ทัพ "ช้างศึก"ทีมชาติถูกจัดอยู่อันดับ 13 ของเอเชียจากการแข่งขันยู-23 ที่กรุงโดฮา กาตาร์ โดยมีอันดับเหนือกว่าทีมชาติจีน, เวียดนาม และเยเมน ขณะที่เกาหลีเหนือที่เสมอไทยในรอบแรก 2-2 อยู่อันดับ 8 ซึ่งทาง "ซิโก้"เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง กุนซือใหญ่ของทีมชาติไทย ลั่นจากผลงานที่ผ่านมาตนเองนั้นพอใจเพราะแสดงให้เห็นแล้วว่าศักยภาพนักเตะไทยนั้นสู้ได้ในระดับเอเชีย เพียงแต่ยังต้องเร่งสร้างสมรรถภาพเพิ่มเติม อันดับที่แตกต่างเพราะการเข้ารอบเท่านั้นเอง ชี้ถือว่าก้าวมาถูกทางแล้ว และจะต้องพยายามให้ชุด 19 และ 23 ปี ผ่านเข้ารอบสุดท้ายอย่างต่อเนื่องต่อไป โดยที่ในทีมชุดใหญ่ในรอบ 12 ทีมสุดท้ายจะเป็นอีกบทพิสูจน์ อีกครั้งทีสำคัญของทัพทีมชาติไทย ขณะเดียวกันด้านสมาคมฟุตบอลเวียดนาม จัดการเด้ง โทชิยะ มิอูระ ออกจากเฮดโค้ชแล้ว หลังไม่สามารถพาทีมประสบความสำเร็จใน 3 รายการ ทั้งซีเกมส์ ครั้งที่ 28, ฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย และยู-23 ชิงแชมป์เอเชีย ทีตกรอบแรกชนิดพ่ายรวดในการลงสนามทั้งสามนัด

 หลังจากทีมชาติไทยชุดคัดเลือกโอลิมปิกเกมส์ ซึ่งเดินทางไปแข่งขันศึกฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ที่กรุงโดฮา ประเทศกาตาร์ ระหว่างวันที่ 12-30 ม.ค. 59 เพื่อคัดเลือกหา 3 ทีมไปแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ ที่กรุงรีโอ เดอ จาเนโร ประเทศบราซิลเดือนส.ค. นี้

 โดยผลงานของทีมชาติไทยไม่ผ่านรอบแรกจากการลงสนาม 3 นัดเกมแรกเสมอ ซาอุดีอาระเบีย 1-1 นัดที่สอง แพ้ ญี่ปุ่น 0-4 และนัดสุดท้ายรอบแรกเสมอเกาหลีเหนือ 2-2 เก็บได้เพียง 2 แต้ม เท่ากับซาอุดีอาระเบีย และเกาหลีเหนือ แต่เมื่อมาวัดแบบมินิลีก และประตูได้เสียเป็นรองทั้งสองทีม ทำให้ต้องตกรอบแรกอย่างน่าเสียดาย
 
ล่าสุดนั้นทางเอเอฟซี ฝ่ายจัดการแข่งขันได้มีการจัดอันดับผลงานจากทีมที่เข้าร่วมการแข่งขันทั้งหมด 16 ทีมออกมาแล้วปรากฏว่าทัพ "ช้างศึก"ทีมชาติไทยนั้นรั้งอยู่อันดับ 13 ของการแข่งขันเหนือกว่าทีมชาติจีน, เวียดนาม และเยเมน โดยที่ผลงานแต้มเท่ากับซาอุดีอาระเบีย ทีมอันดับ 12 แต่ทีมชาติไทยเป็นรองจากการวัดที่ประตูได้เสียที่น้อยกว่าอยู่ 3 ลูก
 
เกี่ยวกับผลงานของทีม "ช้างศึกจูเนียร์"ในเวทีระดับเอเชียครั้งนี้ ซึ่งทาง "ซิโก้"เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง หวังจะให้เป็นเวทีในการยกระดับแข้งทีมชาติไทย ก็ได้มีการแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับอันดับผลงานของทีมชาติไทยจากการแข่งขันในครั้งนี้ที่ถูกจัดอยู่อนดับ 13 ของการแข่งขันว่า
 
"ที่ผ่านมาผมเองก็พยายามที่จะทำให้ทีมชาติไทย ขยับขึ้นไปติดท็อปเท็นให้ได้ ซึ่งเราก็ต้องเริ่มจากทีมในระดับ 19 หรือ 23 ปีเช่นนี้ และจากผลงานที่เกิดขึ้นก็แสดงให้เห็นแล้วว่าเรา เริ่มขยับเข้าใกล้ท็อปเท็นตามเป้าหมาย และไม่ได้ห่างจากระดับเอเชียมากนักแล้ว เพียงแต่ผลงานในสนาม ที่เราตกรอบแรกเท่านั้นเอง เมื่อเทียบกับเกาหลีเหนือที่ถูกจัดให้อยู่อันดับ 8 เพราะผลงานการเข้ารอบสองของเขา แต่ถ้าดูผลงานที่เจอกับเราก็ถือว่าเราสู้ได้ ซึ่งผมเองก็พอใจ"
 
"ดังนั้นหากมองกันที่มาตรฐาน เราเองก็มีโอกาสที่จะขยับขึ้นไปยืนอยู่จุดนั้นได้เช่นกัน เพียงแต่เราต้องมาปรับในส่วนที่เรายังขาดหายไปเรื่องของสมรรถภาพความฟิตให้แข็งแกร่งกว่าเดิม จากการแข่งขันรายการนี้ทำให้เราทราบว่ามาตรฐานเรากำลังปรับขยับขึ้นไปสู้กับทีบทีมระดับเอเชียได้ ไม่ได้ห่างกันมากนักแล้ว ซึ่งเราจะพยายามทำงานหนักต่อไป แต่ทั้งนี้ก็ต้องดูผลงานในทีมชุดใหญ่ด้วยในการเจอกับอิรัก และการลงเล่นรอบ 12 ทีมสุดท้ายต่อไป เพราะนี่คืออีกบทพิสูจน์ที่แท้จริง ที่เราทุกคนทุกฝ่ายจะต้องช่วยกันทำงาน ไม่ใช่เฉพาะตัวผม นักเตะหรือทีมงาน แต่ต้องเป็นทั้งระบบ รวมถึงกำลังใจจากแฟนบอลไทยทุกคนที่จะคอยสนับสนุนเราด้วย"
 
ทั้งนี้สำหรับผลการจัดอันดับจากการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ที่กรุงโดฮา ประเทศกาตาร์ ระหว่างวันที่ 12-30 ม.ค. 59 เพื่อคัดเลือกหา 3 ทีมไปแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ที่กรุงรีโอ เดอ จาเนโร ประเทศบราซิลเดือนส.ค. นี้มีดังนี้ อันดับ 1-2 ( ญี่ปุ่น หรือเกาหลีใต้ ที่จะชิงชนะเลิศวันที่ 30 ม.ค. นี้ ) อันดับ 3-4 (กาตาร์ หรืออิรัก ที่จะชิงอันดับ 3 วันที่ 29 ม.ค.) อันดับ 5 สหรัฐอาหรับเอมิเรสต์, อันดับ 6 อิหร่าน, อันดับ 7 จอร์แดน, อันดับ 8  เกาหลีเหนือ, อันดับ 9  ออสเตรเลีย, อันดับ 10  อุซเบกิสถาน, อันดับ 11 ซีเรีย, อันดับ 12 ซาอุดีอาระเบีย, อันดับ 13 ไทย, อันดับ 14  จีน, อันดับ 15 เวียดนาม และอันดับ 16  เยเมน
 
ขณะเดียวกันเมื่อวันที่ 28 ม.ค. ที่ผ่านมา คณะผู้บริหารสมาคมฟุตบอลเวียดนามได้เรียกประชุมด่วนในกรุงโฮจิมินห์ ซิตี้ โดยที่มีประเด็นหลักก็คือ การหารืออนาคตของ โทชิยะ มิอูระ เฮดโค้ชชาวญี่ปุ่นของทีมเวียดนาม ที่พาทีมชุดใหญ่ หมดสิทธิ์ในการเข้าสู่รอบ 12 ทีมสุดท้าย ฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย พร้อมกับตกรอบแรก ศึกเอเอฟซี ยู-23 แชมเปี้ยนชิพ ที่ประเทศกาตาร์ รวมถึงชวดการได้เหรียญทองซีเกมส์ ครั้งที่ 28 ที่สิงคโปร์
 
การประชุมครั้งนี้มีรายงานว่า สมาคมฟุตบอลเวียดนามให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย จึงให้สมาชิกผู้บริหารทุกคนลงมติกัน และผลก็คือ เสียงส่วนใหญ่เห็นด้วยที่จะไล่ โทชิยะ มิอูระ ออกจากตำแหน่งการกุมบังเหียน แม้ว่าจะมีเหลือสัญญากับโค้ชชาวญี่ปุ่นผู้นี้อีกสองเดือนก็ตาม

 จากการปลด โทชิยะ มิอูระ ครั้งนี้ มีรายงานว่า สมาคมฟุตบอลเวียดนาม เตรียมแต่งตั้ง หู่ ตัง ขึ้นมากุมบังเหียนแทน แต่อย่างไรก็ตามคำขอของเขากำลังอยู่ในดุลยพินิจของทุกคนในทีม ซึ่งยังไม่มีการเห็นการตอบรับจากผู้ใด
 
สำหรับ โทชิยะ มิอูระ พาทีมชาติเวียดนาม ไม่ประสบความสำเร็จในศึกฟุตบอลโลก 2018 รอบตัดเลือก โซนเอเชีย รอบสอง กลุ่ม เอฟ ในการพบกับทีมชาติไทยตลอด 2 นัด เริ่มจากบุกมาแพ้ 0-1 และเปิดรังพ่ายคาบ้านให้กับทัพ "ช้างศึก"ไปแบบหมดรูป 0-3