"ซิโก้" ถึงกับผวา เห็นฟอร์มหัวหอกซามูไรสายพันธุ์จิ้งจอก "โอกาซากิ" กองหน้า "เลสเตอร์" เจอในบอลโลกต้องล็อกตาย เร่งรวบรวมข้อมูล "ซาอุฯ" คู่แข่งเกมแรก ชี้ยิ่งแกร่งขึ้น หลังได้โค้ชคนดัง "ฟาน มาร์ไวจ์ค" เสริมระบบทีม ขณะที่นักเตะความสามารถเฉพาะตัวดีอยู่แล้ว

"ซิโก้" เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง หัวหน้าโค้ชทีมฟุตบอลชาติไทย กล่าวว่า สำหรับการแข่งขันฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบ 12 ทีมสุดท้าย ที่ทีมไทย อยู่กลุ่มบี และจะประเดิม 2 เกมแรก 1 ก.ย.59 ไปเยือน ซาอุดิอาระเบีย และ 6 ก.ย.59 กลับมาเปิดราชมังคลากีฬาสถาน พบ ญี่ปุ่น นั้น ตนเองและทีมสตาฟฟ์โค้ช พยายามหาข้อมูลของทั้ง 2 ทีมอย่างเต็มที่ โดยในส่วนของ ซาอุดิอาระเบีย นั้นได้ศึกษาวิธีการเล่น จากรอบที่ผ่านมา รวมทั้งรวมรวมเทป ซึ่งทีมเศรษฐีน้ำมัน มีจุดเด่นที่ความสามารถเฉพาะตัวของนักเตะแต่ละคนอยู่แล้ว  ทว่าชุดนี้ยิ่งแข็งแกร่งขึ้น เพราะมีระบบทีมดีขึ้นกว่าเดิม เนื่องจากได้ เบิร์ต ฟาน มาร์ไวจ์ค โค้ชชาวฮอลแลนด์ ที่เคยนำทีมกังหันสีส้มคว้ารองแชมป์ฟุตบอลโลก 2010 ทำให้มีทีมเวิร์คดีขึ้นชัดเจน

กุนซือบอลไทย กล่าวต่อไปว่า ส่วน ญี่ปุ่น นั้น แน่นอนว่าเป็นทีมที่ระบบการเล่นดี ล่าสุดตนได้เดินทางไปชมเกมพรีเมียร์ลีก คู่เลสเตอร์ ซิตี้ กับ เอฟเวอร์ตัน เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ได้เห็นฟอร์มของ ชินจิ โอกาซากิ กองหน้าเลือดซามูไร ของ "สุนัขจิ้งจอก" ที่เป็นหนึ่งในกำลังสำคัญพาทีมสู่แชมป์พรีเมียร์ลีก นักเตะรายนี้ครบเครื่องมาก เล่นตำแหน่งหน้าต่ำ เก็บบอลได้ดี ร่างกายแข็งแรง ในระดับพรีเมียร์ลีก สามารถวิ่งได้เต็มที่ 60-70 นาที ดังนั้นแน่นอนว่า เมื่อมาเล่นทีมชาติ สามารถยืนระยะ 90 นาทีสบายๆ จัดเป็นหนึ่งในนักเตะที่อันตรายของเช่นเดียวกับดาวดังรายอื่น อาทิ ชินจิ คากาวะ, เคสึเกะ ฮอนดะ ซึ่งหากเจอกับ ญี่ปุ่น ตนต้องกำชับนักเตะว่าต้องระวัง โอกาซากิ ให้ดี อย่าให้คลาดสายตาเด็ดขาด

"ตอนนี้เราพยายามหาข้อมูลทุกทีมที่ร่วมกลุ่ม โดยเฉพาะ ซาอุดิอาระเบีย กับ ญี่ปุ่น คู่ต่อสู้ 2 ทีมแรก ซึ่งนับว่าป็นงานหนัก แต่ทีมชาติไทย จะทำเต็มที่ เก็บแต้มจากทั้ง 2 เกมให้ได้" ซิโก้ กล่าว