ตามหลักศาสตร์ฟุตบอลสมัยเก่า หมายเลขเสื้อของผู้เล่นนั้นจะไล่มาตามแหน่งจากหลังไปหน้าตามที่เราคุ้นเคยกัน แต่เมื่อยุคสมัยเปลี่ยนไป ผู้เล่นต่างก็มีความเชื่อเป็นของตัวเอง หรือ เป็นความชอบส่วนบุคคล ที่จะใช้เบอร์ที่ตัวเองต้องการแต่ไม่ได้มีความแมตช์กับตำแหน่งที่ตัวเองเล่นเอาซะเลย

         เรามาดูกันว่า 11 แข้งเบอร์แปลกที่หมายเลขเสื้อไม่ตรงตามตำแหน่งนั้น จะมีใครกันบ้าง ไปติดตามกันเลย...

หมายเลข 01 : ดีเร็ค ริออร์แดน

         การหวนกลับคืนรังเก่าอีกครั้งของ ดีเร็ค ริออร์แดน ในวันสุดท้ายของตลาดซื้อขายนักเตะช่วงซัมเมอร์ปี 2008 อาจจะทำให้เขากังวลใจไม่น้อย เมื่อเบอร์ 10 ที่เป็นประจำของเขานั้น ถูก คอลิน นิช หัวหอกร่างโย่งจับจองอยู่ในขณะนั้น

         ถึงกระนั้นดาวยิงเลือดสกอต ก็ตัดสินใจเลือกหมายเลขที่ให้เคียงกับหมายเลย 10 ที่สุดนั่นคือ "01"

         แฟนๆไม่ต้องขยี้ตาหลายรอบเมื่อ ริออร์แดน สวมหมายเลย 01 ลงกระหน่ำประตูในช่วงนั้น

         ถัดจากนั้นอีกไม่นาน เจ้าตัวก็ได้สวมเบอร์ 10 อันเป็นเบอร์โปรดของตนสมใจเมื่อ คอลิน นิช โยกไปสวมหมายเลข 9 แทนที่ สตีเว่น เฟล็ทเชอร์ ที่ย้ายไปร่วมทีม เบิร์นลี่ย์  ช่วงซัมเมอร์ปี 2009

หมายเลข 2 : คลินท์ เดมพ์ซี่ย์

         ตามตำแหน่งแล้ว แข้งจอมเก๋าชาวมะกัน เล่นตำแหน่งศูนย์หน้าและมิดฟิลด์ตัวรุก แต่เจ้าตัวโปรดปรานกับหมายเลข 2 กับการเล่นในระดับสโมสร

         แม้จะเคยสวมใส่เบอร์ 23 ช่วงหนึ่งสมัยค้าแข้งให้กับ ฟูแล่ม แต่หลังจากนั้นเจ้าตัวก็จับจองหมายเลข 2 มาโดยตลอด จนถึงปัจจุบันนี้

หมายเลข 3 : กียาน อซาโมอาห์

         "หมายเลข 3 เป็นเบอร์ที่ผมสวมใส่ตั้งแต่เด็กๆสมัยผมยังอยู่ในกาน่า มันเป็นเบอร์ที่วิเศษสำหรับผมนะ ผมมีความเชื่อที่ว่า ถ้าคุณจะยกของหนักซักหนึ่งอย่าง คุณจะต้องนับ 1 ถึง 3 เพื่อรวบรวมพลังก่อนที่จะยกมัน แล้วก็ทำได้สำเร็จทุกที มันมีพลังที่พิเศษจริงๆ นะเบอร์นี้"

         และหัวหอกของ เซี่ยงไฮ้ อีสเอเชีย ก็ยังสวมใส่หมายเลข 3 เบอร์โปรดของเขาตลอดมา

หมายเลข 4 : เอ็นวานโก้ คานู

         เขาคือโคตรดาวยิงสมัยอยู่ อาร์เซนอล และได้สวมใส่หมายเลข 25 แต่ในนามทีมชาติ ผู้คนจะจนจำเขากับบทบาทศูนย์หน้าร่างโย่งหมายเลข 4

หมายเลข 5 : มิลาน บารอส

         ศูนย์หน้าชาวเช็ก แวะเวียนมาสวมเครื่องนุ่งห่มหงส์แดงเมื่อปี 2002 และได้รับหมายเลขเสื้อเบอร์ 5 ใช้ล่าตาข่าย และก็ประสบความสำเร็จพอสมควรกับการคว้าแชมป์ ลีก คัพ ปี 2003 และโขยกแชมป์ ยูซีแอล ปี 2005

หมายเลข 6 : ดาร์เรน ฮัคเคอร์บี้

         ตามหลักแล้ว หมายเลข 6 จะเป็นผู้เล่นตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวรับ แต่อดีตปีก แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และ นอริช ซิตี้ กลับหยิบเบอร์นี้มาสวมใส่ และก็ทำผลงานได้ดีในระดับนึงด้วย

หมายเลข 7 : พอล สตัลเทอรี่

         ฟูลแบ็กชาวแคเนเดี้ยนผู้โปรดปรานหมายเลข 7 เป็นชีวิตจิตใจ เจ้าตัวจับจองหมายเลขนี้สมัยค้าแข้งให้ แวร์เดอร์ เบรเมน และ ท็อตแนม ฮ็อทสเปอร์

หมายเลข 8 :  เกล็น จอห์นสัน

         ถือว่าเป็นเรื่องน่าแปลกใจที่ อดีตแบ็ก ลิเวอร์พูล มาสวมหมายเลข 8 ที่ บริทานเนีย สเตเดี้ยม ในซีซั่นนี้

         เป็นมิดฟิลด์ตัวกลางก็ไม่ใช่ ตัวรุกก็ไม่ใช่ แต่ทำไมเจ้าตัวเลือกใส่เบอร์ 8 ละเนี่ย?

หมายเลข 9 : คาลิด บูลาห์รูซ

         ปราการหลังชาวดัตช์ ย้ายมาร่วมทัพสิงโตน้ำเงินครามช่วงปี 2006 และสร้างเซอร์ไพรส์แฟนๆด้วยการเปิดตัวด้วยเบอร์ 9 เป็นเบอร์ประจำตัว

         แต่ความฮือฮานั้นก็หายไปในกลีบเมฆ เมื่อเจ้าตัวได้ลงเล่นเพียง 13 เกมเท่านั้นกับเชลซี

หมายเลข 10 :  วิลเลี่ยม กัลลาส

         อดีตเซ็นเตอร์แบ็ก เชลซี, อาร์เซนอล และ ท็อตแนม ฮ็อทสเปอร์ ผู้มีเบอร์ประจำตัวคือเบอร์ 13 ยามรับใช้สโมสร
 แต่การโยกมารับใช้นายหัว อาร์แซน เวนเกอร์ ที่คลับปืนโต เมื่อปี 2006 กลับใช้หมายเลข 10 สืบต่อจาก เดนนิส เบิร์กแคมป์ มันซะเลย

หมายเลข 11 : ซินิซ่า มิไฮโลวิช

         ทุกคนคงรู้จักเจ้าพ่อฟรีคิกอีซ้ายระเบิดชาวเซิร์บกันเป็นอย่างดี แต่เจ้าตัวเป็นกองหลังนะ ดันเลือกใส่เบอร์ 11 นี่มันใช่หรือ?

         ใครจะสนหล่ะ เมื่อจุดขายของเขาคือลูกฟรีคิกระดับเทพต่างหาก!