โกล รวบรวมความเห็นของคีย์แมนทั้ง 6 ชาติหลังต้องจับสลากมาอยู่ในสายบีที่ถูกยกให้เป็น "กรุ๊ปออฟเดธ"ของรอบ 12 ทีมสุดท้าย และทีมไหนจะถูกมองว่าเป็นเต็งหนึ่งของสายนี้?

หลังการจับสลากแบ่งสายฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือกโซนเอเชียรอบ 12 ทีมสุดท้าย ทีมชาติไทย ที่ผ่านเข้ามาถึงรอบนี้เป็นครั้งแรกรอบ 15 ปีได้อยู่ร่วมสายสุดหินกับ ออสเตรเลีย ,ญี่ปุ่น ,ซาอุดิอารเบีย ,ยูเออี และ อิรัก ซึ่งทุกทีมเคยผ่านฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายมาแล้วทั้งสิ้น ขณะที่สายเอ มี อิหร่าน ,เกาหลีใต้ ,อุซเบกิสถาน ,จีน ,กาตาร์ และ ซีเรีย 

และนี่คือความเห็นจากตัวแทนทีมทั้ง 6 ชาติที่อยู่ในกลุ่มที่ถูกเรียกว่ากรุ๊ปออฟเดธ

อาดรี้ โคสเตอร์ หัวหน้าผู้ฝึกสอนชุดอายุไม่เกิน 23 ปีของทีมชาติซาอุดิอาระเบีย ซึ่งควบตำแหน่งมือขวาของ เบิร์ต ฟาน มาร์ไวค์ นายใหญ่ชาวดัตช์ของขุนพล "กรีนฟอลคอน" มองว่า ออสเตรเลีย คืองานหินที่สุดของพวกเขา

“เราอยู่ในกลุ่มที่ยากนะ เราจะต้องเล่นให้ได้ดีมาก เพื่อจบท็อปทูและได้ไปฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย”

“รอบ ก่อนหน้านี้ผมว่าเราทำได้ดี ทีมที่ยากสุด อ่า ผมคิดว่าออสเตรเลียนะ พวกเขาจะทำให้เราเจอกับงานที่ยากลำบากแน่นอน เพราะพวกเขามีร่างกายและจิตใจที่แข็งแกร่งมาก เรารู้ดีว่าพวกเขาคือแชมป์เอเชีย ทีมล่าสุด และมันเป็นบททดสอบที่ท้าทายมากสำหรับเรา”

“แต่ ผมเชื่อนะว่าหากแฟนบอลให้การสนับสนุนเราอย่างเต็ม เราก็สามารถทำในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ ให้เป็นไปได้ และเราก็ต้องการแสดงให้เห็นในสิ่งที่เราทำได้"

วาฮิด ฮาลิลฮ็อดซิช หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติญี่ปุ่นอีกหนึ่งทีมเต็งของสาย พูดถึงทุกๆทีมรวมทั้งทีมชาติไทยด้วยแต่ก็ยังยกให้ออสเตรเลียเป็นคู่แข่งสำคัญเช่นกัน

"ไทยก็เป็นทีมที่มีเทคนิคดีและเล่นกันได้เป็นระบบ เราประมาทใครไม่ได้เลย"

"ยูเออีคุณภาพทีมเต็มเปี่ยม แถมเพิ่งได้ผู้จัดการใหม่ พวกเขาพัฒนาขึ้นทั้งแทคติคและพละกำลัง เราต้องระวังนักเตะผมยาวที่เล่นเท้าซ้าย (อุมัร อับดุลเราะห์มาน) คนนี้เป็นตัวตัดสินเกมได้ตลอด”

"เจอออสเตรเลียจะเข้มข้นและกดดันมาก เหมือนเป็นเกมฟุตบอลโลกจริง ๆ เลย พวกเขามีทั้งประสบการณ์และผู้เล่นหนุ่ม ความมุ่งมั่นและสภาพจิตใจก็แข็งแกร่ง”

"ส่วนอิรักแม้สถานการณ์ในประเทศจะลำบาก ทีมของพวกเขายังสร้างสายเลือดใหม่ได้ และผลงานก็ยอดเยี่ยม ร่างกายพวกเขาแข็งแกร่ง เทคนิคก็ดี”

มุฮัมหมัด ฮัซซัม รักษาการณ์เลขาธิการสมาคมฟุตบอลสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์หรือยูเออี มองไกลถึงการสร้างประวัติศาสตร์เข้าไปเล่นฟุตบอลโลกในรอบ 28 ปี

“ในรอบนี้นักเตะทุกคนต้องร่วมใจกันเพื่อผ่านมันไปให้ได้”

“นัก เตะหลายคนต้องเผชิญหน้ากับความท้าทายเสมอ เราต้องยอมรับนะว่าเราเป็นรองหลายทีม และเรามั่นใจว่าทีมชุดนี้มีความสามารถพอที่จะได้ผ่านไปเล่นฟุตบอลโลกรอบ สุดท้ายเป็นครั้งที่สองในประวัติศาสตร์ของชาติเรา”

ด้านอิรักที่อยู่ระหว่างการเปลี่ยนถ่ายตำแหน่งกุนซือจาก ยะห์ยา อัลวาน ที่ลาออกไปมาถึง รอฎี เชนไนชิล ก็ได้ให้ มัลฮา มะห์ดี ประธานฝ่ายเทคนิคแสดงความเห็นหลังการจับสลาก

“การอยู่ร่วมสายกับญี่ปุ่นและออสเตรเลีย ผมคิดว่ามันยากมากเลยนะสำหรับเรา และกลุ่มเรายังมีทีมอย่างซาอุดิอาระเบียและยูเออี ผมรู้สึกว่ากลุ่มเราเป็นกลุ่มที่หนักมาก เพราะทีมเหล่านี้ต่างพัฒนาจนทำให้หลายทีมในเอเชียของจับตามอง”

“แต่ มันก็ไม่ได้แปลว่าอิรักจะไม่มีโอกาส เราต้องพยายามทำงานให้หนัก และเตรียมตัวให้พร้อมที่สุดสำหรับเกมรอบนี้ โดยเฉพาะเรื่องสภาพจิตใจ ก่อนเกมการแข่งขัน นั่นคือสิ่งสำคัญในการเป็นตัวแทนทวีปไปฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย"
 

อังเก ปอสเตโคกลู หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติออสเตรเลียที่หลายทีมยกให้เป็นเต็งหนึ่งก็ไม่ขอประมาทคู่แข่งทุกทีม

"ดีที่ได้รู้ผลจับฉลากครับ เพราะเราได้เห็นภาพชัดเจนว่า ถ้าจะผ่านเข้าไปเล่นฟุตบอลโลก มีอะไรรอเราอยู่ข้างหน้าบ้าง ทั้งในแง่ฟุตบอลและการเดินทาง”

"ตลอดสองปีหลังเราเก็บข้อมูลผู้เล่นและทีมชาติในเอเชียอย่างละเอียด สเกาท์เกมและรายการแข่งขันทั่วเอเชีย ดังนั้นผู้ เล่นของเราจะลงสนามด้วยความพร้อม ข้อมูลดังกล่าวจะยิ่งแม่นยำและกว้างขวางยิ่งขึ้นเมื่อเราได้รู้แล้วว่าอยู่ กลุ่มเดียวกับญี่ปุ่น, อิรัก, ยูเออี, ซาอุดิอาระเบีย และไทย"

"ใน ฐานะแชมป์เอเชีย เราจะให้ความเคารพกับทุกทีม แต่จะโฟกัสไปที่การอยู่บนเส้นทางของเราต่อไป ความหวังของเรานั้นใหญ่กว่าเพียงแค่การเข้ารอบสุดท้ายฟุตบอลโลก”

เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทยแม้จะอยู่ในอันดับต่ำสุดจากทั้งหมด 12 ทีมแต่ก็ไม่แสดงความเกรงกลัวบรรดายักษ์ใหญ่ของเอเชีย

"หนักหรือไม่หนักนั้นจริงๆ แล้ว ไม่ว่าเราจะจับไปเจอใครก็ต้องถือว่าหนักหมด เพราะถ้าดูตามแรงกิงไทยเป็นทีมที่อันดับต่ำสุด แต่ผมเชื่อว่าเรามาถึงตรงจุดนี้ได้เราเองก็ไม่ธรรมดาเหมือนกัน"

"ที่สำคัญต่อจากนี้ไปคือการเตรียมตัว เตรียมทีมอย่างไร เพื่อให้ทีมชาติชุดใหญ่ของเรามีความพร้อมมากที่สุดในการต่อกรกับบรรดาเสือ สิงห์ กระทิง แรด ระดับทวีป ผมสัญญาว่าทีมชาติไทยจะสู้เต็มที่แน่นอน มันเป็นครั้งแรกในรอบนับสิบปีที่เราห่างหายไปจากเวทีนี้ แต่วันนี้เรามีโอกาสกลับมา เราก็ต้องทำให้ดีที่สุด”

ที่หนักที่สุดน่าจะเป็นโปรแกรมเดือนตุลาคม ที่ดูแล้วเราต้องไปเยือนทั้งสองนัด นัดแรกกับยูเออี และนัดที่สองเยือนอิรักต่อเลย ซึ่งนั่นน่าจะเป็นช่วงชี้วัดสำคัญช่วงนั้นในการแข่งขันรอบนี้ แต่ก่อนอื่นใดผมจะทำงานแบบแมตช์ต่อแมตช์ ซึ่งเราจะต้องโฟกัสที่แมตช์แรกเลยที่เราจะไปเยือนกับซาอุดิอาระเบีย”

"กับเกมแรกที่จะเจอซาอุฯ นั้นอย่างน้อยๆ ผมวางเป้าไว้ว่าเราต้องเปิดหัวด้วยการมีแต้มติดมือก่อน อาจจะเป็นผลเสมอก็ได้เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับทีม นัดต่อเราจะเปิดบ้านเจอกับญี่ปุ่นซึ่งเป็นทีมที่ดีมาก มีดาราเต็มทีมไปหมด ทั้ง ฮอนดะ , คางาวะ , โอคาซากิ แต่จุดแข็งของเราคือการเล่นในบ้าน และผมเชื่อว่าด้วยแฟนที่คอยหนุนหลัง เราพร้อมที่จะสร้างเซอร์ไพรส์ด้วยการเอาชนะได้เหมือนกัน"