บาร์ซ่าจัดเมสซี่นำเอ็มเอสเอ็นฟัดตราหมีที่มีกรีซมันน์ยิง
Posted 05/04/2016 by siamsport
ปรีวิวฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก
(รอบก่อนรองชนะเลิศ นัดแรก)
วันอังคารที่ 5 เมษายน 2559
บาร์เซโลน่า (สเปน) - แอตเลติโก มาดริด (สเปน)
ถ่ายทอดสด ช่อง : ทรูโฟร์ยู, บีอิน สปอร์ตส์, เวลา : 01.45 น.
สนาม : คัมป์ นู (บาร์เซโลน่า)
บาร์เซโลน่า ของ หลุยส์ เอ็นรีเก้ ฟอร์มแผ่วต่อเนื่องหลังไม่ชนะมา 2 เกมติด ล่าสุดปราชัยคาบ้านต่อ เรอัล มาดริด ในศึก "เอล กลาซิโก้" 1-2 โดยเป็นการแพ้นัดแรกนับตั้งแต่ช่วงต้นเดือน ต.ค. ปีที่แล้ว ด้วย ทำให้แต้มนำ แอต.มาดริด ลดมาเหลือ 6 คะแนนแล้ว
รอบที่แล้วในถ้วยยุโรป พวกเขาผ่านอาร์เซน่อลมาได้แบบสบายๆ สกอร์รวม 2 นัด 5-1 ทะลุเข้ามาล้างตา จากที่เคยแพ้ "ตราหมี" ในรอบนี้เมื่อ 2 ฤดูกาลก่อนด้วย
ความพร้อมล่าสุด เคราร์ด ปิเก้ พ้นโทษแบนเกมยุโรป 1 นัดกลับมาดูแลหลังบ้านในรายการนี้อีกครั้ง
ขณะที่ อเล็กซ์ บีดาล เพิ่งเจ็บกล้ามเนื้อขาขวาระหว่างซ้อมและต้องพักราว 1 สัปดาห์ ทำให้ชวดเกมนี้โดยปริยาย รวมถึงแข้งเดี้ยงก่อนหน้านี้อย่าง เฌเรมี มาติเยอ, อาเดรียโน่ กอร์เรอา และ ซานโดร รามีเรซ รวมถึง ราฟินญ่า อัลกันตาร่า ที่อยู่ในช่วงเร่งเรียกความฟิต
มาร์ค อันเดร แทร์ ชเตเก้น กลับมาเฝ้าประตูตามปกติในบอลถ้วย แนวรับวางใจ ดาเนียล อัลเวส, เคราร์ด ปีเก้, ฮาเวียร์ มาสเคราโน่ และ จอร์ดี้ อัลบา แดนกลางเป็น 3 ทหารเสือ อีวาน ราคิติช, เซร์คิโอ บุสเก็ตส์ และ อันเดรส อีเนียสต้า แดนหน้าใช้งาน 3 ประสาน "เอ็มเอสเอ็น" ลิโอเนล เมสซี่, หลุยส์ ซัวเรซ และ เนย์มาร์ เหมือนเดิม
แอต.มาดริด ของ ดีเอโก้ ซิเมโอเน่ เพิ่งระเบิดฟอร์มเทพเปิดบ้านถล่ม เรอัล เบติส 5-1 เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ทำให้ต่อความหวังในการแซง "เจ้าบุญทุ่ม" ขึ้นไปคว้าแชมป์ ลา ลีกา ต่อไป
ส่วนในถ้วยยุโรป รอบ 16 ทีมสุดท้าย ต้องลุ้นหนักถึงในการผ่าน พีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น ด้วยการชนะดวลจุดโทษ 8-7 หลังเสมอ 0-0 ทั้ง 2 นัด รวมทั้งช่วงต่อเวลาพิเศษด้วย
สภาพทีมล่าสุด ดีเอโก้ โกดิน กลับมาซ้อมเรียบร้อยแล้วและพร้อมคืนสนามทันที โดย นาโช่ มอนซาลเบ กับ เบร์นาเบ้ บาร์รากาน เป็น 2 แข้งจากทีมเยาวชนที่ถูกเรียกตัวร่วมเดินทางไป บาร์เซโลน่า ด้วย
ขณะที่ ยานนิค เฟร์เรยร่า การ์ราสโก้ กับ สเตฟาน ซาวิช พร้อมเป็นตัวเลือกเช่นกันแต่รอโอกาสบนม้านั่งสำรองไปก่อน ส่วน โฮเซ่ มาเรีย คีเมเนซ กับ ติอาโก้ เมนเดส พักฟื้นต่อไป
ยาน โอบลัค รับหน้าที่ผู้รักษาประตู ดีเอโก้ โกดิน กลับมาจับคู่เซนเตอร์แบ็กกับ ลูกัส เอร์นานเดซ แบ็กขวา-ซ้ายเป็น ฆวนฟราน กับ ฟิลีเป้ ลุยส์ เกมกลางสนามเป็นความรับผิดชอบของ กาบี เฟร์นานเดซ กับ เอากุสโต้ เฟร์นานเดซ ปีกขวา-ซ้ายให้ โกเก้ กับ ซาอูล ญีเกซ ลากเลื้อยสนับสนุนคู่กองหน้า เฟร์นานโด ตอร์เรส กับ อองตวน กรีซมันน์
รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
บาร์เซโลน่า (4-3-3) : มาร์ค อันเดร แทร์ ชเตเก้น - ดาเนียล อัลเวส, เคราร์ด ปีเก้, ฮาเวียร์ มาสเคราโน่, จอร์ดี้ อัลบา - อีวาน ราคิติช, เซร์คิโอ บุสเก็ตส์, อันเดรส อีเนียสต้า - ลิโอเนล เมสซี่, หลุยส์ ซัวเรซ, เนย์มาร์
แอตเลติโก มาดริด (4-4-2) : ยาน โอบลัค - ฆวนฟราน, ดีเอโก้ โกดิน, ลูกัส เอร์นานเดซ, ฟิลีเป้ ลุยส์ - โกเก้, กาบี เฟร์นานเดซ, เอากุสโต้ เฟร์นานเดซ, ซาอูล ญีเกซ - เฟร์นานโด ตอร์เรส, อองตวน กรีซมันน์
ผู้ตัดสิน : เฟลิกซ์ บริช (เยอรมัน)
ข้อมูลเพิ่มเติมที่น่าสนใจ
- บาร์เซโลน่าชนะรวด 6 ครั้งหลังสุดที่ดวลแอต.มาดริดในทุกรายการ และหากชนะเกมนี้อีก (นัดที่ 7) จะเป็นสถิติใหม่ในประวัติศาสตร์การพบ "ตราหมี"
- อย่างไรก็ตาม บาร์เซโลน่าและแอต.มาดริดเจอกันเพียงครั้งเดียวในถ้วยยุโรปก่อนหน้านี้ และแอต.มาดริดผ่านเข้ารอบด้วยประตูรวม 2-1 ในชปล. รอบ 8 ทีมสุดท้าย ฤดูกาล 2013-14 โดยชัยชนะ 1-0 ของแอต.มาดริด ที่กัลเดร่อน เมื่อเมษายน 2014 (นัดสอง) เป็นครั้งล่าสุดที่พวกเขาชนะบาร์ซ่า
- บาร์เซโลน่า ทำคลีนชีตแค่ครั้งเดียวจาก 12 เกมชปล./ยูโรเปี้ยน คัพที่พบคู่แข่งจากสเปนด้วยกัน ซึ่งมาจากเกมกับเรอัล มาดริด ที่เบร์นาเบว เมื่อเมษายน 2011
- ขณะเดียวกัน แอต.มาดริด ไม่เคยยิงได้มากกว่า 1 ประตูจาก 8 เกมชปล./ยูโรเปี้ยน คัพ ที่พบทีมจากสเปนด้วยกัน
- บาร์ซ่าผ่านเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้าย ชปล. เป็นฤดูกาลที่ 9 ติดต่อกัน เป็นสถิติตลอดกาลตอนนี้
- บาร์เซโลน่า ผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศ ชปล. เป็นครั้งที่ 7 จาก 8 ฤดูกาลหลังสุด ยกเว้นเพียงฤดูกาล 2013-14 ที่ถูกเขี่ยรอบ 8 ทีมสุดท้ายโดย แอต.มาดริด
- บาร์เซโลน่า คว้าแชมป์ ชปล. 4 จาก 10 ฤดูกาลหลังสุด และมีสิทธิ์กลายเป็นทีมแรกนับตั้งแต่ เอซี มิลาน ที่คว้าแชมป์ยูโรเปี้ยน คัพ/ชปล. 2 สมัยติดต่อกัน ในปี 1989 และ 1990
- บาร์เซโลน่า เป็นหนึ่งใน 2 สโมสรที่ยังไม่แพ้ในชปล. ฤดูกาลนี้ (ร่วมกับเรอัล มาดริด) โดยชนะ 17 จาก 21 เกมในรายการนี้นับตั้งแต่ฤดูกาลที่แล้ว (เสมอ 2 แพ้ 2) โดยยิงประตูได้ทั้ง 21 เกม
- หลุยส์ เอ็นรีเก้ ชนะรวดทั้ง 10 เกมชปล. ที่คุมทีมเล่นในคัมป์ นู ในฐานะผู้จัดการทีมบาร์เซโลน่า (ได้ 27 เสีย 5) ซึ่งเป็นสถิติตลอดกาลของบาร์ซ่าในรายการนี้
- แอต.มาดริด ผ่านเข้าถึงรอบ 8 ทีมสุดท้าย เป็นฤดูกาลที่ 3 ติดต่อกัน โดยทั้งหมดเป็นการเจอทีมจากสเปนด้วยกัน แต่ผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศแค่ครั้งเดียว นับตั้งแต่ปรับรูปแบบมาเป็นชปล.ในฤดูกาล 1992-93 (เข้าชิงในฤดูกาล 2013-14)
- แอต.มาดริด ทำคลีนชีต 13 จาก 17 เกมชปล. หลังสุด
- อย่างไรก็ตาม ทีมของ ดีเอโก้ ซิเมโอเน่ ยิงประตูไม่ได้ 453 นาทีหลังสุดที่เล่นชปล. รอบน็อกเอาต์
- บาร์เซโลน่า และ แอต.มาดริด ลงเล่นรายการนี้ด้วยจำนวนนัดเท่ากันนับตั้งแต่ฤดูกาล 2013-14 (31) แต่บาร์ซ่ายิงได้มากกว่า 20 ประตู ขณะที่แอต.มาดริดเสียน้อยกว่า 6 ลูก
- ลิโอเนล เมสซี่, หลุยส์ ซัวเรซ และ เนย์มาร์ ยิงประตูรวมกันถึง 42 จาก 51 ประตูหลังสุดในชปล.ของบาร์ซ่า นับตั้งแต่ฤดูกาลที่แล้ว (82%)
- เมสซี่ทำ 25 ประตูจาก 28 เกมที่พบแอต.มาดริด เป็นคู่แข่งที่เขายิงได้บ่อยที่สุด (ร่วมกับเซบีย่า)
- เนย์มาร์ ทำ 8 ประตูจาก 7 เกมหลังสุดในชปล. รอบน็อกเอาต์
- หลุยส์ ซัวเรซ ทำ 5 ประตู 3 แอสซิสต์จาก 4 เกมชปล.ที่คัมป์ นู ฤดูกาลนี้
- มีเพียง โทนี่ โครส (372) ที่ผ่านบอลสำเร็จในแดนคู่แข่งมากกว่า กาบี มิดฟิลด์แอต.มาดริด (353) ในชปล. ฤดูกาลนี้
- ยาน โอบลัค นายทวารแอต.มาดริด เสียแค่ 4 ประตูจาก 11 เกมชปล. นับตั้งแต่ปี 2015
TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน
วิเคราะห์บอล ทีมชาติฟิลิปปินส์ พบ ทีมชาติไทย วันศุกร์ที่ 27 ธ.ค. 67
เขี่ยอินโดฯตกรอบ แข้งฟิลิปปินส์ โดนสโมสรอินโดฯยกเลิกสัญญา
ต้องจ่ายหากหวังแชมป์!ยอร์ค ชี้ อาร์เซน่อล ควรเซ็น อิซัค
ที่สุดของหัวใจ! ไกเซโด้ เผยครอบครัวไม่ยอมกินเพื่อซื้อสตั๊ดให้ตน
ไม่ต้องพูดถึงแชมป์!เป๊ป รับ แมนซิตี้ เสี่ยงชวดลุย แชมเปี้ยนส์ ลีก
อัลบั้มภาพเด็ดๆ
แม่เจ้าโว้ย! นักร้องสาวนุ่งบิกิน...
มาย ฮาเร็ม ส่งภาพเขย่าโซเชียล นุ...
เจนนี่ ธมนภัค พริตตี้สุดฮอต นุ่ง...
ฮาน่า ฮาอึน ชอง ดาว TikTok สาวสว...
นาฟ ฉัฐนันท์ ปล่อยแซ่บท้าลมหนาว ...
เต็มที่แล้ว! ไทย พ่าย อุซเบกิสถา...
คลิปไฮไลท์