ย้อนกลับไป 8 ปีที่แล้ว ช่วงก่อนจะเปิดหัวลีกสูงสุดซีซั่น 2009 มีข่าวฮือฮาเกิดขึ้นกับวงการลูกหนังไทยไม่น้อย หลังจาก ''นกวายุภักษ์'' ธ.กรุงไทย คลับลูกหนังชาวดอกเบี้ย ประกาศยุบสโมสรด้วยเหตุผลที่ไม่สามารถจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล ตามที่เอเอฟซี และ สมาคมฟุตบอลฯ กำหนดไว้ ทำให้ บางกอกกล๊าส เข้ามาเทคโอเวอร์ส่งทีมลงเล่นแทน

นั่นจึงเป็นปีแรกที่ บางกอกกล๊าส เอฟซี ซึ่งยกนักเตะมาจาก ธ.กรุงไทย ได้เข้าร่วมโม่แข้งในไทยลีก จากนั้นเป็นต้นมาราว 8 ปี พวกเขาเจอกับฟอร์มการเล่นที่ดีและไม่ดีปะปนกันไป ทว่าการได้แชมป์เมเจอร์แรกของไทยอย่าง เอฟเอ คัพ ปี 2014 ทำให้ "เดอะ แรบบิท" สามารถประกาศตัวได้เป็นทีมแนวหน้าได้ไม่น้อย

เหนือสิ่งอื่นใดเมื่อผ่านไป 6 นัดของปี 2016 ปรากฏว่า บางกอกกล๊าส เอฟซี กลายเป็นทีมที่ยึดบัลลังก์จ่าฝูง แม้ว่าจะแพ้แค่หนเดียว หลังจากบุกมาปราชัยให้กับ "กิเลนผยอง" เอสซีจี เมืองทองฯ 0-2 แต่เวลานี้เขาขึ้นมาเถลิงอันดับ 1 เป็นหนที่สองในรอบ 8 ปีเลยทีเดียว

หนแรกที่ทำได้เกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2009 หลังจาก เสมอ ทีโอที (ห) 1-1, ชนะ จุฬาฯ 2-1 (ย), ชนะ ศรีราชา 1-0 (ห), ชนะ ชลบุรี 3-1 (ย), ชนะ การไฟฟ้า 2-1 (ย) และชนะ พัทยาฯ 2-1 (ห) เก็บไป 16 คะแนนเลยทีเดียว ซึ่งมากกว่าปีนี้อีกด้วยซ้ำไป

ทว่าซีซั่น 2010 จบอันดับ 6 จาก 6 นัด หลังจาก ชนะ เพื่อนตำรวจ 1-0 (ห), แพ้ สมุทรสงคราม 0-1 (ย), แพ้ ทีโอที 0-2 (ย), ชนะ ทหารบก 3-1 (ห), ชนะ เมืองทองฯ 1-0 (ห) และ เสมอ พัทยา 1-1 (ย) ก่อนที่ปี 2011 จะร่วงลงมาถึงอันดับ 13 เมื่อ เสมอ เมืองทองฯ 0-0 (ห), เสมอ อาร์มี่ 1-1 (ห), เสมอ การท่าเรือ 1-1 (ย), ชนะ โอสถฯ 2-0 (ห), แพ้ ทีโอที 1-2 (ย)

ปี 2012 บีจี ขยับมาถึงรองจ่าฝูง ด้วยการชนะ วัวชนฯ 2-0 (ห), เสมอ ชลบุรี 0-0 (ห), เสมอ เมืองทองฯ 2-2 (ย), เสมอ พัทยา 1-1 (ห), ชนะ เพื่อนตำรวจ 2-0 (ห), ชนะ เชียงราย 4-1 (ห) แต่ปี 2013 กลับหล่นไปที่ 12 ของตาราง จากการ แพ้ สงขลา 0-1 (ย), แพ้ บุรีรัมย์ 0-2 (ย), เสมอ เชียงราย 2-2 (ย), แพ้ เพื่อนตำรวจ 0-1 (ห), เสมอ สมุทรสงคราม 1-1 (ย), ชนะ โอสถฯ 3-0 (ห)

ขยับมาที่ปี 2014 เดอะ แรบบิท กลับมาคว้าอันดับ 2 จาก 6 แมตช์ ด้วยการ ชนะ เชียงรายฯ 2-0 (ย), ชนะ สมุทรสงคราม 1-0 (ห), แพ้ สุพรรณบุรี 0-2 (ย), ชนะ บุรีรัมย์ฯ 3-0 (ห), แพ้ ชลบุรี 2-3 (ย), ชนะ แอร์ฟอร์ซฯ 2-0 (ห) กระทั่งปีที่ผ่านมาขึ้นมาอยู่ที่ 3 เมื่อ ชนะ เชียงรายฯ 2-1 (ย), เสมอ เมืองทอง 0-0 (ห), ราชนาวี 1-0 (ย), ชนะ แบงค็อกฯ 1-0 (ห), ชนะ ศรีสะเกษ 3-2 (ห) และ แพ้ ทีโอที 1-2 (ย)

ซึ่ง "เสี่ยเหน่ง" ศุภสิน ลีลาฤทธิ์ รองประธานสโมสร บางกอกกล๊าส เอฟซี ได้ออกมากล่าวว่า "เราคงจะยังหวังในการเป็นแชมป์ไม่ได้ เพราะไทยลรีกเพิ่งจะเริ่มต้นมาเพียงแค่ 6 นัดเท่านั้น และเรายังต้องเจอกับทีมยักษ์ใหญ่อีกหลายทีมอีกด้วย ฉะนั้นเราจึงไม่อยากจะกดดันผู้เล่นของเรามากเกินไป"

"ทว่าการทำทีม ผมมั่นใจว่าทุกทีมต้องการประสบความสำเร็จด้วยการเป็นแชมป์อยู่แล้ว เพียงแต่เราต้องรักษามาตรฐานการเล่นของเราให้ได้ตลอด เนื่องจากที่ผ่านมาเราอาจจะแผ่วไปบ้างบางช่วง ฉะนั้นเราต้องปรับจูนทีมให้สามารถยืนระยะได้ตลอดจนกระทั่งจบฤดูกาล"

"ที่สำคัญเราคิดว่าการที่เราปั้นทีมอะคาเดมี่มาตั้งแต่ปี 2009 มาถึงวันนี้นักเตะเหล่านั้นสามารถเป็นผลผลิตที่ขึ้นมาเล่นให้กับทีมชุดใหญ่ได้อย่างเต็มที่ อีกทั้งยังมีตัวผู้เล่นที่สามารถ 11 นักเตะตัวจริงได้ เหมือนกับเกมที่เราชนะ บีอีซี เทโรฯ 5-1 ที่มีการโรเตชั่นหลายคน แต่ความสมดุลของทีมไม่จางหายไป"

การเปิดหัวได้อย่างสวยงามของ บางกอกกล๊าส เอฟซี ครั้งนี้ ต้องกันระยะยาวๆว่าพวกเขาจะมีฟอร์มการเล่นที่สม่ำเสมอหรือไม่ ถ้าหากทำได้จนจบซีซั่น ฤาปีนี้การฉลองแชมป์ อาจจะไปรับถ้วยกันที่สนาม ลีโอ สเตเดี้ยม ก็เป็นไปได้