จันทร์ทศ, พลวัต หนันต๊ะ, วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ, ปรินซ์ อัมโบรซ่า, บุญเกิด ไชยสิน, นัฐวุธฒ์ แสงศรี, อัครินทร์ ปิตตาโส,  ภานุเดช วงศ์ใหม่ และ ณัฐพล พลเยี่ยม
 
 
         เริ่มมาในช่วงต้นเกมรูปเกมยังค่อนข้างอึดอัดทั้งสองทั้งทีมออกมาเล่นกันแบบ ระมัดระวังจนมาถึงนาที 10 อัสสัมชัญ ยูไนเต็ด เกือบได้เฮก่อน เมื่อ ปฏิภาณ ปิ่นเสริมสูตรศรี ได้กระชากฝ่าแนวรับชลบุรีหลุดเดี่ยวเข้ายิงก่อนซัดด้วยเท้าขวาเต็มข้อ แต่กลับยิงไปติดเซฟของ จิรัญญ์พงษ์ ธรรรมสีหา พลาดขึ้นนำอย่างน่าเสียดาย
 
 
         น.15 รูปเกมเริ่มเปิดมากขึ้น ชลบุรี เริ่มตั้งเกมได้บ้าง และ ปรินซ์ อัมโบรซ่า กองหน้าผิวสีของฉลามชลมาโชว์ทักษะเหนือชั้นกระชากจากริ่มเส้นฝั่งซ้ายก่อนพา บอลล็อกฝ่าแนวรับแข้งกิเลนเจ้าสัวได้ถึง 3 คน ก่อนซัดเต็มข้อบอลพุ่งไปเสาแรก แต่ พีรพงษ์ ศรีนอก ยังยืนตำแหน่งได้ดีล้มตัวเซฟไว้ ทำให้ชลบุรี ชวดออกนำเช่นกัน
 
 
         น.27 อัสสัมชัญ ยูไนเต็ด โหมบุกอย่างต่อเนื่อง และมาได้ลูกเตะมุมทางฝั่งซ้ายในเป็น สุรเดช กลั่นขำ กัปตันทีมกิเลนเจ้าสัว เปิดบอลโด่งเข้ากลางประตู และ ชาติชาย แสงดาว วิ่งฉีกหนีตัวประกบเทกตัวขึ้นโหม่งสะบัดไปที่เสาสอง ผ่านมือนายทวารชลบุรีไปแล้วโชคไม่ดีบอลไปติดขากองหลังชลบุรี ที่ยืนคุมเส้นอยู่ และเตะเคลียร์ออกไปแบบหวุดหวิด ทำให้ทีมกิเลนเจ้าสัวพลาดขึ้นไปอย่างน่าเสียดายอีกครั้ง
  
 
         น.33 นัฐวุธฒ์ แสงศรี ตัวตัดเกมของชลบุรี มาโดนใบเหลืองแรกของเกมหลังไปพุ่งเสียบหนักใส่ ปฏิภาณ ปิ่นเสริมสูตรศรี กองหน้าอัสสัมชัญ ยูไนเต็ด และอีก 5 นาทีถัดมา ชลบุรี ต้องมาเหลือผู้เล่น 10 เมื่อ นัฐวุธฒ์ แสงศรี ไปทำแฮนด์บอลล้มตัวเอามือไปปัดบอลจากเท้าผู้เล่นอัสสัมชัญ ยูไนเต็ดแบบน่าเกลียดทำให้ผู้ตัดสินไม่รอช้าเป่าฟาวล์พร้อมชักใบเหลืองที่ สองเป็นใบแดงไล่กองกลางตัวตัดเกมของชลบุรีออกจากสนามไป
 
 
         เข้าช่วงท้ายครึ่งแรก อัสสัมชัญ ยูไนเต็ด ที่ได้เปรียบตัวผู้เล่นเดินหน้าโหมเกมบุกเข้าใส่ชลบุรี อย่างหนัก และมีโอกาสลุ้นขึ้นนำหลายต่อหลายครั้ง แต่จังหวะการจบสกอร์ยังไม่เฉียบขาดพอ ทำให้จบ 45 นาทีแรก ทั้งสองทีมเสมอกันอยู่ที่ 0-0
 
 
         มาครึ่งหลังแข้งหนุ่มอัสสัมชัญ ยูไนเต็ด ออกมาเดินหน้าเปิดเกมบุกเข้าใส่ชลบุรี อย่างต่อเนื่อง จนน.52 ภูมินทร์ แก้วตา ปีกขวาของอัสสัมชัญ ยูไนเต็ด ได้โอกาสสับไกยิงโล่งๆ ระยะ 20 หลาจากนอกกรอบทางฝั่งขวา แต่บอลเหินข้ามคานออกไปเพียงนิดเดียว
 
 
         น.63 บุญเกิด ไชยสิน กองกลางของชลบุรี มาโดนใบเหลืองไปอีกคนหลังไปทำฟาวล์ใส สุรเดช กลั่นขำ และมาถึงน.65 อัสสัมชัญ ยูไนเต็ด เกือบมาได้ประตูออกนำเมื่อ ภูมินทร์ แก้วตา ได้โอกาสพาบอลมาทางกราบซ้ายเข้าไปในกรอบเขตโทษ ก่อนตัดสินใจยิงยัดเข้าเสาแรก แต่ จิรัญญ์พงษ์ นายทวารฉลามชล ยังเหนียวหนึบล้มตัวใช้ขาเซฟไว้ได้อีก 
 
 
         เข้าสู่ช่วง 20 นาทีสุดท้าย น.70 อัสสัมชัญ ยูไนเต็ดที่ทำเกมบุกขึ้นมาอย่างต่อเนื่องและมีโอกาสอีกครั้งจากจังหวะชลมุ นในกรอบเขตโทษกองหลังชลบุรี สกัดบอลไปเข้าเท้าของ ภูมินทร์ แก้วตา ซัดด้วยขวาเต็มข้อบอลพุ่งจะเข้าประตูอยู่แล้ว แต่ จิรัญญ์พงษ์ มาช่วยชีวิตชลบุรีไว้อีกพุ่งเซฟปัดออกมาได้อีก
  
 
         จนมาถึงน.81 กองเชียร์อัสสัมชัญ ยูไนเต็ด ได้เฮสมใจมาทำประตูออกนำ 1-0 จากจังหวะการทำเกมขึ้นมาทางกราบซ้าย ก่อนที่ ภูมินทร์ แก้วตา กระชากบอลไปสุดเส้นหลังแล้วเปิดเข้ามากลางประตู พีรพงศ์ ปัญญานุมาภรณ์ กองหน้าตัวสำรองเทกตัวขึ้นโหม่งคนเดียวโล่งๆ บอลพุ่งเสียบโคนเสาสองเข้าไปอย่างสวยงาม
 
 
         จากนั้นอัสสัมชัญ ยูไนเต็ดที่เริ่มได้ใจ โหมเกมรุกเข้าใส่ชลบุรี อย่างต่อเนื่อง และ น.86 เกือบมาได้ประตูเพิ่มจากจังหวะสับไกยิงหน้ากรอบเขตโทษของ ปฏิภาณ ปิ่นเสริมสูตรศรี บอลเกือบจะเสียบใต้คานอยู่แล้ว แต่ จิรัญญ์พงษ์ ยังเหินเซฟปัดออกไปแบบหวุดหวิด
       
 
         หลังจากนั้นทั้งสองทีมไม่สามารถยิงประตูเพิ่มได้ ทำให้จบเกม 90 นาที อัสสัมชัญยูไนเต็ด เปิดบ้านเฉือนเอาชนะ ชลบุรี เอฟซี ไปได้แบบหวุดหวิด 1-0 เก็บชัยนัดแรกได้สำเร็จ 
 
 
         สำหรับเกมนัดที่ 2 ของคู่นี้จะกลับไปเล่นที่บ้านของ ''ฉลามชล'' ชลบุรี เอฟซี ที่ สนามสถาบันการพลศึกษา วิทยาเขตชลบุรี ในวันที่ 25 ม.ค. 2559 ในเวลา 18.00 น.

 
         วาทะโค้ช

 
         ธร สอระภูมิ  ผู้ฝึกสอนอัสสัมชัญ ยูไนเต็ด ''เกมนี้ถือว่าน่าพอใจในระดับหนึ่ง เพราะเราสามารถคว้าชัยชนะได้อย่างที่หวังไว้ แต่ยังเกมนี้เรายังมีข้อผิดพลาดเยอะโดยเฉพาะในจังหวะจบสกอร์ความเด็ดขาดและ ความเฉียบคมไม่มีให้เห็นเลย ซึ่งเราต้องกลับไปแก้ไขเป็นการด่วนเพื่อเกมนัดต่อไป''

 
         นฤพล แก่นสน ผู้ฝึกสอนชลบุรี เอฟซี ''เป็นเกมที่ไม่ดีเลยนักเตะเราเล่นได้ไม่ดี และยิ่งตัวผู้เล่นน้อยกว่าทำให้เราเล่นยากมากขึ้น เกมนี้ต้องยอมรับว่าเราเป็นรองอัสสัมชัญ ยูไนเต็ด จริงๆ แต่เชื่อว่านัดหน้าเราจะดีกว่านี้ เพราะผู้เล่นตัวหลักที่บาดเจ็บไปหลายคนน่าจะกลับมาลงเล่นได้ในเกมนัดหน้า''

 
         แมน ออฟ เดอะ แมตช์ : พีรพงศ์ ปัญญานุมาภรณ์

ระนอง ยูไนเต็ด 0 - 3 บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด
 

 
         เกมคู่ที่สองเป็นการพบกันระหว่าง "ฉลามอันดามัน" ระนอง ยูไนเต็ด  เเชมป์โซนภาคใต้ ประเดิมรอบ 8 ทีมสุดท้ายนัดเเรก ในบ้านของตัวเอง ที่สนามกีฬาอบจ.ระนอง รับมือ "ปราสาทสายฟ้า" บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด รองเเชมป์รอบประเทศไทยเมื่อปีก่อน เเละเเชมป์โซนภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง โดยเกมนี้ได้รับเกียรติจาก นายธงชัย เจริญพาณิชย์กุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง ร่วมชมเกม พร้อมกับเเฟนฟุตบอลชาวระนองกว่า 3,000 คน เข้าชมเกมเต็มความจุสนาม

 
         สำหรับ 11 ผู้เล่นตัวจริงของเจ้าถิ่น ประกอบด้วย วัฒนะ ผึ่งเเสง, เกริกเกียรติ กุลสีดา, วรากร เสือเเก้ว, เอกภพ ศรีนานวล, ศักดิ์ดา สกุลเเพทย์, เเฟร้งค์ วอยบาด้า คอยโวกี้, กิตติศักดิ์ สาดีน, ทัศไนย์ คุ้มครอง, กิตติ สุขวาริทร์, คณาธิป เเลนี เเละ อัครวัฒน์ บัณฑิตย์ผล ส่วน 11 ผู้เล่นของทีมเยือน ประกอบด้วย สิทธิกร กล่ำใส, วิทยา ศรีทา, ศักดิ์สิทธิ์ สารศรี, พลวัฒน์ ช่างทำ, ณรงค์ชัย สิงห์ธรรม, อานนท์ อมรเลิศศักดิ์, เชาว์วัตน์ วีระชาติ, เจนโจว กีลีเชน, สิทธิโชค กันหนู, รัตนากร ใหม่คานิ เเละ คทาธร มะธิปิไข

 
         เริ่มครึ่งเเรกมาเพียง 6 นาที บุรีรัมย์ได้ทักทายก่อน สิทธิโชค กันหนู เก็บบอลจังหวะสองจากลูกฟรีคิก ก่อนบรรจงเเปเน้นๆ เเต่บอลหลุดกรอบไปเเบบไม่น่าเชื่อ นาทีที่ 9 ทีมเยือนมาได้ประตูขึ้นนำ รัตนากร ใหม่คามิ ได้จังหวะส่องไกลด้วยขวาระยะกว่า 20 หลา บอลพุ่งตุงตาข่าย ชนิดที่ วัฒนะ ผึ่งเเสง นายด่านเจ้าถิ่นหมดสิทธิ์ป้องกัน สปราสาทสายฟ้าบุกนำ 1-0 ฝั่งระนอง ได้ลุ้นบ้าง จากลูกฟรีคิกนอกกรอบในเเดนบุรีรัมย์ เกริกเกียรติ กุลสีดา กึ่งยิงกึ่งผ่านไปหน้าประตู บอลเกือบเสียบใต้คาน เเต่ถูกนายทวารทีมเยือนกระโดดรับไว้ได้

 
         ผ่านครึ่งทางของครึ่งเเรก เกมส่วนใหญ่ยังเป็นของทีมเยือน นาที 25 สิทธิโชค ได้จังหวะส่องฟรีคิกระยะ 25 หลา บอลเเฉลบกำเเพงเจ้าบ้านพุ่งตรงกรอบ เเต่ถูกวัฒนะ ผึ่งเเสง นายทวรารเจ้าถิ่น พุ่งปัดข้ามคานออกไปหวุดหวิด นาที 33 จากจังหวะบอลชุลมุนหน้าเขตโทษ เกือบทำให้ทีมเยือนขึ้นนำ เเต่เจนโจวเเปบอลด้วยเท้าขวา จากระยะ 15 หลาหน้าปากประตูโล่งเหินข้ามคานออกไป ท้ายครึ่งเเรกทีมเยือนหวิดได้ประตูที่สอง เจนโจวรับบอลยาวจากกลางสนาม เเละเลี้ยงบอลเข้าหาเขตโทษ เข้าไปดวลกับนายทวานเจ้าถิ่น เเต่กลับเลือกมุมยิงไม่ดี ติดเซฟ วัฒนะ ผึ่งเเสง จบครึ่งเเรกทีมเยือนนำ 1-0         
 
         กลับมาสู้กันต่อในครึ่งหลัง "เเข้งฉลามอันดามัน" เร่งเกมบุกสู้ เเต่ยังต่อบอลกันได้ไม่เเม่นยำพอ นาที 55 ทีมเยือนได้ลูกฟริคิก เชาว์วัตน์ วีระชาติ เปิดบอลโค้งไปที่เสาสอง ให้ เจนโจว กลีเชน สลัดตัวหนีเเนวรับเจ้าถิ่น ขึ้นมาเทกตัวโหม่งเน้นๆ ส่งบอลซุกตาข่าย พาบุรีรัมย์หนีห่างเป็น 2-0 การจะกลับมาสู่เกมของเจ้าถิ่นยิ่งลำบากขึ้นอีก หลัง

 
         นาที 67 เเฟร้งค์ วอยบาด้า คอยโวกี้ ไปดึงเสื้อ สตราฮินย่า เคิร์ทเทิฟสกี้ กองหน้าตัวสำรองชาวเซอร์เบีย ของทีมเยือนในจังหวะหลุดเดี่ยว จึงถูกใบเหลืองที่สองกลายเป็นใบเเดงไล่ออกจากสนาม ระนอง ยูไนเต็ด เหลือ 10 คน    
 
 
         นาที 70 เป็นศูนย์หน้าชาวเซอร์เบีย ได้บอลบริเวณหน้าเขตโทษ ก่อนอาศัยรูปร่างที่ใหญ่กว่าเเนวรับทีมเยือน ลากบอลเข้าไปยิงเต็มข้อสวนตัว วัฒนะ ผึ่งเเสง  เข้าไป ส่งทีมเยือนนำห่าง 3-0 นาที 83 เกมของเจ้าบ้านเเย่หนัก ต้องเหลือ 9 คน เมื่อ กิตติศักดิ์ สาดีน ผู้เล่นของฉลามอันดามัน ไปเล่นนอกเกมใส่เเข้งปราสาทสายฟ้า ผู้ตัดสินในเกมนี้ ทวีชัย สุภัทร์วัน เเจกใบเเดงไล่ออกทันที ช่วงท้ายเกม มีอีก 2 ใบเเดง โดย ศักดิ์สิทธิ์ สารศรี เเนวรับทีมเยือนไปถ่วงเวลาถูกใบเหลืองที่สอง กลายเป็นใบเเดงไล่ออกจากสนาม ผู้มาเยือนเหลือ 10 คน จากนั้นนาที 90 สิทธิโชค กันหนู ไปทำฟาวล์ผู้เล่นระนอง ถูกใบเหลืองที่สองกลายเป็นใบเเดงไล่ออกจากสนาม เหลือ 9 คน เวลาที่เหลือไม่มีสกอร์เพิ่ม จบเกม บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด บุกมาชนะ ระนอง ยูไนเต็ด 3-0 โดยเกมนัดที่สอง จะกลับไปเล่นที่สนามไอ-โมบาย สเตเดี้ยม ในวันที่ 25 ม.ค. นี้ เวลา 17.00 น.
 
 
         ด้านบริษัท หาดทิพย์ จำกัด (มหาชน) นำโดย พลตรี พัชร รัตตกุล ปธ.เจ้าหน้าที่ฝ่ายกิจกรรมพิเศษ อาวุโส, พรณีย์ กันทรากร ผจก.ฝ่ายกิจกรรมพิเศษ อาวุโส เเละ ประทีป เเก้วประสิทธิ์ ผจก.ฝ่ายกิจการพิเศษ ได้เปิดเผยถึงการเเข่งขันฟุตบอลโค้ก คัพ ครั้งนี้ว่า ได้สร้างความตื่นตัวให้กับเยาวชน เเละประชาชนในพื้นที่ ในการเข้ามาชม เเละเชียร์เกมฟุตบอลได้เป็นอย่างดี ซึ่งเกมการเเข่งขันเป็นไปอย่างมีสีสัน เเละสนุก เเฟนบอลเข้ามาชมเกมกันอย่างหนาตา ส่วนทางบริษัทเองยังยืนยันว่าจะยังคงให้การสนับสนุนการเเข่งขันฟุตบอลใน ระดับเยาวชนอย่างศึก "หาดทิพย์ คัพ" ใน 5 จังหวัดชายเเดนภาคใต้ ที่จะมีขึ้นในเดือนส.ค. นี้

 
         วาทะโค้ช
 
 
         วรานนท์ เกลื่อนสิน ประธานสโมสรระนอง ยูไนเต็ด เผยว่า "เกมนัดนี้ต้องยอมรับว่าเด็กของเรายังขาดประสบการณ์ในการเล่นเกมใหญ่ขนาดนี้ ทำให้เกร็ง เเละเล่นไม่ได้ตามเเผนที่วางไว้

 
         สุริยา ดอมไธสง ผู้ช่วยผู้ฝึกสอนของทีมเยือนเผย "พอใจกับผลงานในเกมนี้ พร้อมยอมรับเเม้จะชนะเเต่ก็ยังมีส่วนที่ต้องปรับปรุงเเก้ไขเพื่อให้ทีม เเข็งเเกร่งกว่านี้ เพื่อโอกาสในการก้าวไปสู่ตำเเหน่งเเชมป์อย่างที่ตั้งเป้าไว้"     
 

         เเมน ออฟ เดอะ เเมตช์ : เชาว์วัตน์ วีระชาติ (บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด)