"เสือใต้" บาเยิร์น มิวนิค ต้องออกแรงเหนื่อยถึงช่วงดวลจุดโทษหลังในเวลา 120 นาทีทำอะไร "เสือเหลือง" ดอร์ทมุนด์ ไม่ได้ 0-0 ต้องตัดสินที่การยิงจุดโทษและเป็นทีมดังจากแคว้นบาวาเรียที่ยิงได้แม่นกว่าเอาชนะไปได้ 4-3 เพิ่มสถิติคว้าแชมป์เป็นสมัยที่18 และหนที่สามในรอบสี่ปีล่าสุด ในเกมเดเอฟเบ โพคาล เยอรมัน รอบชิงชนะเลิศ เมื่อคืนวันเสาร์ที่ 21 พ.ค.ที่ผ่านมา

 ฟุตบอลเดเอฟเบ โพคาล เยอรมัน
 รอบชิงชนะเลิศ
 วันเสาร์ที่ 21 พฤษภาคม 2559
 บาเยิร์น มิวนิค (บุนเดสลีกา) 0 - ดอร์ทมุนด์ (บุนเดสลีกา) 0
 (ต่อเวลาพิเศษ 0-0, บาเยิร์นมิวนิคชนะจุดโทษ4-3)

        สนาม: โอลิมเพีย สตาดิโอน (เบอร์ลิน), (สนามกลาง)

        ผู้ชม: 74,322 คน (เต็มสนาม)

         เริ่มเกมไปได้เพียง 4 นาที บาเยิร์น มิวนิคได้เสียวจาก โธมัส มุลเลอร์ ได้บอลทางฝั่งขวาในระยะราว 35 หลา แล้วได้ตั้งป้อมยิงไกลด้วยขวา บอลพุ่งเหินออกไปนิดเดียว

         พี่เสือได้เสียวอีกครั้งจากลูกเตะมุมฝั่งซ้ายในนาที 20 ดั๊กลาส คอสต้า บรรจงเปิดโค้งมาตรงกลางเขตโทษให้ โธมัส มุลเลอร์ สอดมาโขกหลุดกรอบนิดเดียว

         เสือใต้ยังกดดันต่อเนื่อง ดั๊กลาส คอสต้า ได้บอลในระยะ 40 หลา แล้วตั้งป้อมยิงด้วยขวา แต่ยังเรดาร์ไม่ดี บอลเหินหลุดกรอบออกหลังไปอีกครั้ง

         ถัดมานาที 33 ดอร์ทมุนด์ได้ออกอาวุธบ้าง จากจังหวะทิ้งบอลยาวออกซ้ายให้ ปิแอร์ เอเมอริค โอบาเมย็อง ใช้ความเร็วพาบอลลุยมา แล้วลากตัดเข้าก่อนตะบันด้วยขวาหลุดโคนเสานิดเดียว

         ท้ายครึ่งแรก เสือเหลืองเริ่มออกอาวุธได้จะแจ้งกว่าเดิม วางบอลยาวออกไปทางขวา เฮนริค มคิทาร์ยาน สอดไปโขกชงให้ สเวน เบนเดอร์ เอี้ยวตัววอลเลย์บอลกดลงพื้นแต่ก็เข้ามือ มานูเอล นอยเออร์

         ครึ่งหลังเล่นไป 6 นาที เสือใต้มีเสียว ฟร้องค์ ริเบรี่ กึ่งยิงกึ่งผ่านมาจากทางซ้าย โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ชาร์จโดนไม่ดีบอลหลุดเสาไกลนิดเดียว

         เกมแลกกันสนุกเลย นาที 57 กอนซาโล่ กาสโตร ตัดจากหน้าเขตโทษตัวเองก่อนไหลให้ มาร์โค รอยส์ ทำเกมมาเองแล้วไหลออกทางขวา ปิแอร์ เอเมอริค โอบาเมย็อง จับแล้วหวดข้ามคานน่าเสียดาย

         จากนั้นนาทีที่ 65 กองหลังเสือเหลืองเช็กพลาดเลยโดน โธมัส มุลเลอร์ ลากจี้ขึ้นมาแต่ไม่มีมุมยิงเลยไหลออกมาทางเลวานดอฟสกี้หวดข้ามคานออกไป

         บาเยิร์นลุยมาอีกครั้งในนาทีท่ 75 ฟร้องค์ ริเบรี่ ลากเข้าเขตโทษทางซ้ายก่อนจะจี้มาแปด้วยขวาบอลแฉลบกองหลัง แต่ โรมัน เบือร์กี้ ยกมือปัดออกหลังไปได้

         ก่อนจบเกม 5 นาที ดอร์ทมุนด์พลาดโอกาสทองในจังหวะสวนกลับทางขวา ลูคัสซ์ พิซเซ็ค สอดมาเปิดให้โอบาเมย็องกระโดแปโล่งๆ แต่ดันเสยข้ามคานแบบน่าผิดหวัง

         จบเกมเสมอกัน 0-0 ต้องต่อเวลาพิเศษออกไปอีก 30 นาทีเพื่อหาทีมชนะ

         ช่วงต่อเวลาพิเศษ นาทีที่ 98 เสือใต้ได้โอกาสเมื่อ โจชัว คิมมิค หนุนขึ้นมาสูงแล้วจ่ายให้กับ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ส่องด้วยขวาในกรอบเขตโทษด้านขวาบอลเหินข้ามคานไป

         เขยิบมานาทีที่ 103 ดอร์ทมุนด์ ขึ้นเกมเร็วมาทาง กอนซาโล่ กาสโตร เปิดต่อให้กับ เฮนริค มคิทาร์ยาน หวดด้วยขวาในกรอบเขตโทษด้านขวา บอลหลุดเสาสองไป หมดช่วงแรกของการต่อเวลาพิเศษยังเสมอกันอยู่ 0-0
 

         มาถึงนาทีที่ 106 ดอร์ทมุนด์เปลี่ยนผู้เล่นคนสุดท้ายให้ ชินจิ คางาวะ ดาวเตะทีมชาติญี่ปุ่นลงเล่นแทน กอนซาโล่ กาสโตร ส่วนบาเยิร์น มิวนิคให้ คิงสเล่ย์ โกมัน ดาวเตะทีมชาติฝรั่งเศสเล่นแทน ฟร้องค์ ริเบรี่ เพื่อนร่วมชาติในนาทีที่

108

         เสือใต้มาได้โอกาสลุ้นในนาทีที่ 113 เมื่อ ดั๊กลาส คอสต้า ดาวเตะชาวบราซิเลียนไหลให้กับ ดาวิด อลาบา เติมมากดด้วยซ้ายจากนอกเขตโทษ แต่ โรมัน เบือร์กี้ นายทวารดอร์ทมุนด์ปัดออกไปได้ทัน

         ช่วงทดเจ็บของการต่อเวลา นาทีที่ 120+2 บาเยิร์นได้ฟรีคิกทางด้านขวา ติอาโก้ อัลกันตาร่า โยนไปเสาสองให้กับ เยโรม บัวเต็ง โหม่งกดลงพื้นข้ามคานไป ครบ 120 นาที เสมอกัน 0-0 ต้องตัดสินกันด้วยการดวลจุดโทษหาผู้ชนะ

ผลปรากฎว่า "เสือใต้" บาเยิร์น มิวนิค ยิงได้แม่นกว่าเอาชนะ "เสือเหลือง" ไปได้อย่างหวุดหวิด 4-3 เถลิงคว้าแชมป์เดเอฟเบ โพคาลเป็นสมัยที่ 18 และเป็นหนที่3ในรอบ4ปีล่าสุด ส่วน ดอร์ทมุนด์ ต้องอกหักชวดแชมป์เป็นปีที่3ติดต่อกัน

         รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม

         บาเยิร์น มิวนิค: มานูเอล นอยเออร์ - ฟิลิปป์ ลาห์ม (กัปตันทีม), โจชัว คิมมิค, เยโรม บัวเต็ง, ดาวิด อลาบา - อาร์ตูโร่ วิดาล - ติอาโก้ อัลกันตาร่า, โธมัส มุลเลอร์, ดั๊กลาส คอสต้า, ฟร้องค์ ริเบรี่ - โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้

         สำรอง: สเวน อูลไรช์ (ผู้รักษาประตู) - เซบาสเตียน โรเด้อ, ชาบี อลอนโซ่, ฆวน เบร์นาต, ราฟินญ่า, เมห์ดี้ เบนาเตีย, คิงส์เล่ย์ โกมัน

         ดอร์ทมุนด์: โรมัน เบือร์กี้ - สเวน เบนเดอร์, โซคราติส ปาปาสตาโธปูลอส, มัทส์ ฮุมเมิ่ลส์ (กัปตันทีม) - ลูคัสซ์ พิซเซ็ค, มาร์เซล ชเมลเซอร์ - ยูเลี่ยน ไวเกิ้ล - เฮนริค มคิทาร์ยาน, กอนซาโล่ กาสโตร - มาร์โค รอยส์ - ปิแอร์ เอเมอริค

โอบาเมย็อง

         สำรอง: โรมัน ไวเดนเฟลเลอร์ (ผู้รักษาประตู) - มัทธีอัส กึนเทอร์, เอริค ดวร์ม, นูรี่ ซาฮิน, คริสเตียน ปูลิซิช, อาเดรียน รามอส, ชินจิ คางาวะ

         ผู้ตัดสิน: มาร์โค ฟริตซ์