จบข่าว! 'มาดามโอ๋' ปริยากร รัตนสุบรรณ ยอมรับรู้สึกดีใจและอยากเข้าไปทำงานกับลุมพินี เพราะผู้บริหารทุกคนให้เกียรติกับตนอย่างมาก แต่เนื่องจากตนมีงานต้องรับผิดชอบเยอะ กลัวทำแล้วจะไม่ดีที่สุด จึงตัดสินใจไม่ขอเป็นโปรโมเตอร์เวทีลุมพินีดีกว่า ด้าน 'บิ๊กซ้ง' เป็นปลื้ม ที่ลูกสาวถูกทาบทามจากลุมพินีให้เป็นโปรโมเตอร์ แต่ถ้าเป็นแล้วก็คงต้องกระทบกับตนอย่างแน่นอน และตอนนี้ลูกสาวก็มีภาระหน้าที่ต้องรับผิดชอบหลายอย่าง ทั้งจัดมวยโลก ดูแลโรงงานอุปกรณ์มวย และเป็นนายกสมาคมกีฬาไทยฯ ทางครอบครัวก็ไม่อยากให้ทำงานหนักเกินไป

หลังจากที่มีโปรโมเตอร์เวทีมวยลุมพินี ลาออกไปหลายคน ล่าสุดเป็น "กำนันแก๊" ประมุข โรจนตัณฑ์ เจ้าของศึก ป.ประมุข ทำให้ผู้บริหารเวทีมวยลุมพินี ต้องการบุคคลที่เข้ามาเป็นโปรโมเตอร์ของเวที และได้ทาบทาม "มาดามโอ๋" ปริยากร รัตนสุบรรณ เข้ามาเป็นโปรโมเตอร์ ต่อจาก ส.จ.วิชิต อ่องละออ โปรโมเตอร์คนล่าสุดของเวทีลุมพินี เจ้าของศึกรวมพลคนแปดริ้ว ซึ่งยังไม่ได้มีการตอบตกลงจาก "มาดามโอ๋" รวมถึง "บิ๊กซ้ง" ทรงชัย รัตนสุบรรณ โดยยังแบ่งรับแบ่งสู้ ไม่ตอบยืนยันชัดเจน แต่ล่าสุดสองพ่อลูกยอดโปรโมเตอร์ชื่อดังของวงการมวยเมืองไทย ได้ออกมากล่าวน่าจะชัดเจนแล้วว่า คงต้องปฏิเสธกับการเป็นโปรโมเตอร์เวทีลุมพินี โดยให้เหตุผลว่าว่ามีภาระหน้าที่ต้องรับผิดชอบเยอะ ทั้งในส่วนของงานประจำและต้องดูแลครอบครัว ส่วนโปรโมเตอร์ทรงชัยก็เกรงว่าจะมีผลกระทบกับตน อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

โดยโปรโมเตอร์ทรงชัย ได้กล่าวที่เวทีราชดำเนิน เผยว่าก็เป็นเรื่องน่ายินดีนะ ที่ทางเวทีลุมพินีให้เกียรติกับลูกสาวของผมอย่างสูงมาก แต่การจะทำงานตรงจุดนี้ ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ตำแหน่งโปรโมเตอร์เวทีใหญ่ อย่าคิดว่าอยากจะเป็นก็เป็นกันง่ายๆ หรือมีเงินใครก็เป็นได้ มันต้องดูองค์ประกอบหลายอย่าง "กรณีของน้องโอ๋ ถ้าเป็นโปรโมเตอร์ลุมพินี ก็ต้องกระทบมาถึงผมอย่างแน่นอน จริงมั้ยล่ะ จะบอกว่าไม่กระทบคงไม่ใช่แน่ อีกอย่างโอ๋เขาก็มีภาระ หน้าที่ต้องรับผิดชอบหลายอย่าง เขาเป็นถึงนายกสมาคมกีฬาไทยนะ ครอบครัวก็มีความสุขดี ทั้งสามีก็มีอาชีพการงานสบาย และลูกๆ ก็น่ารัก อยากให้เขาดูแลครอบครัวให้ดีๆ ดีกว่า เป็นโปรโมเตอร์มันง่าย แต่จะเป็นให้ดี ให้คนยอมรับศรัทธา มันเหนื่อยนะผมจะบอกให้ ใช้แรงกาย แรงเงินอย่างเดียวไม่ได้ ต้องใช้หัวใจสำคัญที่สุด"
 
ด้านโปรโมเตอร์หญิงระดับโลก ปริยากรเปิดใจกับ "มวยสยาม" ว่า ที่ผ่านมาพอได้รับการติดต่อจากลุมพินี ยอมรับเลยว่ารู้สึกเป็นปลื้ม และดีใจมากๆ แต่ตนต้องคิดให้รอบคอบ ปรึกษากับทางครอบครัวก่อน ซึ่งจากที่ได้พูดคุยกับคุณพ่อ สามี และหลายๆ คน ก็เห็นว่าถ้าจะทำแล้วก็ต้องทำให้ดีที่สุด แต่ถ้ามีงานมีภาระเยอะอยู่แล้ว เราไม่พร้อมที่สุดก็ไม่สมควรจะเป็น "โอ๋ก็อยากเข้าไปนะ ทางผู้บริหารเวทีลุมพินี ทางท่านนายสนามเขาก็เปิดกว้างให้เราเต็มที่ แต่ทุกวันนี้โอ๋มีงานที่รับผิดชอบเยอะเลยล่ะ ทั้งมวยรายการสัญจรต่างจังหวัดก็เยอะ พามวยไปชกต่างประเทศก็แยะ และทางครอบครัวเขาไม่อยากให้เราเหนื่อยเพิ่มอีก ก็โอเคค่ะ เอาเวลาไปช่วยงานพี่กร (สามี) ที่เขมร แล้วก็ทำโรงงานอุปกรณ์มวยเอสวันก็ดี ต้องขอขอบคุณทุกคนทุกฝ่าย ที่ให้การสนับสนุนและเชียร์โอ๋อย่างเต็มที่เลยนะคะ ขอบคุณค่ะ"