เอฟเวอร์ตัน คอนเฟิร์ม ฟาร์ฮัด โมชิรี่ นักธุรกิจลูกครึ่งอังกฤษ-อิหร่าน จะกลายเป็นผู้ถือหุ้นหลักรายใหม่ของทีม หลังตกลงซื้อหุ้นจำนวน 49.9 เปอร์เซ็นต์จาก บิลล์ เคนไรท์ ประธานคนปัจจุบัน โดย เคนไรท์ มั่นใจ โมชิรี่ คือคนที่จะช่วยทีมได้เป็นอย่างดี

เอฟเวอร์ตัน สโมสรดังแห่งเวที พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ประกาศยืนยัน เมื่อวันเสาร์ที่ 27 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมาว่า ฟาร์ฮัด โมชิรี่ นักธุรกิจลูกครึ่งอังกฤษ-อิหร่าน ได้กลายเป็นผู้ถือหุ้นหลักคนใหม่ของสโมสรแล้ว

ปัจจุบันมีการตกลงกันได้แล้วว่า โมชิรี่ จะซื้อหุ้นจาก บิลล์ เคนไรท์ ประธานของ เอฟเวอร์ตัน เป็นจำนวนถึง 49.9 เปอร์เซ็นต์ โดยตอนนี้เหลือเพียงรอการอนุมัติจาก พรีเมียร์ลีก เท่านั้น การซื้อขายครั้งนี้ก็จะสิ้นสุดลงอย่างเป็นทางการ

ทั้งนี้ เคนไรท์ แสดงความเชื่อมั่นว่า โมชิรี่ คือคนที่จะช่วยพาทีมเดินไปข้างหน้าได้ "หลังจากทำการเสาะหาอย่างละเอียดถี่ถ้วนแล้วนั้น ผมก็เชื่อว่าเราได้พบพันธมิตรที่สมบูรณ์แบบที่จะพาสโมสรก้าวไปข้างหน้าแล้ว ผมรู้จัก ฟาร์ฮัด เป็นอย่างดีในตลอดช่วง 12 เดือนหลังสุด ความรู้ด้านฟุตบอล, การเงิน และสปิริตความเป็น ทรู บลู ของเขา ทำให้ผมเชื่อว่าเขาคือคนที่เหมาะสมที่จะสนับสนุน เอฟเวอร์ตัน"

ด้าน โมชิรี่ กล่าวว่ารู้สึกดีใจมากที่ได้เป็นผู้ถือหุ้นหลักรายใหม่ของ เอฟเวอร์ตัน "ผมรู้สึกดีใจที่ได้โอกาสเป็นผู้ถือหุ้นของ เอฟเวอร์ตัน ทีมที่ประวัติเป็นหนึ่งในสโมสรชั้นนำของทวีปยุโรป พรีเมียร์ลีก ไม่เคยสูสีมากเท่านี้มาก่อน บิลล์ เคนไรท์ สอนผมว่าการเป็น เอฟเวอร์โตเนียน มันมีความหมายยังไง และผมก็ตั้งตารอที่จะได้ทำงานร่วมกับเขาด้วยความตื่นเต้น เพื่อช่วยนำความสำเร็จมาสู่ เอฟเวอร์ตัน ในอนาคต"

สำหรับ โมชิรี่ นั้น มีทรัพย์สมบัติมูลค่ารวมแล้ว 1.3 พันล้านปอนด์ (ประมาณ 68,900 ล้านบาท) และเคยมีหุ้นอยู่กับ อาร์เซน่อล ด้วย แต่เจ้าตัวเพิ่งขายหุ้นก้อนนั้นให้ อลิเชอร์ อุสมานอฟ ผู้ถือหุ้นใหญ่เป็นลำดับที่ 2 ของ "ไอ้ปืนใหญ่" เมื่อวันศุกร์ที่ 26 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา เพื่อหาเงินมาลงทุนกับ เอฟเวอร์ตัน