เพียรศักดิ์ อ่อนสำอางค์ ผจก.ทีม เอสซีจี เมืองทองฯ สุดงงกับการตัดสินของ คณะอนุกรรมการพิจารณามารยาทวินัยฯ เมื่อวันที่ 24 พ.ค.ที่ผ่านมา หลังจากไม่มีบทลงโทษ ดิยุฟ บิรัม ที่เอานิ้วจิ้มตา มาริโอ อบานเต้ กับ ทริสตอง โด ได้อย่างไร เพราะรายแรกถึงขั้นมีเลือดออกที่ตา จนต้องนำตัวส่งโรงพยาบาลและไม่ได้ซ้อมกับทีม 2 วันเต็มๆ และอาจจะทำให้ตาบอดได้ โดยถามหามาตรฐานในการตัดสินของคณะนี้ว่าอยู่ตรงไหน?

ควันหลงจากเกมที่ เอสซีจี เมืองทองฯ เปิดบ้านชนะ สุโขทัย เอฟซี ไป 2-1 เมื่อวันเสาร์ที่ 21 พ.ค.59 ซึ่งในเกมดังกล่าวมีภาพจับได้ว่า ดียุฟ บิรัม ของสุโขทัย เอฟซี มีการเอานิ้วจิ้มตา 2 แข้งเอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ในจังหวะปะทะแย่งบอลกับ มาริโอ อบรานเต้ กองหลังชาวสเปน รวมถึง สมชาย ทริสตอง โด แบ็กขวาทีมชาติไทย ซึ่งรายแรกมีอาการเลือดออกที่ตาด้วย ก่อนที่แนวรุกชาวไอเวอรี่โคตส์จะออกมาขอโทษเหตุการณ์ทั้งสองทันทีในวันรุ่งขึ้น

ทว่าเมื่อวันที่ 24 พ.ค.ที่ผ่านมา คณะอนุกรรมการพิจารณามารยาทวินัยฯ สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย นำโดย พล.ต.ท.อำนวย นิ่มมะโน ประธานฯ ไม่ได้หยิบยกเคสต์ดังกล่าวขึ้นมาตัดสิน ทั้งๆที่มีภาพช้าจากจังหวะดังกล่าวแพร่หลายในโลกโซเชียล จนกลายเป็นสิ่งที่วิพากษ์วิจารณ์กันมากทีเดียว

โดย เพียรศักดิ์ อ่อนสำอางค์ ผจก.ทีม เอสซีจี เมืองทองฯ ได้บอกว่า "หลังจาก มาริโอ อบรานเต้ โดนนิ้วจิ้มเข้าไปที่ตา ทำให้เขาเจ็บอย่างมาก ถึงขนาดที่มีอาการแดงจนต้องนำส่งโรงพยาบาลและไม่ได้ซ้อมกับทีมมา 2 วันเต็มๆ รวมทั้ง ทริสตอง โด อีกทั้งภาพช้าในโลกโซเชียลต่างออกมาอย่างเห็นได้ชัดถึงการกระทำของ ดิยุฟ บิรัม อาจจะทำให้ตาบอดได้ทันที"

"ซึ่งผมเองไม่ทราบว่า คณะอนุกรรมการพิจารณามารยาทวินัยฯ ที่มี พล.ต.ท.อำนวย นิ่มมะโน เป็นประธานฯ ไม่หยิบยกเรื่องดังกล่าวมาพูดได้อย่างไร รวมทั้งเคยไปชมเกมการแข่งขันหรือดูฟุตบอลไทยผ่านทางโทรทัศน์บ้างหรือไม่ เพราะภาพที่ออกมานั้น แฟนบอลทั้งหมดต่างได้เห็นพฤติกรรมของนักเตะคนนี้อย่างโจ่งแจ้ง ว่ามีเจตนาที่ทำร้าย ทริสตอง โด กับ มาริโอ อบานเต้ ได้อย่างไร จึงอยากจะทราบว่ามาตรฐานในการตัดสินอยู่ตรงไหน"