หลุยส์ ฟาน กัล ผู้จัดการทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ชี้ถึงเวลาแล้วที่ลีกลูกหนังควรเอาเทคโนโลยีวีดีโอมาช่วยการทำงานของผู้ตัดสิน หลังทีม "ปีศาจแดง" เสียผลประโยชน์ในเกมเสมอ เลสเตอร์ ซิตี้ 1-1 ในจังหวะที่ แดนนี่ ดริงค์วอเตอร์ เหนี่ยว เมมฟิส เดอปาย ล้มกลิ้งในเขตโทษ แต่ได้แค่ฟรีคิกนอกเขตเท่านั้น

หลุยส์ ฟาน กัล ผู้จัดการทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยักษ์ใหญ่ลีกผู้ดี เรียกร้องให้มีการนำเทคโนโลยีวีดีโอมาช่วยผู้ตัดสิน หลังจากทีม "ปีศาจแดง" พลาดได้จุดโทษ ในจังหวะที่ แดนนี่ ดริงค์วอเตอร์ ทำฟาวล์ เมมฟิส เดอปาย เกมพรีเมียร์ลีกที่เสมอกันไป 1-1 ที่ โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด วันอาทิตย์ที่ 1 พ.ค. ที่ผ่านมา

อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล ยิงให้ทีมนำ 1-0 นาที 10 แต่ไม่ถึง 10 นาที เวส มอร์แกน กัปตันทีม ก็โหม่งตีเสมอให้ทีมเยือน แต่ก่อนจบเกม 5 นาที ดริงค์วอเตอร์ ไปเหนี่ยว เดอปาย แถวกรอบเขตโทษ ซึ่งดูแล้วน่าจะอยู่ในเขตโทษ และเป็นจุดโทษ แต่ ไมเคิ่ล โอลิเวอร์ สิงห์เชิ้ตดำ เป่าแค่ฟรีคิก และให้ใบเหลืองที่สองไล่ กองกลางชาวผู้ดี อดีตเด็กสร้าง "ปีศาจแดง" ออกจากสนาม

ด้วยการเป็นจังหวะสำคัญที่ตัดสินผลแพ้-ชนะได้ ฟาน กัล เลยคิดว่าควรจัดตัวช่วยมาช่วยผู้ตัดสิน "มันก็ยากนะ ผมพูดตั้งแต่สัปดาห์ก่อนแล้วว่า เดี๋ยวนี้ผู้ตัดสินทำงานยากมาก จากการที่ผมอยู่ในวงการมา 20-30 ปี เราต้องมีวีดีโอ เพราะผู้ตัดสินทำทุกอย่างไม่ได้ ผมคิดว่าเขา (ผู้ตัดสิน) เป็นหนึ่งในผู้ตัดสินที่ดีที่สุดของอังกฤษ แต่แน่นอน มันยากมาก"

นอกจากจังหวะจุดโทษแล้ว ฟาน กัล ยังเชื่อด้วยว่า เทคโนโลยีจะช่วยให้ผู้ตัดสินควักใบแดงไล่ แดนนี่ ซิมป์สัน แบ๊กขวาทีมเยือน ออกจากสนาม ในจังหวะวิ่งเบียดไปกับ เจสซี่ ลินการ์ด ที่ตัดบอลได้ และกำลังจะหลุดเดี่ยว แต่ โอลิเวอร์ ไม่ทำอะไร และไม่เป่าฟาวล์ด้วย เพราะมองว่าเบียดกันล้มไปเอง

"เรายังน่าจะได้ใบแดงด้วย ในจังหวะ ซิมป์สัน กับ ลินการ์ด ผมเข้าใจได้ว่าทำไมไม่มีเสียงนกหวีด เพราะมันไม่ได้เป็นการฟาวล์รุนแรง แต่มันมีการยื้อยุด ซึ่งเขาเป่าฟาวล์ได้" ฟาน กัล กล่าว