"ซิโก้" เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง กุนซือทีมชาติไทย กางแผนเข้าป้ายเป็นอันดับ 3 ของกลุ่ม บี ด้วยการเก็บ 17 แต้ม เพื่อจะไปเพลย์ออฟกับที่ 3 ของสาย เอ และหวังผ่านไปเล่นถึงฏีกาซัดอันดับ 4 จากโซนคอนคาเคฟ แต่ยังขอโฟกัสไปที่นัดต่อนัด เพราะต้องการทำงานหนักอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกัน ส.บอล ยืนยันแล้วว่าจะใช้สนามราชมังคลากีฬาสถาน เป็นรังเหย้าตลอด 5 เกมที่เป็นเจ้าบ้าน

ความเคลื่อนไหวของทีมชาติไทย ภายใต้การกุมบังเหียนของ "ซิโก้" เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง ในการเตรียมพร้อมลุยศึกฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบ 12 ทีมสุดท้าย ซึ่งพวกเขาอยู่ในกลุ่ม บี ร่วมกับ ออสเตรเลีย, ญี่ปุ่น, ซาอุดิอาระเบีย, ยูเออี และ อิรัก

จากการที่ทีมชาติไทย ต้องลงเล่นในปี 2016 ของรอบ 12 ทีมสุดท้าย ทั้งหมด 5 นัด ประกอบด้วย วันที่ 1 ก.ย.59 พบ ซาอุดิอาระเบีย (ย), วันที่ 6 ก.ย.59 พบ ญี่ปุ่น (ห), วันที่ 6 ต.ค.59 พบ สหรัฐอาหรับเอมิเรสต์ (ย), วันที่ 11 ต.ค.59 พบ อิรัก (ย) และวันที่ 15 พ.ย. 59 พบ ออสเตรเลีย (ห)

และอีก 5 นัดในปี 2017 ประกอบด้วย วันที 23 มี.ค.60 พบ ซาอุดิอาระเบีย (ห), วันที่ 28 มี.ค.60 พบ ญี่ปุ่น (ห), วันที่ 13 มิ.ย. 60 พบ สหรัฐอาหรับเอมิเรสต์ (ห), วันที่ 31 ส.ค. 60 พบ อิรัก (ห) และวันที่  5 ก.ย.60 พบ ออสเตรเลีย (ย)

"ซิโก้" เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง เฮดโค้ชของทีมชาติไทย ได้ออกมาเปิดใจเกี่ยวกับสถานการณ์ว่า "ผมว่าปีนี้จะเป็นสิ่งที่หนักสุดอย่างแน่นอน เนื่องจากเราต้องออกไปเยือนทีมตะวันออกกลางถึง 3 นัด ทั้ง ซาอุดิอาระเบีย, สหรัฐอาหรับเอมิเรสต์, อิรัก ทำให้ผมคิดว่าต้องมีอย่างน้อย 5 คะแนนให้ได้ และการรับมือ ออสเตรเลีย กับ ญี่ปุ่น ในบ้าน ต้องหวังไว้ที่ 2 แต้ม เพื่อให้เรามี 7 คะแนน"

"จากนั้นในปี 2017 การที่เราต้องเล่นกับทีมตะวันออกกลางในบ้านของตัวเองทั้ง 3 แมตช์ ไม่ว่าจะเป็น ซาอุดิอาระเบีย, สหรัฐอาหรับเอมิเรสต์, อิรัก ต้องเก็บให้ได้ 9 คะแนน และการออกไปเยือน ออสเตรเลีย ตลอดจนญี่ปุ่น ต้องมีอย่างน้อย 1 แต้ม เพื่อให้เรามี 17 แต้มในการลุ้นการเป็นอันดับ 3 ของกลุ่ม บี"

"ซิโก้" กล่าวต่อว่า "เมื่อเราสามารถได้อันดับ 3 แล้วเราก็จะเข้าไปเจอกับที่ 3 ของกลุ่ม เอ และถ้าเราสามารถชนะได้ คราวนี้เราจะได้ไปวัดกับอันดับ 4 จากโซนคอนคาเคฟ ที่จะมีให้เล่น 2 เกม อย่างไรก็ตามสิ่งนี้เป็นเพียงแค่เป้าหมาย เพราะจากนี้ไปเราจำเป็นต้องทำงานอย่างหนัก เพื่อทุกเกมที่เราต้องเล่น โดยจะโฟกัสไปแบบนัดต่อนัด"

ด้าน พาทิศ ศุภะพงษ์ รองเลขาฯ ฝ่ายต่างประเทศ ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าว นสพ.สยามกีฬา เกี่ยวกับการใช้สนามเหย้าของทัพ "ช้างศึก" ว่า "เราได้ส่งเรื่องไปให้กับ เอเอฟซี เป็นที่เรียบร้อยแล้วว่า เราจะให้ทีมชาติไทยใช้สนามราชมังคลากีฬาสถานตลอด 5 นัดเกมเหย้าในรอบ 12 ทีมสุดท้าย ซึ่งชาติทั้งหมดที่เข้ารอบมาได้ส่งหนังสือในการใช้สนามเหย้าไปแล้ว และสหพันธ์ฟุตบอลเอเชียจะมีการเปิดเผยออกมา คาดว่าภายในสัปดาห์น่าคงจะมีคำตอบอย่างแน่นอน"