"มุ้ย"ธีรศิลป์ แดงดา ซัดประตูเบิกร่องสุดสวยงามช่วยให้ "กิเลนผยอง" เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด บุกเอาชนะ "เดอะกล๊าส แร็บบิต" บางกอกกล๊าส เอฟซี 2-1 คว้าสามคะแนนเต็ม พร้อมนำเป็นจ่าฝูงของตารางและทำสถิติชนะติดต่อกัน 14 นัด เทียบเท่ากับ บุรีรัมย์ ที่ทำไว้เมื่อฤดูกาลก่อน ณ สนามลีโอ สเตเดี้ยม ในศึกฟุตบอลโตโยต้า ไทยลีก 2016 ประจำวันพุธที่ 29 มิถุนายน 2559

ฟุตบอลโตโยต้า ไทยลีก 2016

วันพุธที่ 29 มิถุนายน 2559

บางกอกกล๊าส เอฟซี 1-2 เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด

          รายชื่อผู้ตัดสิน : ผู้ตัดสิน จักรตราวุธ จุลมาศ, ผช.ผู้ตัดสินที่ 1 ภัทรพงษ์ ศรีสถิตย์, ผช.ผู้ตัดสินที่ 2 ปริวรรค โพธิ์อยู่, ผู้ตัดสินที่ 4 มานพ ปานสาคร, ผู้ประเมินผู้ตัดสิน วิทยา แม้นพิบูลย์, ผู้ควบคุมการแข่งขัน สุวิทย์ นิ่มอ่อนน้อม, ผช.ผู้ควบคุมการแข่งขัน ชัยรัตน์ สิทธิกุล

                         ที่สนาม ลีโอ สเตเดี้ยม เป็นศึกโตโยต้า ไทยลีก 2016 นัดที่ 19 ประจำวันที่ 29 มิ.ย.59 คู่บิ๊กแมตช์ บางกอกกล๊าส เอฟซี อันดับ 3 มี 36 คะแนน นัดก่อนบุกไปชนะ ซุปเปอร์ พาวเวอร์ สมุทรปราการ 8-3 พบกับ เอสซีจี เมืองทองฯ จ่าฝูงของตาราง เก็บไป 48 แต้ม เกมที่แล้วเปิดบ้านอัด นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี 4-1 โดยเลกแรก บีจี แพ้มาก่อน 0-2
         

          โดยนัดนี้มีความหมายของ เอสซีจี เมืองทองฯ อย่างมากทีเดียว หลังจากที่พวกเขาเก็บชัยชนะ 13 นัดติดต่อกันของปีนี้ ตั้งแต่นัดที่ 6-18 ประกอบด้วย วันที่ 2 เม.ย. 59 ชนะ ราชนาวี ( ย ) 4-0, วันที่ 23 เม.ย. 59 ชนะ ศรีสะเกษ เอฟซี ( ห ) 4-0, วันที่ 27 เม.ย. 59 ชนะ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ( ย ) 3-0, วันที่ 1 พ.ค. 59 ชนะ ชลบุรี เอฟซี ( ห ) 1-0, วันที่ 7 พ.ค. 59 ชนะ เชียงราย ยูไนเต็ด ( ย ) 3-0
         

          วันที่ 11 พ.ค. 59 ชนะ สุพรรณบุรี เอฟซี ( ห ) 1-0, วันที่ 15 พ.ค. 59 ชนะ พัทยา ยูไนเต็ด ( ย ) 2-1, วันที่ 21 พ.ค. 59 สุโขทัย เอฟซี ( ห ) 2-1, วันที่ 28 พ.ค. 59 ชนะ บีบีซียู เอฟซี ( ย ) 2-1, วันที่ 12 มิ.ย. 59 ชนะ ชัยนาท ฮอร์นบิล ( ห ) 2-0, วันที่ 19 มิ.ย. 59 ชนะ อาร์มี่ ยูไนเต็ด ( ย ) 1-0 วันที่ 22 มิ.ย. 59 ชนะ ซุปเปอร์ พาวเวอร์ สมุทรปราการ ( ห ) 8-3 และวันที่ 25 มิ.ย. 59 นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี ( ห ) 4-1
         

          หากเกมนี้ “กิเลนผยอง” สามารถบุกมาเอาชนะ บางกอกกล๊าส เอฟซี ได้ จำทำให้พวกเขาทำสถิติเทียบเท่าการชนะสูงสุดในลีกติดต่อกันตลอดกาล 14 นัด ของ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่ทำไว้ในปี 2015 ตั้งแต่ นัด 19 ชนะ ศรีสะเกษ 1-0 ( ย ) , นัด 20 ชนะ สุพรรรบุรี 1-0 (  ห ) , นัด 21 ชนะ ชลบุรีฯ 2-1 ( ย ),นัด 22 ชนะ ราชนาวี 3-1 ( ย ) ,นัด 23 ชนะ ชัยนาท 7-0 ( ห ) , นัด 24 ชนะ แบงค็อกฯ 3-0 ( ย ) , นัด 25 ชนะ ทีโอที 5-0 ( ห ) , นัด 26 ชนะ อาร์มี่ฯ 4-1 ( ย ) , นัด 27 ชนะ ราชบุรีฯ 5-0 ( ห ) ,นัด 28 ชนะ โอสถฯ 6-3 ( ย ) , นัด 29 ชนะ เชียงรายฯ 6-0 ( ห ) , นัด 30 ชนะ นครราชสีมาฯ 4-0 ( ห ) , นัด 31 ชนะ บางกอกกล๊าส 3-1 ( ย ) , นัด 32 ชนะ สระบุรี 6-0 ( ห )
         

          เกมนี้ “โค้ชง้วน”สุรชัย จตุรภัทรพงศ์ กุนซือเจ้าบ้านวางกำลังมาเต็มสูบ ทั้ง อาเรียล โรดริเกวซ, ดาเนียล การ์เซีย โรดริเกวซ “โตติ”, ศราวุฒิ มาสุข ส่วน “โค้ชแบน”ธชตวัน ศรีปาน แม่ทัพทีมเยือน ส่งชุดใหญ่ลงบู๊ ไม่ว่าจะเป็น ธีราทร บุญมาทัน, มาริโอ อบรานเต้, สารัช อยู่เย็น, ธีรศิลป์ แดงดา
         

          เปิดฉากครึ่งแรกเพียงแค่ น.6 “กิเลนผยอง”ต้องส่ง สุพรรณ ทองสงค์ ลงไปแทน มาริโอ อบรานเต้ ที่ได้รับบาดเจ็บหลังจากโดน โรแม็ง กัสมี่ ดึงจากด้านหลังจนล้มลงไปทำให้ข้อเท้าพลิก น.10 โรแท็ง กัสมี่ พลิกบอลทางซ้ายก่อนสับด้วยขวา บอลถากเสาแรกออกหลังไป
         

          น.11 ดาเนียล การ์เซีย โรดริเกวซ “โตติ” พลิ้วขึ้นมาทางกราบซ้าย แล้วจ่ายย้อนไปให้ จักรพันธ์ พรใส วิ่งเข้ามาแปหน้าเขตโทษส่งบอลออกหลัง น.15 โรแม็ง กัสมี่ ปาดบอลเลียดจากขวาเข้าไปเส้น 5 หลา ทว่า อาเรียล โรดริเกวซ เข้าขาร์จไม่ถึง
         

          น.22 สารัช อยู่เย็น เปิดฟรีคิกจากฝั่งซ้ายเข้าไปที่เสาไกล นริศ ทวีกุล ออกมาคว้าบอลไว้ได้ น.23 จากจังหวะการสกัดบอลออกมาไม่ดีของเจ้าบ้าน บอลมาถึง ธีรศิลป์ แดงดา พักบอลหนึ่งจังหวะด้วยอกก่อนจะวอลเลย์ด้วยซ้ายส่งบอใบไม้ร่วงเสียบตาข่าย อย่างสวยงาม ทำให้ เอสซีจี เมืองทองฯ ขึ้นนำ บางกอกกล๊าส เอฟซี 1-0 พร้อมกับเป็นเม็ดที่ 8 ในซีซั่น 2016 ของกองหน้ารายนี้อีกด้วย
         

          ซึ่งเจ้าตัวกลายเป็นแข้ง เอสซีจี เมืองทองฯ ที่ถูกโฉลกการส่องกระต่ายแก้ว นั้นเป็น ธีรศิลป์ แดงดา นั่นเอง ที่ซัดไปคนเดียวก่อนหน้านี้ถึง 7 จาก 24 ประตูที่ เอสซีจีฯ ทำได้ยามพบกับ “บีจี” ในเกมไทยลีก ที่เหลือเป็นของ คลีตัน ซิลวา 3 ประตู ,  โคเน่ โมฮัมเหม็ด (เลิกเล่น ) , ปิยะพล บรรเทา ( ผานิชกุล ) ( เชียงรายฯ )  , มาริโอ ยูรอฟสกี้ ( แบงค็อกฯ )  , ชนานันท์ ป้อมบุปผา ( เทโรฯ ) คนละ 2 ประตู ปีเตอร์ แลงก์ ( OG  ) , อานนท์ สังสระน้อย ( เชียงรายฯ ) , อัตนัน บาราคัต ( นครปฐม ) , คิม ดอง จิน ( กลับเกาหลี) , เจย์ โบทรอยด์ ( จูบิโล่ ฯ ) , ดัสกร ทองเหลา คนละ 1 ประตู (ในวงเล็บ คือทีมปัจจุบันของ นักเตะ เท่ากับนักเตะของเอสซีจีฯ ที่เคยยิงประตู “บีจี” ได้และยังร่วมทัพ”กิเลนผยอง” อยู่ขณะนี้ มี 3 รายคือ ธีรศิลป์ แดงดา , คลีตัน ซิลวา และ ดัสกร ทองเหลา)
         

          น.27 หลังเสียประตู “เดอะ แรบบิท” หวังทวงคืนอย่างรวดเร็ว ซึ่ง จักรพันธ์ พรใส ได้ยิงหน้าเขตโทษ บอลไปติดบล็อก สารัช อยู่เย็น น.28 ศราวุฒิ มาสุข เปิดบอลจากขวาไปให้ โรแม็ง กัสมี่ จับบบอลหนึ่งจังหวะก่อนยิงด้วยขวา บอลไปเข้ามือ กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์
         

          น.36 ธีราทร บุญมาทัน ได้โอกาสสับไกลจากนอกเขตโทษ บอลยังเหินข้ามคาน น.39 ทริสตอง สมชาย โด ปาดบอลเลียดจาดทางขวาไปที่เสาแรก นริศ ทวีกุล ออกมารับบอลได้ก่อนที่บอลไปถึง อดิศักดิ์ ไกรษร จากนั้นไม่มีสกอร์เกิดขึ้น หมดครึ่งแรก บางกอกกล๊าส เอฟซี ตาม เอสซีจี เมืองทองฯ 0-1

          เริ่มครึ่งหลัง “โค้ชง้วน”สุรชัย จุตรภัทรพงศ์ กุนซือ บีจี ถูกเชิญขึ้นไปนั่งบนอัฒจันทร์เพื่อระงับสติอารมณ์ น.46 ดาเนียล การ์เซีย โรดริเกวซ “โตติ” เปิดบอลจากซ้ายไปให้ อาเรียล โรดริเกวซ ซัดเหน่งๆบอลไปเข้ามือ กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์
         

          น.52 โรแม็ง กัสมี่ เล่นลูกสูตรจากเตะมุมั่งขวา ซึ่งเจ้าตัวไหลเลียดไปให้ พีรพงศ์ พิชิตโชติรัตน์ วิ่งเข้ามาซัดหน้าเขตโทษส่งบอลข้ามคาน น.56 จักรพันธ์ พรใส เปิดมุมจากฝั่งขวาแนวรับทีมเยือนสกัดบอลไปเข้าทาง ดาเนียล การ์เซีย โรดริเกวซ “โตติ” วอลเลย์บอลยังไม่ตรงกรอบ
         

          น.57 พีระพัฒน์ โน้ตชัยยา เปิดบอลจากซ้ายไปให้ คลีตัน ซิลวา วิ่งโฉบเข้ามาโหม่งที่เสาแรก บอลกลับหลุดออกหลังอย่างน่าเสียดาย น.61 พีรพงศ์ พิชิตโชติรัตน์ เก็บบอลได้หน้าเขตโทษแล้วจัดการสับไกลทันที บอลพุ่งไปเข้ามือ กวินทร์ ธรรมสัตจานันท์
         

          น.63 กลายเป็นทีมเยือนได้ประตูหนีห่าง หลังจาก ธีราทร บุญมาทัน เปิดบอลจากฟรีคิกทางขวาไปให้ คลีตัน ซิลวา แบเข้ามายิงส่งบอลเข้าไปซุกในก้นตาข่าย ทำให้ เอสซีจี เมืองทองฯ หนีไป 2-0 พร้อมกับเป็นเม็ดที่ 20 ของดาวยิงสายพันธ์แซมบ้าไปแล้วในปีนี้ อีกทั้ง “เจ้าอุ้ม”ยังทำแอสซิสต์ 2 เกมติดต่อกันอีกด้วย
              
 
          น.66 พีระพัฒน์ โน๊ตชัยยา กึ่งยิงกึ่งผ่านจากซ้ายเข้าไปที่เสาแรก บอลพุ่งเลียดไปเข้ามือ นริศ ทวีกุล น.70 เจ้าบ้านส่ง สุรชาติ สารีพิมพ์ ลงไปแทน ศราวุฒิ มาสุข

          น.73 บีจี มาได้ฟรีคิกระยะ 35 หลา โรแม็ง กัสมี่ ซัดข้ามคาน จังหวะส่งมาทีมเยือนส่ง ชัยวัฒน์ บุราญ ลงไปแทน อดิศักดิ์ ไกรษร

          น.75 ธีรศิลป์ แดงดา จ่ายบอลคืนหลังให้ ธีราทร บุญมาทัน ยิงไปติดบล็อกแนวรับ “เดอะ แรบบิท” น.80 พีรพงศ์ รับใบเหลืองแรกของเกม หลังจากไปอัด สารัช อยู่เย็น น.86 เจ้าบ้านส่ง ชาตรี ฉิมทะเล ไปแทน จักรพันธ์ พรใส ส่วน เอสซีจี เมือทองฯ ส่ง วัฒนา พลายนุ่ม ลงไปแทน ธีราทร บุญมาทัน
          

          น.90+7 บางกอกกล๊าส เอฟซี มาได้ประตูตีตื้น 1-2 จากจังหวะที่ กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ ไปรวบ อาเรียล โรดิเกวซ ก่อนที่เจ้าตัวจะอาสาสังหารไม่พลาด ทำให้จบเกม เอสซีจี เมืองทองฯ บุกมาชนะ บางกอกกล๊าส เอฟซี 2-1 เก็บอีก 3 แต้ม หนีอันดับ 2 อย่าง แบงค็อก ยูไนเต็ด 6 คะแนน

เมืองทองลุ้นทำสถิติชนะลีก 15 นัด

          ผลสกอร์ที่เกิดขึ้นกับ เอสซีจี เมืองทองฯ บุกมาชนะ บางกอกกล๊าส เอฟซี 2-0 ครั้งนี้ ยังเป็นการชนะในลีกติดต่อกันเกมที่ 14 ต่อจาก วันที่ 2 เม.ย. 59 ชนะ ราชนาวี ( ย ) 4-0, วันที่ 23 เม.ย. 59 ชนะ ศรีสะเกษ เอฟซี ( ห ) 4-0, วันที่ 27 เม.ย. 59 ชนะ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ( ย ) 3-0, วันที่ 1 พ.ค. 59 ชนะ ชลบุรี เอฟซี ( ห ) 1-0, วันที่ 7 พ.ค. 59 ชนะ เชียงราย ยูไนเต็ด ( ย ) 3-0
               
          วันที่ 11 พ.ค. 59 ชนะ สุพรรณบุรี เอฟซี ( ห ) 1-0, วันที่ 15 พ.ค. 59 ชนะ พัทยา ยูไนเต็ด ( ย ) 2-1, วันที่ 21 พ.ค. 59 สุโขทัย เอฟซี ( ห ) 2-1, วันที่ 28 พ.ค. 59 ชนะ บีบีซียู เอฟซี ( ย ) 2-1, วันที่ 12 มิ.ย. 59 ชนะ ชัยนาท ฮอร์นบิล ( ห ) 2-0, วันที่ 19 มิ.ย. 59 ชนะ อาร์มี่ ยูไนเต็ด ( ย ) 1-0 วันที่ 22 มิ.ย. 59 ชนะ ซุปเปอร์ พาวเวอร์ สมุทรปราการ ( ห ) 8-3 และวันที่ 25 มิ.ย. 59 นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี ( ห ) 4-1
               
          ทำให้พวกเขาทำสถิติเทียบเท่า บุรีรัม์ ยูไนเต็ด ที่ชนะ 14 เกมในลีกติดต่อกันเมื่อปี 2014 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว หากว่าในวันที่ 2 ก.ค.นี้ เอสซีจี เมืองทองฯ บุกไปชนะ ราชบุรี มิตรผล เอฟซี ถึงถิ่น จะทำให้ “กิเลนผยอง”ทำสถิติขึ้นมาใหม่ในลีกทันที

          แมน ออฟ เดอะ แมตช์  ธีรศิลป์ แดงดา กองหน้า เอสซีจี เมืองทองฯ ที่เบิกร่องให้กับทีมอย่างสุดสวยก่อนเก็บชัยด้วยสกอร์ 2-0

          วาทะโค้ชทั้งสองทีม

          สุรชัย จตุรภัทรพงศ์ (บางกอกกล๊าส เอฟซี) “มาตรฐานของผู้ตัดสินยังไม่ดีพอ แต่ต้องยอมรับว่าทุกคนเล่นได้ดีแล้ว ขาดแต่เพียงจังหวะการจบสกอร์เท่านั้น”

          ธชตวัน ศรีปาน (เอสซีจี เมืองทองฯ) “รุ้ สึกดีใจมากที่สามารถพาทีมชนะในลีกเป็นเกมที่ 14 ติดต่อกัน อย่างไรก็ตามคงต้องเช็กอาการบาดเจ็บของ มาริโอ อบรานเต้ ว่าจะเป็นเช่นไร”
 
          คะแนนความสามารถของทั้งสองทีม

          บางกอกกล๊าส เอฟซี : นริศ ทวีกุล 5, แม็ต สมิธ 5.5, อาเรียล โรดริเกวซ 5, ดาเนียล การ์เซีย โรดริเกวซ “โตติ” 5, ศราวุฒิ มาสุข 5.5 (สุรชาติ สารีพิมพ์ 5 แทน น.70), จักรพันธ์ พรใส 5.5 (ชาตรี ฉิมทะเล 5 แทน น.86), พิชิต เกสโร 5, เจษฏากร เหมแดง 5, พีรพงศ์ พิชิตโชติรัตน์ 5, ปิยะชนก ดาฤทธิ์ 5, โรแม็ง กัสมี่ 6 (คาลิฟา ซิสเซ่ - แทน น.87)

           เอสซีจี เมืองทองฯ : กวิ นทร์ ธรรมสัจจานันท์ 6, พีระพัฒน์ โน๊ตชัยยา 6, ธีราทร บุญมาทัน 6.5 (วัฒนา พลายนุ่ม -  แทน น.86), มาริโอ อบรานเต้ 5 (สุพรรณ ทองสงค์ 6 แทน น.6), สารัช อยู่เย็น 6, ธีรศิลป์ แดงดา 7, อดิศักดิ์ ไกรษร 5.5 (ชัยวัฒน์ บุราญ 5 แทน น.73), ธนบูรณ์ เกษารัตน์ 6, ทริสตอง สมชาย โด 6, คลีตัน ซิลวา 5.5, อดิศร พรหมรักษ์ 6