การแข่งขันฟุตบอลลา ลีกา สเปน

วันเสาร์ที่ 13 กุมภาพันธ์ 2559

เรอัล มาดริด 4-2 แอธเลติก บิลเบา

สนาม: เอสตาดิโอ ซานติอาโก้ เบร์นาเบว, (มาดริด)

          ออกสตาร์ทครึ่งแรกมาได้แค่ 3 นาที ราชันชุดขาว ขึ้นนำก่อน 1-0 อย่างรวดเร็วจากจังหวะที่วางบอลยาวให้ คาริม เบนเซม่า พักอกเอาบอลลงก่อนไหลให้ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ กระชากเข้าเขตโทษด้านซ้าย ก่อนล็อคเข้าขวาแล้วสับไกบอลพุ่งเสียบเสาสองเข้าไปอย่างสวยงาม

          ทว่า 7 นาทีต่อมา แอธ.บิลเบา มาตีเสมอได้จากความผิดพลาดของเจ้าถิ่น ซาบิน เมรีโน่ จ่ายบอลเข้าเขตโทษ ราฟาแอล วาราน ปราการหลังของชุดขาวไปแตะคืนให้ เคย์ลอร์ นาวาส ผู้รักษาประตูเพื่อนร่วมทีมที่วิ่งสวนออกมา แต่ไม่รู้กัน แม้พยายามล้มตัวปัด แต่ไม่พ้นโดน ฆาเบียร์ เอราโซ่ วิ่งมายิงด้วยขวาจ่อๆเข้าประตูไปช่วยให้ บิลเบา ไล่มาเป็น 1-1

          เกมดำเนินมาถึงนาทีที่ 19  ทีมเยือนเกือบขึ้นนำ มิเกล บาเลนเซียก้า เปิดบอลจากทางซ้ายเข้าเขตโทษ อาริตซ์ อาดูริซ ลอยขึ้นโหม่งเต็มหัวบอลตกพื้น แต่ เคย์ลอร์ นาวาส นายทวารเรอัล มาดริด พุ่งปัดไว้ได้หวุดหวิด

          สิบนาทีต่อมา บิลเบาบุกดุดัน มิเกล บาเลนเซียก้า ไหลบอลจากทางซ้ายมาเสาแรก อาริตซ์ อาดูริซ โฉบมายิงบอลชนคานอย่างน่าเสียดาย

          ผ่านมา 37 นาที กลายเป็น เรอัล มาดริด มาขึ้นนำอีกครั้ง เมื่อ ดานิโล่ ไหลบอลเข้ากลางมาที่ ฮาเมส โรดรีเกซ ปั่นด้วยซ้ายตรงหัวกะโหลกบอลโค้งเสียบเสาเข้าไปอย่างสวยงามให้ ราชันชุดขาว นำ 2-1

          นาทีสุดท้ายของครึ่งแรก ราชันชุดขาว มาได้ประตูเพิ่ม คริสเตียโน่ โรนัลโด้ จ่ายบอลเข้าเขตโทษให้ โทนี่ โครส พลิกกดด้วยขวาบอลแฉลบ เอเมอริช ลาปอร์ต กองหลังบิลเบา ที่พยายามบล็อคนิดหนึ่ง ก่อนลอยเข้าประตูไปช่วยให้ เรอัล มาดริด นำห่าง 3-1 เมื่อหมดครึ่งแรก

          มาเล่นกันต่อในครึ่งหลังได้ 8 นาที เจ้าถิ่นบุกเข้าใส่มีโอกาส เมื่อ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ปั่นฟรีคิกด้วยขวาบอลเฉี่ยวเสาซ้ายออกไป

          กระเถิบมานาทีที่ 56 ชุดขาว มีโอกาสอีก การ์บาฆาล ไหลให้กับ คาริม เบนเซม่า หวดด้วยขวาจากนอกเขตโทษบอลเฉี่ยวเสาออกหลังไป

          ล่วงเลยมานาทีที่ 67 เรอัล มาดริด มีลุ้นต่อเนื่อง มาเตโอ โควาซิซ ตะบันด้วยขวาจากหน้าเขตโทษบอลเฉี่ยวสามเหลี่ยมบนออกไป

          นาทีต่อมา เรอัล เปลี่ยนเอา นาโช่ มาร์ตีเนซ ลงสนามมาแทน ดานีโล่ แล้วโยก การ์บาฆาล กลับมายืนแบ็คขวา ซึ่งเป็นตำแหน่งถนัด

          จากนั้นนาทีที่ 72 เรอัล มาดริด เปลี่ยนผู้เล่นอีกครั้งให้ อีสโก้ ตัวรุกจอมเทคนิคลงเล่นแทน มาเตโอ โควาซิซ

          ท้ายเกมนาทีที่ 81 ทีมชุดขาว ได้โอกาสอีก คริสเตียโน่ โรนัลโด้ กดด้วยขวาจากทางกรอบเขตโทษด้านซ้าย แต่ไม่ผ่านมือของ กอร์ก้า อีไรซอซ นายทวารบิลเบา

          สองนาทีต่อมา เรอัล มาดริด เหลือผู้เล่นแค่ 10 คน เมื่อ ราฟาแอล วาราน ปราการหลังไปทำฟาวล์ อาริตซ์ อาดูริซ กองหน้าของบิลเบา เลยโดนใบเหลืองที่สอง กลายเป็นใบแดงถูกไล่ออกไป

          อย่างไรก็ตามเจ้าบ้านมาได้ประตูที่สี่ในนาทีที่ 87 เมื่อ ลูกัส บาสเกซ ที่ลงมาเป็นสำรองเปิดให้กับ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ซัดด้วยขวาจากกลางกรอบเขตโทษบอลเสียบมุมซ้ายเข้าไปให้ เรอัล มาดริด นำขาด 4-1 และเป็นประตูที่สองของโรนัลโด้ ในเกมนี้แล้ว

          ช่วงทดเจ็บ ทีมเยือนมาได้ประตูไล่มา 2-4 จากจังหวะที่ ออสการ์ เด มาร์กอส เปิดบอลจากริมเส้นฝั่งขวา กอร์ก้า เอลูสตอนโด้ โขกเปลี่ยนทางตุงตาข่าย

          เวลาที่เหลือทั้งสองทีมทำอะไรกันเพิ่มไม่ได้อีก จบเกม เรอัล มาดริด ที่เหลือ 10 คน เปิดบ้านถล่ม บิลเบา ไปสวยงาม 4-2 เก็บสามแต้มขึ้นมารั้งรองจ่าฝูงเป็นการชั่วคราว
 

          รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม
          เรอัล มาดริด: เคย์ลอร์ นาวาส - ดานีโล่ (นาโช่ เฟร์นานเดซ น.68), ราฟาแอล วาราน, เซร์คิโอ รามอส, ดาเนียล การ์บาฆาล - ลูก้า โมดริช, โทนี่ โครส, มาเตโอ โควาซิซ (อีสโก้ น.72) - ฮาเมส โรดรีเกซ (ลูกัส บาสเกซ น.80), คาริม เบนเซม่า, คริสเตียโน่ โรนัลโด้ 
          แอธ.บิลเบา: กอร์ก้า อีไรซอซ - ออสการ์ เด มาร์กอส, ชาบี เอต์เซยต้า, เอเมอริช ลาปอร์ต, มิเกล บาเลนเซียก้า - เบนญาต เอเชบาร์เรีย, อันเดร์ อีตูร์ราสเป้ (กอร์ก้า เอลูสตอนโด้ น.62) - ซาบิน เมรีโน่ (บอร์ฆา บีเกร่า น.80), ฆาเบียร์ เอราโซ่, อินญีโก้ เลเก (อีเกร์ มูเนียอีน น.69) - อาริตซ์ อาดูริซ
          ผู้ตัดสิน: อัลฟอนส์ ชาเบียร์ อัลบาเรซ อิซเกียร์โด้