เฮนริค มคิตาร์ยาน ดาวเตะทีมชาติอาร์เมเนีย เบิกสกอร์แรกให้ "ปีศาจแดง" ได้แล้ว แต่สุดท้ายต้นสังกัดโดนทีมเก่าตัวเองอย่าง "เสือเหลือง" เผาเครื่องไป 4-1 โดย กอนซาโล่ คาสโตร เหมาคนเดียวสองลูก ในเกมกระชับมิตร ไอซีซี คัพ ที่ เซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน เมื่อวันศุกร์ที่ 22 ก.ค. ที่ผ่านมา

เกมฟุตบอล ไอซีซี คัพ
วันศุกร์ ที่ 22 ก.ค. 2559
แมนฯ ยูไนเต็ด 1 - 4 โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์

        โชเซ่ มูรินโญ่ นำ แมนฯ ยูไนเต็ด ลงอุ่นเครื่องนัดที่ 2 เป็นเกม ไอซีซี คัพ กับ เสือเหลือง ที่เล่นในสังเวียนแข้ง เซี่ยงไฮ้ สเตเดี้ยม ความจุกว่า 80,000 ที่นั่งของประเทศจีน โดย "ปีศาจแดง" ยังให้ แซม จอห์นสตัน โกลดาวรุ่งเฝ้าเสา ขณะที่ อันโตนิโอ วาเลนเซีย รับบทกัปตัน ผนึกกำลังกับ เอริก ไบยี่, ฟิล โจนส์ และ ลุค ชอว์ ในแนวรับ

        ดาเล่ย์ บลินด์ ปรับมาเป็นกองกลางตัวรับ เคียงข้าง อันเดร เอร์เรร่า ส่วนแนวรุก ฆวน มาต้า, เจสซี่ ลินการ์ด ยืนทางกว้าง ปล่อยให้ เฮนริค มคิตาร์ยาน เป็นหน้าต่ำในการเจอทีมเก่า ปั้นหลังหอกจำเป็น เมมฟิส เดอปาย ขณะที่ดาวดังอย่าง ดาบิด เด เคอา, เวย์น รูนี่ย์, คริส สมอลลิ่ง และ ไมเคิ่ล คาร์ริค ได้พักเกมนี้

        ด้าน "เสือเหลือง" จากเยอรมัน นำมาโดย ชินจิ คางาวะ อดีตแข้งเก่า แมนฯ ยูไนเต็ด เอง และกองหน้าความเร็วสูง ปิแอร์ เอเมริค โอบาเมย็อง

        เริ่มเกมแมนฯ ยูไนเต็ด ครองบอลลุยใส่ ดอร์ทมุนด์ ผ่านมาถึงนาทีที่ 14 เมมฟิส ได้หลุดขึ้นไปทางขวา โดยมีเพื่อนเติมขึ้นมาโล่งๆ ด้วยถึง 2 รายทางซ้าย แต่ดาวเตะดัตช์ ดันตวัดเปิดไปติดตัวบล็อกอย่างน่าเสียดาย ทำเอา มูรินโญ่ เป่าปาก เมื่อกล้องตัดภาพไปให้เห็นหน้ากุนซือโปรตุกีส

        แต่เมื่อผ่านมาถึงนาทีที่ 19 เป็น "เสือเหลือง" ทะยานนำ 1-0 เมื่อได้ฟรีคิก โอบาเมย็อง ซัดติดเซฟ จอห์นสตัน ลูกชุลมุน ก่อนที่ คางาวะ จะตามซ้ำติดมือโกลดาวรุ่งอีก ก่อน กอนซาโล่ คาสโตร จะปรี่ซ้ำไม่เหลือซาก

        หลังเสียประตู ทีมดังจากพรีเมียร์ลีกพยายามลุยหลังเอาคืนให้ได้ นาทีที่ 22 จากความผิดพลาดของกองหลัง ดอร์ทมุนด์ ทำให้ ลินการ์ด ได้บอลหลุดเข้าไปซัดด้วยขวา แต่ดันยิงเบา และทิศทางไม่ดี เลยเข้ามือ โรมัน ไวเดนเฟลเลอร์

        เมื่อครบครึ่งชั่วโมง ได้มีการพักให้นักเตะทั้งสองทีมดื่มน้ำเนื่องจากสภาพอากาศที่ร้อนอบอ้าว ก่อนกลับมาเล่นกันต่อ และ ดอร์ทมุนด์ มาได้จุดโทษจากการที่ผู้ตัดสินมองว่า วาเลนเซีย ทำแฮนด์บอล ทำให้ โอบาเมย็อง สังหารนิ่มๆ เข้าไปให้ "เสือเหลือง" นำ 2-0 ในนาทีที่ 35

        ท้ายครึ่งแรก โอบาเมย็อง ดูดบอลวางยาวลงอย่างนิ่มนวล ก่อนกระดกหวังให้ข้ามหัว จอห์นสตัน ทว่าโกลดาวรุ่งผีแดง ก็โชว์ปฏิกริยาถอยกลับไปปัดออกหลังได้อย่างยอดเยี่ยม จบครึ่งแรก "เร้ด อาร์มี่" ตามหลัง ดอร์ทมุนด์ 0-2

        ครึ่งหลัง มูรินโญ่ เปลี่ยน เซร์คิโอ โรเมโร่ ลงเฝ้าเสาแทน จอห์นสตัน ขณะที่ มาร์คัส แรชฟอร์ด แทน เมมฟิส ที่เล่นไม่ออกในครึ่งแรก นอกจากนี้ ลินการ์ด กับ โจนส์ ยังต้องหลีกทางให้ แอชลี่ย์ ยัง กับ มาร์กอส โรโฮ ด้วย

        นาทีที่ 55 ปีศาจแดง มีลุ้นได้ประตูตีไข่แตก แต่ แรชฟอร์ด ซัดไปติด ไวเดนเฟลเลอร์ ก่อนที่อีกนาทีต่อมา จะเป็นทาง ดอร์ทมุนด์ ที่ทะยานหนีห่าง 3-0 จากความยอดเยี่ยมของ อุสมัน เด็มเบเล่ ที่หลบ ชอว์ ก่อนล็อคหลบ โรโฮ จนหลังหัก แล้วซัดด้วยขวาเบียดเสาเข้าไปชนิดที่ โรเมโร่ ไม่ได้ขยับตัว

        แต่อีกแค่นาทีต่อมา แมนฯ ยูไนเต็ด ก็ไล่มา 1-3 เมื่อ แรชฟอร์ด ข้ามหลอกให้ มาต้า หลุดเดี่ยวเข้าไปในกรอบเขตโทษด้านขวา ก่อนใส่พานทองให้ มคิตาร์ยาน แปโล่งๆ เข้าไป เบิกสกอร์แรกในนามแข้ง "เร้ด อาร์มี่" ได้สำเร็จ

        ดอร์ทมุนด์ ทยอยเปลี่ยนตัวหลายราย หนึ่งในนั้นคือ มาร์ก บาตร้า กองหลังตัวใหม่ที่ย้ายมาจาก บาร์เซโลน่า ด้วย ส่วน มูรินโญ่ ส่ง แพ็ดดี้ แม็คแนร์ ประจำการแดนกลางแทน บลินด์ และ อั๊ดนาน ยานาไซ แทน มคิตาร์ยาน ในนาทีที่ 66 ก่อนที่ อันเดรียส เปไรร่า จะได้ลงแทน วาเลนเซีย ในขณะที่เหลืออีกราว 15 นาทีสุดท้าย

        หลังเบรกดื่มน้ำแล้ว แมนฯ ยูไนเต็ด พยายามเร่งเครื่องจะเอาประตูเพิ่ม ขณะที่ ดอร์ทมุนด์ ตั้งรับแล้วรอโต้กลับ และมาได้ประตูย้ำชัยในนาทีที่ 86 จากลูกยิงอันทรงพลังจากนอกกรอบเขตโทษของ คาสโตร ทำให้จบเกม "เสือเหลือง" คว้าชัย 4-1 ก่อน "ปีศาจแดง" มีคิวทำศึกใหญ่กับอริร่วมเมืองอย่าง แมนฯ ซิตี้ ที่ ปักกิ่ง ในวันจันทร์

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

        แมนฯ ยูไนเต็ด : แซม จอห์นสตัน, อันโตนิโอ วาเลนเซีย, เอริก ไบยี่, ฟิล โจนส์, ลุค ชอว์, ดาเล่ย์ บลินด์, อันเดร์ เอร์เรร่า, ฆวน มาต้า, เฮ็นริค มคิตาร์ยาน, เจสซี่ ลินการ์ด, เมมฟิส เดอปาย
    
        สำรอง : เซร์คิโอ โรเมโร่, แพ็ดดี้ แม็คแนร์, มาร์กอส โรโฮ, อั๊กเซล ตวนเซเบ้, อั๊ดนาน ยานาไซ, อันเดรียส เปไรร่า, แอชลี่ย์ ยัง, วิล คีน, มาร์คัส แรชฟอร์ด
    
        ดอร์ทมุนด์ : โรมัน ไวเดนเฟลเลอร์, สเวน เบนเดอร์, อุสมา เด็มเบเล่, ปิแอร์ เอเมริค โอบาเมย็อง, เซบาสเตียน โรเด้, อาเดรียน รามอส, ชินจิ คางาวะ, โซคราเตส ปาปาสทาโธปูลอส, กอนซาโล่ คาสโตร, มาร์เซล ชเมลเซอร์, เฟลิกซ์ พาสลัค