หลังนำทัพ "ราชันชุดขาว" ประกาศชัยชนะในศึก "เอล กลาซิโก้" ถึงบ้าน บาร์เซโลน่า อริตัวฉกาจเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา แฟนๆ เรอัล มาดริด ก็คงต้องลุ้นกันต่อไปว่า ซีเนดีน ซีดาน จะนำนาวาไปได้สวยแค่ไหน ที่แน่ๆ พวกเขาต้องภาวนาให้ "ซิซู" อย่าเป็นเหมือนกับดาวดังหลายรายที่ผันตัวเองมารับงานโค้ชก็แล้วกัน เพราะเราเคยเห็นกันมาแล้วว่า ยอดนักเตะไม่ได้การันตีความสำเร็จเมื่อเปลี่ยนบทบาทมาเป็นกุนซือ....

ดีเอโก้ มาราโดน่า
ก่อนรับงานคุมทีมชาติอาร์เจนติน่าเมื่อปี 2008 นั้น "หัตถ์พระเจ้า" เคยสัมผัสกับการกุนซือมาแล้ว และผลลัพธ์คือไม่เวิร์กกับสโมสรไม่ใหญ่ไม่โตอย่าง มันดิยู และ ราซิ่ง คลับ ช่วงกลางยุค 90

แม้ว่า "เสือเตี้ย" จะนำนาวาสีฟ้า-ขาวแล่นสู่ เวิลด์ คัพ 2010 ที่ แอฟริกาใต้ ได้ ทว่าแท็กติกที่จับทางได้ง่ายของเขา ก็ถูก เยอรมนี หยุดไว้เพียงรอบ 8 ทีมสุดท้ายด้วยชัยชนะถล่ม 4-0

หลังล้มเหลวกับทีมชาติแล้ว ตำนานลูกหนังโลกพยายามจะกอบกู้ชื่อคืนพร้อมๆ กับขุดทองไปในตัวที่ อัล วาเซิ่ล ในลีกยูเออี แต่เพียง 4 เดือนถัดมา เขาก็ไขก๊อก หลังนำทัพรั้งแค่อันดับ 8 ตามตูดแชมเปี้ยนอย่าง อัล ไอน์ ถึง 29 คะแนน แถมยังตกเป็นข่าวฉาวว่า มีเรื่องกับแฟนบอลฝั่งตรงข้ามอีกต่างหาก

พอล แกสคอยน์
จอมป่วนอย่าง "แก๊ซซ่า" ได้รับการแต่งตั้งให้นั่งแท่นกุนซือ เค็ตเตอริ่ง หลังจากเข้าร่วมสโมสรได้แค่ 39 วัน อย่างไรก็ดี อดีตสตาร์ดังทั้ง นิวคาสเซิ่ล, สเปอร์ส, และ ลาซิโอ ที่ติดทีมชาติอังกฤษถึง 57 นัด กลับทำงานผู้จัดการทีมได้แค่ 6 นัดในลีก ด้วยผลงานชนะ, เสมอ และแพ้อย่างละ 2

ปัจจุบัน แกสคอยน์ ก็กำลังอยู่ในงานจัดการเช่นกัน แต่ไม่ใช่การจัดการทีม หากแต่คือการจัดการชีวิตที่ป่วยเป็นโรคพิษสุราเรื้อรัง รวมถึงสภาพจิตใจที่ไม่ใคร่ปกติ

บ๊อบบี้ ชาร์ลตัน
       
เซอร์ บ๊อบบี้ ยืดอกได้สบายๆ กับดีกรีแชมป์ลีก 3 สมัย, บวกกับแชมป์ ยูโรเปี้ยน คัพ อีก 1 และแชมป์โลกปี 1966 กับทีมชาติอังกฤษ อย่างไรก็ดี ผลงานการโค้ชของแก กลับไม่สามารถนำไปอ้างอิงเพื่อความเท่ห์ได้

แกคุม เปรสตัน ตกชั้นดังตุ๊บเพียงฤดูกาลแรกที่เข้าคุม ก่อนจำจากจรในซีซั่นถัดมาพร้อมสถิตินำทีมคว้าชัยจุ๋มจิ๋มเพียง 33% จาก 99 เกมเท่านั้น ต่อมาช่วงต้นยุค 80 ชาร์ลตัน รับหน้าที่กุนซือชั่วคราวที่ วีแกน และสะกดคำว่าชนะเป็นแค่ 2 จาก 9 แม็ตช์ จึงหันไปเอาดีกับการเป็นผู้อำนวยการฟุตบอลแทน ซึ่งน่าจะเหมาะกะแกสุดแล้ว

โลธ่าร์ มัทเธอุส
       
อดีตนักเตะแชมป์โลก และเจ้าของรางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมยุโรปแห่งปี นับงานกุนซือระดับสโมสรของตัวเองได้มากกว่าจำนวนภรรยาตัวเอง 3 ครั้ง ในช่วง 10 ปี เริ่มตั้งแต่แห่งแรกจาก 7 ที่อย่าง ราปิด เวียนนา ใน ออสเตรีย

และเหมือนความสัมพันธ์ระหว่างพี่ "ซูเปอร์แมน" กับภรรยาเลย เมื่อเกิดความระหองระแหงกันระหว่างอดีตดาวเตะผู้ติดทีมชาติเยอรมนีมากสุดกับสโมสรนายจ้าง จนเป็นเหตุให้ต้องสะบั้นกันทั้งที่ แอตเลติโอ ปาราเนนเซ่, ปาร์ติซาน รวมถึงทีมชาติบัลแกเรีย

ฮริสโต้ สตอยคอฟ
       
ดาวซัลโวร่วมศึก เวิลด์ คัพ 1994 และเจ้าของรางวัลบัลลงดอร์ในปีเดียวกัน จัดเป็นจอมดีเดือดคนหนึ่ง ทั้งสมัยเป็นนักเตะ ก่อนติดนิสัยมาตอนคุมทีมด้วย หลายต่อหลายครั้งที่ "เฮียตอย" กระชากคอลูกทีม ด้วยเหตุผลไม่เชื่อมั่นในแท็กติกของตัวเอง ซึ่งวิธีการแบบนี้ พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า มันไม่เวิร์กเอาเสียเลย เมื่อทีมชาติบัลแกเรียของพี่เค้า วืดทั้ง ฟุตบอลโลก 2006 และ ยูโร 2008

หลัง 3 ปีอันล้มเหลวกับทีมชาติแล้ว สตอยคอฟ ก็มารับงานเทรนเนอร์ช่วงสั้นๆ ที่ เซลต้า บีโก้ ที่ร่วงตกชั้น ก่อนระเห็จไปตุม มาเมโลดี้ ซันดาวน์ส, ลิเท็กซ์ โลเวช และ ซีเอเอสเค โซเฟีย

บ๊อบบี้ มัวร์
       
หลังพลาดงานโค้ชทีมชาติอังกฤษเมื่อปี 1977 และกุนซือ วัตฟอร์ด ในปีเดียวกันแล้ว อดีตกัปตัน "สิงโตคำราม" ก็ได้งานคุม อ๊อกซ์ฟอร์ด โดยมี แฮร์รี่ เร้ดแน็ปป์ เป็นมือขวา ทว่าจากนั้น ก็ต้องพเนจรไปโค้ชให้ ทีม อิสเทิร์น เอเอ ที่ ฮ่องกง ก่อนหวนกลับแผ่นดินเกิดอีกครั้ง เพื่อเป็นผู้จัดการทีมให้ เซาธ์เอนด์ ในเดือน ม.ย. 1984

ในฤดูกาลแรก ทีมสามารถรอดจากการหลุดจากสารบบฟุตบอลลีกหวุดหวิด หลังจากมีปัญหาการเงินสาหัส อย่างไรก็ตาม พวกเขาก็สามารถฮึดขึ้นมาคว้าอันดับ 9 ได้ในซีซั่นถัดมา กระทั่งมีการลงมติเห็นชอบให้ตำนาน เวสต์แฮม ไปนั่งแท่นบอร์ดบริหารแทน ซึ่งเป็นเก้าอี้ที่เจ้าตัวนั่งจนวันสุดท้ายของชีวิต

อลัน เชียเรอร์
       
เขาคือเครื่องจักรถล่มประตูประสิทธิภาพสูงให้ แบล็คเบิร์น, นิวคาสเซิ่ล และทีมชาติอังฤษ อย่างไรก็ตาม หนุ่มชาวจอร์ดี้ กลับไม่สามารถเซฟทีมบ้านเกิดจากการตกชั้นได้ในช่วงที่ก้าวขึ้นมารับบทบาทกุนซือกลางคันในฤดูกาล 2008-09

หลังได้รับมอบหมายงานแล้ว "ฮอตชอต" อลัน เชียเรอร์ นำทัพ "สาลิกาดง" คว้าชัยชนะได้แค่เกมเดียวจาก 8 นัด จนทีมต้องร่วงจากพรีเมียร์ลีกในวันสุดท้ายของฤดูกาล ด้วยเปอร์เซนต์เก็บชัยชนะต่ำเพียง 12.50 เท่านั้น

พอล อินซ์
       
"อินซี่ย์" เคยสั่งให้เพื่อนร่วมทีมเรียกเขาว่า "นายใหญ่" สมัยที่ยังเล่นฟุตบอล และเหมือนอะไรๆ จะไปได้สวย เมื่ออดีตดาวดัง แมนฯ ยูไนเต็ด และ ลิเวอร์พูล ช่วยไม่ให้ แม็คเคิ่ลสฟิลด์ ทาวน์ ตกชั้น แถมยังนำ เอ็มเค ดอนส์ เลื่อนชั้นได้สำเร็จ

แต่พอคุม แบล็คเบิร์น หายนะก็มาเยือน หลังคว้าชัยได้แค่ 6 จาก 21 เกมแล้ว เขาก็โดนไล่ออก ก่อนต้องกลับไปคุม เอ็มเค ดอนส์ อีกรอบ (และล้มเหลว) เช่นเดียวกับที่ น็อตต์ส เคาน์ตี้

ด้วยชื่อเสียงที่โด่งดังสมัยเป็นนักเตะ เลยทำให้ แบล็คพูล เสนองานให้เขาด้วยสัญญาปีต่อปี แม้ว่าจะช่วยให้ "เดอะ ซีไซเดอร์ส" รอดตกชั้นสู่ ลีก วัน ในฤดูกาลแรก แต่ผลงาน 2 คะแนนจาก 12 นัดในซีซั่นถัดมา ส่งผลให้สโมสรตัดสินใจยกเลิกสัญญากับเขา

โทนี่ อดัมส์
       
เขาคือกองหลังจอมแกร่งตลอด 22 ปีที่รับใช้ อาร์เซน่อล โดยลงสนาม 669 นัด และกวาด 10 แชมป์เมเจอร์ ซึ่งรวมถึงถ้วยแชมป์ลีก 3 ใบใน 3 ทศวรรษ แต่น่าถอนใจ ผลงานเมื่อเปลี่ยนหมวกมาเป็นกุนซือ กลับไม่สวยงามเหมือนสมัยใส่สตั๊ด

วีคอมบ์ ตกชั้นประเดิมรับงานกุนซือครั้งแรกของ อดัมส์ ก่อนที่งานถัดมาที่ พอร์ทสมัธ ในซีซั่น 2008-09 จะมีอายุสั้นแค่ 16 เกม จากนั้น อดีตกองหลังทีมชาติอังกฤษ ก็สร้างเซอร์ไพรส์ด้วยการรับงานที่ อาเซอร์ไบจาน กับสโมสร กาบาล่า ทว่าก็ทำได้เพียง 17 เดือน แล้วซมซานกลับเมืองผู้ดี

       
ไบรอัน ร็อบสัน
       
กัปตันทีม แมนฯ ยูไนเต็ด ขึ้นชื่อเรื่องหัวจิตหัวใจที่ห้าวหาญ แต่งานกุนซือกลับไม่ได้สร้างชื่อให้เขา แม้อาจดูไม่เลวนักกับผลงานตลอด 7 ปีที่ มิดเดิ้ลสโบรช์ ทั้ง แชมป์ดิวิชั่น 1, เข้าชิงชนะเลิศ ลีก คัพ 2 ครั้ง และ เอฟเอ คัพ อีก 1 ทว่าจริงๆ แล้ว "ร็อบโบ้" ไม่เคยพา "โบโร่" ไปไกลกว่าอันดับ 9 ในพรีเมียร์ลีกเลย

เขายังไม่สามารถช่วยให้ แบร็ดฟอร์ด หนีการตกชั้นได้ และแม้จะเซฟ เวสต์บรอมฯ ไม่ได้ร่วงได้สำเร็จ ทว่า "ร็อบโบ้" ก็ล้มเหลวในปีต่อมา จนจำต้องแยกทางกับสโมสรในปี 2006

ร็อบสัน ไปทำงานให้ เชฟฯ ยูไนเต็ด ได้ 9 เดือน แต่ต้องออกมา เพราะผลงานไม่เข้าตา ก่อนรับงานคุมทีมชาติไทยได้แค่ 7 เกมแล้วก็จากไป