"โค้ชเฮง" วิทยา เลาหกุล ประธานพัฒนาเทคนิคสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ เผยพอใจกับรายชื่อทีมชาติไทยชุดลุยศึกคิงส์คัพ ที่แข้งตัวหลักพาเหรดติดครบครันและไม่เซอร์ไพรส์กับแข้งดาวรุ่งที่ได้รับโอกาส เชื่อ "ซิโก้" กุนซือใหญ่มีเหตุผลที่เรียกสำหรับการเตรียมความพร้อมฟุตบอลโลกในอนาคต แต่ไม่วายเป็นห่วงเรื่องของการเตรียมทีมลุยฟุตบอลโลก รอบสุดท้ายโซนเอเชีย เนื่องจากได้รับข้อมูลชาติคู่แข่งปิดลีกรวมพลเตรียมทีมกันไปแล้วเกรงทัพ "ช้างศึก" จะออกสตาร์ตช้ากว่าคู่แข่ง นอกจากนี้พร้อมเสนอแนะคู่มิดฟิลด์แดนกลางที่เลนเกมรุกได้ดีอยู่แล้ว ควรเสริมเรื่องการเล่นเกมรับให้ลงตัวดีกว่าเดิม มั่นใจจะทำให้ทีมชาติไทยเเกร่งกว่าเดิมได้เพิ่มขึ้นอีกแน่นอน

หลังจากทัพ "ช้างศึก" ทีมชาติไทยชุดใหญ่ ประกาศรายชื่อ 23 ขุนพลเตรียมลุยศึกฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทาน คิงส์คัพ ครั้งที่ 44  ระหว่างวันที่ 3-5 มิ.ย.59 ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน โดยมี 4 ชาติร่วมการแข่งขันประกอบด้วย ไทย, ซีเรีย, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ หรือยูเออี และ จอร์แดน โดยโปรแกรมแรกวันที่ 3 มิ.ย. 59 ยูเออี พบ จอร์แดน 17.00 น. และ ไทย พบ ซีเรีย เวลา 20.00 น.โดยผู้ชนะจะเข้าไปชิงชนะเลิศ ส่วนผู้แพ้ชิงอันดับ 3 ในวันที่ 5 มิ.ย.59 ต่อไป รวมถึงเป็นการเตรียมความพร้อมลุยศึกฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบ 12 ทีมสุดท้าย ซึ่งทีมชาติไทยอยู่ในกลุ่ม บี ร่วมกับ ออสเตรเลีย, ญี่ปุ่น, ซาอุดีอาระเบีย, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และอิรัก และมีคิวลงสนามนัดแรก บุกไปเยือน ซาอุดีอาระเบีย วันที่ 1 ก.ย.59

โดยทาง "เฮงซัง" วิทยา เลาหกุล ประธานพัฒนาเทคนิคของสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ก็ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นเรื่องของรายชื่อนักเตะชุดลุยคิงส์คัพ ครั้งนี้ว่า จากรายชื่อที่ประกาศออกมาก็ถือว่า โอเคเป็นที่น่าพอใจ เพราะเป็นแกนหลักของทีมชาติไทยในช่วงที่ผ่านมาอยู่แล้ว ส่วนเรื่องของการมีแข้งดาวรุ่งหน้าใหม่อย่าง อดิศร พรหมรักษ์, บดินทร์ ผาลา และ สุพรรณ ทองสงค์ ก็ถือว่าเป็นการเตรียมความพร้อมเอาไว้สำหรับการลุยฟุตบอลโลกต่อไปก็ไม่ใช่เรื่องที่จะแปลกใจอะไร เพียงแต่เมื่อได้รับโอกาสแล้วก็จะต้องเล่นได้ตามแท็กติกและระบบที่ทาง "โค้ชซิโก้" วางเอาไว้ให้ได้เท่านั้นเอง

ขณะเดียวกันทาง "โค้ชเฮง" ประธานพัฒนาเทคนิคของสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ยังได้แสดงความเป็นห่วงเรื่องของการเตรียมความพร้อมการฝึกซ้อมของทีมชาติไทยที่จะทำศึกฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายโซนเอเชียด้วยว่า ตอนนี้ลีกประเทศคู่แข่งปิดซีซั่นกันไปแล้วยกเว้นญี่ปุ่นกับทีมชาติไทย ทำให้ทีมเหล่านี้เริ่มที่จะรวมทีมเก็บตัวทีมชาติเพื่อสู้ศึกฟุตบอลโลกกันแล้ว แต่เรายังแทบจะไม่ได้เริ่มเลยตรงส่วนนี้ตนเองเป็นห่วงไม่น้อยทีเดียว ซึ่งทุกคนก็ต้องช่วยกันทำงานหนักเพิ่มขึ้นเพื่อให้ทีมพร้อมที่สุด

"เท่าที่ผมเช็กข้อมูลตอนนี้ลีกต่างๆ ที่เป็นคู่แข่งในสายเดียวกับทีมชาติไทยในฟุตบอลโลก รอบสุดท้ายโซนเอเชีย พวกเขาปิดลีกกันแล้ว ยกเว้นญี่ปุ่น แต่ญี่ปุ่นผู้เล่นส่วนใหญ่เล่นลีกยุโรปก็ไม่น่ามีปัญหาอะไร ทำให้บรรดาทีมคู่แข่งเหล่านี้เริ่มมีการเก็บตัวฝึกซ้อมทีมชาติกันแล้ว แต่เราเองยังมีเกมลีกอีกหลายนัด ผมก็อดที่จะเป็นห่วงไม่ได้เรื่องของการเตรียมความพร้อมตรงจุดนี้ ก็ต้องพยายามทำงานหนักร่วมกันต่อไป เพราะเป็นเรื่องที่ต้องช่วยกันแก้ไขให้ทีมพร้อมที่สุด"
นอกจากนี้ประธานพัฒนาเทคนิคสมาคมลูกหนังไทย ยังเสนอแนะแนวทางการเล่นของมิดฟิลด์คู่กลางของทีมชาติไทยทั้งชุดใหญ่ และชุดอายุไม่เกิน 21 ปี ว่าจะต้องปรับตัวเรื่องการลงมาช่วยเล่นเกมรับให้มีประสิทธิภาพมากกว่าที่ผ่านมา ซึ่งจะทำให้ทีมมีความแข็งแกร่งเพิ่มขึ้นกว่าเดิมได้แน่นอน

"จากการที่ผมเฝ้าติดตามทีมชุดใหญ่และยู-21 ปี พบว่าในแดนกลางมิดฟิลด์ที่เล่นคู่กันทำได้ดีแล้วในเกมรุกที่มีประสิทธิภาพอย่างมาก แต่ผมอยากเห็นพวกเขาเล่นเกมรับได้ดีกว่าที่ผ่านมา อย่างทีมชุดใหญ่คู่ "เจ-ชนาธิป" กับ "ตังค์-สารัช" หรือจะเป็น "แคมป์-สรรวัชญ์" ก็ตามในการเปิดเกมอ่านจังหวะเกมรุกพวกเขาทำได้ดีมาก แต่เมื่อทีมต้องกลับมาเป็นฝ่ายรับหรือจากจังหวะโดนสวนกลับมักจะกลายเป็นช่องว่าง ก็หวังว่าจุดนี้พวกเขาจะแก้ไขให้แกร่งขึ้นในช่วงเวลาที่เหลือ หรือในทีมยู-21 ช่วงการอุ่นเครื่องกับไทยฮอนด้า สรรเสริญ จับคู่กับ วรชิต เกมรุกทำได้ดี แต่พอเป็นเกมรับโดนโต้กลับพวกเขาจะหายไปจากเกมทันที ซึ่งจุดนี้ต้องรีบแก้ไข ผมเชื่อว่าจะทำให้ทีมชาติไทยของเรามีประสิทธิภาพและแกร่งขึ้นแน่นอน"