มีพลิกอีกแล้ว ! ปัญหาในมุ้งวงการเทนนิสไทย หลัง "บิ๊กสุวัจน์" แพ้การเลือกตั้งเมื่อ 23 ม.ค.จนเป็นเหตุให้คณะกรรมการบริหารต้องยื่นเรื่องฟ้องกกท.และตรวจสอบเอกสารวุ่นพบพิรุธหลายอย่าง ล่าสุดทำท่าจะจบแบบแฮปปี้เอ็นดิ้ง หลังรองเลขาฯและนายทะเบียนสมาคม ดอดเข้าบ้านสุวัจน์ฯ ขอขมาและพร้อมพา 62 สโมสรเข้าขอโทษอดีตนายกฯ และร่วมลงชื่อหนุนให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะแถมยังกลับลำดัน "สุวัจน์" นั่งบริหารงานต่อ ชี้เพือให้วงการเทนนิสเดินหน้า ขณะที่"สมบัติ เอื้มมงคล" แสดงจุดยืนชนะอย่างสุจริต ชี้เหตุที่เกิดขึ้นเป็นปัญหาภายในของสมาคมเอง การเลือกตั้งจะเป็นโมฆะให้เป็นการพิจารณาของ กกท.พร้อมน้อมรับ

จากกรณีปัญหาหลังการเลือกตั้งนายกสมาคมกีฬาเทนนิส ลอนเทนนิสสมาคมฯ ที่อดีตนายกสมาคม 7 สมัย "สุวัจน์ ลิปตพัลลภ" ได้คะแนนเสียงน้อยกว่า "นายสมบัติ เอื้อมมงคล" อดีตนักเทนนิสทีมชาติ 19 ต่อ 35 เสียง จากนั้นประธานการประชุม "บิ๊กเยิ้ม" พล.อ.ธวัชชัย สมุทรสาคร ได้สั่งยุติการประชุมก่อนจะประชุมครบวาระ พร้อมยื่นเรื่องร้องเรียนไปยังการกีฬาแห่งประเทศไทย ตั้งข้อสังเกตุพบสิ่งผิดปกติในการลงคะแนนเลือกตั้ง และ การรับมอบ อำนาจสโมสรสมาชิกนั้นมีข้อพิรุธหลายอย่าง ก่อนที่จะมีการดึง  "พล.ร.อ.บรรณวิทย์ เก่งเรียน"

 ประธานที่ปรึกษาสมาคมฯ มาร่วมตรวจสอบและเปิดสำนักงานเข้าไปตรวจสอบเอกสารหลักฐานการลงทะเบียนสโมสรสมาชิก ซึ่งก็ยิ่งทำให้พบพิรุธอีกหลายอย่างและจะมีการรวบรวม
ยื่นต่อ "นายสกล วรรณพงษ์" ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย( กกท.) ในวันที่ 29 ม.ค.นี้

ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อวันที่ 28 ม.ค.ที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวได้รับรายงานว่า นายไททนุ วรรณสุข รองเลขาธิการ และ นายทะเบียนสมาคมฯ ได้เข้าไปกราบขอขมา นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ที่บ้านพัก ซ.ราชวิถี 20 พร้อมกล่าวว่า การเดินทางมาหานายสุวัจน์ ครั้งนี้เพื่อขอรับผิดในความผิดพลาดที่เกิดขึ้นในวันที่ 23 ม.ค.ที่ผ่านมา ส่วนรายละเอียดต่างๆไม่ขอพูดถึง ซึ่งนายสุวัจน์ได้ให้อภัยในทุกเรื่อง เพราะท่านอยากให้เกิดความรัก ความสามัคคี และอยากเห็นทุกฝ่ายมาร่วมกันพัฒนาวงการเทนนิสไทยให้เจริญก้าวหน้าต่อไป ดังนั้นตนจึงได้ประสานกับสโมสรสมาชิกทั้ง 62 สโมสร เพื่อจะเข้ามาขอขมานายสุวัจน์ ที่ศูนย์พัฒนากีฬาเทนนิสแห่งชาติ ในวันที่ 29 ม.ค.นี้

"ผมได้ประสานกับสโมสรสมาชิกทั้ง 62 สโมสรแล้ว และวันที่ 29 ม.ค.นี้ก็จะมากันครบทุกคนก็เห็นพ้องร่วมกันในการตัดสินใจครั้งนี้ โดยหลังขอขมาก็จะร่วมรับประทานข้าวเที่ยงกัน ก่อนจะร่วมกับทีมของ พล.อ.ธวัชชัย สมุทรสาคร เดินทางไปพบนายสกล วรรณพงษ์ ผู้ว่าฯกกท.เพื่อยืนยันร่วมกันว่าการประชุมในวันที่ 23 ม.ค.ไม่สมบุรณ์ การเลือกตั้งถือเป็นโมฆะ เพราะยังไม่จบวาระประชุม พล.อ.ธวัชชัย ก็ยุติการประชุมไปก่อน ส่วนเรื่องการเลือกตั้งครั้งใหม่ก็ขึ้นอยู่กับ พล.อ.ธวัชชัย ว่าจะดำเนินการต่อไปอย่างไร" นายไททนุ กล่าว

นอกจากนี้นายไททนุยังกล่าวอีกว่า หากทุกอย่างจบลงด้วยดี สโมสรสมาชิกที่ไม่ได้สนับสนุนนายสุวัจน์ในวันเลือกตั้งที่ผ่านมา ยืนยันว่าจะสนับสนุนให้นายสุวัจน์ ให้กลับมาเป็นนายกลอนเทนนิสสมาคมฯ ต่อไป เพราะว่าได้มีการคุยกันนอกรอบกับสโมสรหลังจากวันนั้นแล้ว และตนก็สามารถตอบแทนสโมสรได้เพราะว่าได้มีการคุยกันต่อเนื่อง ยืนยันว่าทุกคนมีความเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นอย่างมาก

 นายไททนุ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ตนก็จะรับอาสาไปคุยกับนายสมบัติ เอื้อมมงคง ผู้ที่ได้รับคะแนนสนับสนุนในการเลือกตั้งให้เข้าใจในสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมด และ เชื่อว่านายสมบัติจะเข้าใจ
   
ด้านนายสมบัติ เอื้อมมงคล กล่าวถึงเรื่องดังกล่าวว่า ตนไม่รุ้ว่าเกิดอะไรขึ้นในคณะกรรมการบริหารสมาคมฯ ส่วนตนเองก็เป็นเพียงคนที่ถูกทาบทาม และ เสนอชื่อให้ลงเลือกตั้ง และเมื่อสโมสรสมาชิกลงคะแนนให้เป็นผู้ชนะก็พร้อมทำหน้าที่ในจุดนี้ และยืนยันความบริสุทธิ์ใจและความโปร่งใสในการเข้ามา ไม่มีซื้อเสียง และ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องก้บการลงทะเบียนหรือรับมอบอำนาจของสโมสรสมาชิกที่เข้าประชุมในวันดังกล่าว เพราะตนก็ไม่ได้เข้าร่วมประชุม อีกทั้งการประชุม การดำเนินการเลือกตั้งทั้งหมดเป็นฝ่ายสมาคมที่ดำเนินการทั้งสิ้น

"ณ วันนี้ผมเองยืนยันความบริสัทธิ์ใจเหมือนเดิม ผมก็แค่คนที่ถูกเสนอชื่อมาเท่านั้น กรดบวนการต่างๆผมไม่ได้ยุ่งเกี่ยวเลย ผมคิดว่าปัญหาที่เกิดขึนเป็นปัญหาภายในคณะกรรมการบริหารสมาคมเอง ซึ่งเขาก็ต้องไปเคลียร์กันเอง ส่วนจากนี้การเลือกตั้งจะเป็นโมฆะหรือไม่ก็ให้กกท.ตัดสิน และไม่ว่าผลจะออกมาอย่างไรผมก็พร้อมยอมรับ เพราะผมเองก็ต้องการให้วงการเทนนิสเดินหน้า ผมอยากเหฌนการพัฒนาของวงการเทนนิสไทย นี่คือจุดยืนที่ทำให้ตอบรับคำทาบทามชองสโมสรสมาชิกให้เสนอชื่อลงเลือกตั้ง" นายสมบัติ กล่าว