แข้งสาวไทยทำได้คว้าแชมป์ฟุตบอลหญิงอาเซียนมาครองเป็นสมัยที่ 2 ติดต่อกัน หลังสู้กับ เวียดนาม 120 นาทีเสมอกัน 1-1 จากนั้นมาตัดสินที่การยิงจุดโทษตัดสินวัดกันถึง 9 คนก่อนที่สาวไทยจะชนะไป 6-5 รวมสกอร์ทำให้ชนะไป 7-6 ครองแชมป์พร้อมรับเงินอัดฉีดจาก ''มาดามแป้ง'' นวลพรรณ ล่ำซำ รวม 2 ล้านบาท

  กฤษณะ การะเกตุ ผู้สื่อข่าวพร้อมด้วย อิทธิณัฐ ยิ้มเยาะ ช่างภาพสยามกีฬาและฟุตบอลสยามรายวัน เกาะติดความเคลื่อนไหวของทีมฟุตบอลหญิงทีมชาติไทย ในการทำศึกเอเอฟเอฟ วีเมน แชมเปี้ยนส์ชิพ 2016 จากกรุงมัณฑะเลย์ ประเทศเมียนมาร์  ซึ่งเมื่อวันที่ 4 ส.ค.59 การแข่บขันได้เดินทางมาถึงเกมในนัดชิงชนะเลิศกันแล้ว ที่สนามมัณฑะเลย์ธิรี สเตเดี้ยม โดยคู่ชิงชนะเลิศทีม "ชบาแก้ว" แชมป์เก่าโคจรมาเจอกับคู่ปรับอย่างสาวดาวทอง เวียดนาม อีกครั้งหลังจากที่เจอกันในรอบแรกและทีมไทยแพ้มา 0-2

             ทั้งนี้ทีมบอลหญิงของไทยกับเวียดนามเคยคว้าแชมป์อาเซียนมาแล้วทีมละ 2 สมัย โดยเวียดนามครองได้ในปี 2006 กับปี 2012 ส่วนทีมสาวไทยครองแชมป์ในปี 2011 กับ 2015  ส่วนสถิติเจอกัน 23 ครั้งเวียดนามชนะ 10 ทีมไทยชนะ 8 และเสมอกัน 5 ครั้ง

               ในส่วนของเกมนี้ สเปนเซอร์ ไพเออร์ กุนซือทีมบอลหญิงของไทยจัดทัพใหญ่ลงสนามอีกครั้งโดยเปลี่ยนแค่เพียงรายเดียวในเกมที่ผ่านมาคือส่ง อลิษา รักพินิจ แทน อนุซศรา หมาเจริญ นอกนั้นตัวเดิม ประกอบด้วย ผู้รักษาประตู วราภรณ์ บุญสิงห์ เซ็นเตอร์ ดวงนภา ศรีตะลา,ณัฐกานต์ ชินวงษ์ แบ็คซ้าย สุนิสา สร้างไธสง แบ็คขวา วารุณี เพชรวิเศษ กองกลาง ศิลาวรรณ อินต๊ะมี,พิกุล เขื่อนเพ็ชร,อรทัย ศรีมะณี ปีกซ้าย อลิษา รักพินิจ ปีกขวา รัตติกาล ทองสมบัติ และหน้าเป้า กาญจนา สังข์เงิน

            ก่อนเกมการแข่งขัน "มาดามแป้ง" นวลพรรณ ล่ำซำ ผจก.ทีมได้เข้าไปปลุกใจนักเตะให้สู้ให้เต็มที่ในนัดนี้ ซึ่งได้กล่าวว่า   "ขอบคุณน้องๆนักเตะและทีมงานทุกคนมากๆ ที่พาทีมเข้ารอบมาถึงวันนี้ได้ ทั้งๆที่เรามีอุปสรรคมากมาย จากทุกเกมที่ผ่านมา เราคงเห็นแล้วว่าทั้งพม่าและเวียดนาม พัฒนาขึ้นมาก แกร่งขึ้น ทั้งสองทีมเขาฟิตมาก โดยเฉพาะเวียดนามเขาได้เปรียบที่เตรียมทีมมานานนับปีๆ เมื่อเทียบกับเราที่มีเวลาเตรียมทีมเพียงสองเดือนกว่า ดังนั้นเราต้องไม่ประมาท ตั้งใจและทุ่มเทให้มากๆ นัดนี้ถือเป็นโอกาสให้เราได้มีสิทธิ์แก้ไขในความผิดพลาดที่ผ่านมา

            เราได้มีโอกาสพิสูจน์ตัวเองอีกครั้ง และเป็นโอกาสที่เราจะได้สู้เพื่อทีม เพื่อครอบครัวที่รอคอยเรากลับบ้าน และที่สำคัญมันคือโอกาสที่เราจะได้สู้เพื่อประเทศชาติ สู้เพื่อถวายแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ สู้เพื่อความภูมิใจในฐานะคนไทย และเป็นโอกาสเพียงครั้งเดียว ที่อาจจะไม่มีวันหวนคืนมาอีก คนไทยเป็นล้านๆดูพวกเราอยู่ ลงไปทำให้เขาเห็นว่า เราก็มีเลือดนักสู้ ของคนไทยอยู่ในตัว เล่นกันให้เป็นทีม มีสมาธิ ช่วยกันเล่นเหมือนที่เราซ้อมกันมา ช่วยกันจบสกอร์ทำประตูให้ได้ ถ้าวันนี้ทุกคนสามารถคว้าชัยชนะมาครองได้พี่มีรางวัลพิเศษให้สำหรับทุกคน 1 ล้านบาทสำหรับนัดนี้
                         

             เปิดเกมขึ้นมาเวียดนามทำเกมได้น่ากลัวกว่า มีโอกาสพาบอลขึ้นมาจบบ่อยครั้ง น.3 เหงียน ทิ มูน ได้บอลในเขตโทษจะยิงแต่ วราภรณ์ บุญสิงห์ ออกมาล้มตัวขวางได้ทัน  จากนั้น น.6 ของเกมแฟนบอลชาวไทยก็เฮกันสนั่นเมื่อได้เตะมุมทางขวา “หมิว” ศิลาวรรณ อินต๊ะมี เปิดด้วยเท้าซ้ายบอลโค้งเข้าเสาแรก "กัปตันแอน" ดวงนภา ศรีตะลา พยายามเข้ามาโหม่ง ขณะที่ ชอง ทิ เคียว กองหลังก็จะโหม่งสกัด แต่ผิดเหลี่ยมเป็นการสกัดเข้าประตูตัวเองไป ให้ทีม "ชบาแก้ว" ออกนำเร็ว 1-0

              เวียดนามมีลุ้นตีเสมอใน น.12 เมื่อเจาะขึ้นทางขวา เหงียน ไฮ เฮา เปิดครอสได้สวย เหงียน ทิ มูน พุ่งขึ้นมาเช็ดโหม่งแต่บอลหลุดเสาสองไปนิดเดียว  เกมจากนั้นทั้งสองทีมพยายามบี้อัดกันในแดนกลาง ทำให้เสียบอลกันง่าย โอกาสเข้าทำจึงมีค่อนข้างน้อย  น.26 เวียดนามได้ฟรีคิกระยะ 25 หลากลางประตู  เหงียน ทิ ตูเยต ดัง ยิงข้ามกำแพงแต่เข้ามือ วราภรณ์ บุญสิงห์ รับไว้ได้

             น.37 สาวไทยได้สวนเร็วที่ กาญจนา สังข์เงิน ที่กระชากบอลทางขวา เข้ากลางบอลหลุดไปถึง อลิษา รักพินิจ ที่เสาสองพลิกเข้าซ้ายซัดเต็มแรงติดกองหลังเวียดนามมาบล็อกเร็ว  สาวญวนยังมุ่งมั่นบุกหวังตีเสมอทีมไทยให้ได้ โดยเน้นการเปิดบอลจากริมเส้น เล่นเอากองหลังของสาวไทยป่วนเหมือนกันแต่ก็ยังช่วยกันต้านไว้ได้ดี โดยช่วงทดเจ็บไทยมาได้ฟาวล์นอกกรอบเยื้องไปทางซ้าย ศิลาวรรณ อินต๊ะมี ยิงจะเสียบใต้คาน ดัง ทิ เคียว ทิน ประตูเวียดนามยังปัดไว้ได้ ผ่านครึ่งแรกทีมหญิงไทยนำอยู่ 1-0

          กลับมาครึ่งหลังเวียดนามรุกหนักทันที น.50 เหงียน ทิ เล่ย ซัดไกลเต็มแรง วราภรณ์ บุญสิงห์ ยังเหนียวรับติดมือ สาวไทยเน้นเกมเพรสซิ่งแดนกลางเข้าสู้กับเวียดนามบ้าง โดยแข้งญวนต้องออกบอลข้างแล้วใช้การเปิดโด่งเข้าทำ น.59 เหงียน ทิ มิน ที่ลงมาครึ่งหลังได้โอกาสยิงจากระยะ 20 หลา บอลก็ยังไม่เข้ากรอบออกหลังไป

         น.66 เวียดนามได้ฟาวล์กึ่งกลางสนาม เหงียน ทิ เล่ย เปิดโด่ง เหงียน ไท เฮา โขกบอลตั้งให้ เหงียน ทิ มูน วิ่งเข้ามาซัด บอลติดขา ดวงนภา ศรีตะลา ที่สกัดมาจากเส้นประตูอย่างหวุดหวิด จากนั้นทีมไทยเปลี่ยนแดนกลางส่ง นิภาวรรณ ปัญโญสุข เข้าแทน อรทัย ศรีมะณี

           น.69 วารุณี เพชรวิเศษ โขกสกัดบอลไปตั้งให้ วู ทิ เนียง ได้โหม่งก็เข้ามือ วราภรณ์ บุญสิงห์  น.71 ไทยรอดการเสียประตูเมื่อ เหงียน ทิ มิน ล้มตัวยิงตรงเส้น 18 หลา บอลชนเสาช่วยชีวิตทีมไทยไว้ได้  เข้าสู่ น.78 ทีมไทยเปลี่ยนเอา อนุชศรา หมายเจริญ แทน อลิษา รักพินิจ ที่มีเริ่มล้า น.79 เหงียน ทิ มิน จับบอลลงสวยซัดระยะแค่ 10 หลาแต่ วราภรณ์ บุญสิงห์ อ่านทางได้ดีพุ่งคว้าไว้ทัน

           ทั้งสองทีมเริ่มที่จะอ่อนแรงลงอย่างเห็นได้ชัดเริ่มมีอาการตะคริวขึ้นให้เห็นเป็นระยะ ทำให้เกมต้องหยุดบางช่วง ซึ่งเวียดนามยังเป็นฝ่ายที่เปิดเกมบี้ตลอด และน.85 เหงียน ทิ ซูเยน เปิดบอลจากซ้ายแต่หลุดเลยไปเข้ามือ วราภรณ์ บุญสิงห์ แต่กลับจับบอลกระฉอก เหงียน ทิ มิน ตามเข้ามาจิ้มเข้าประตูไปให้เวียดนามตีเสมอไทย 1-1

            เล่นเอาช่วงเวลาที่เหลือเวียดนามคึกขึ้นมาทันที ส่วนสาวไทยต้องปรับทัพลงตั้งรับกันพลันวัน และแทบจะหาโอกาสบุกไม่ได้เลย ก่อนที่จะประคองเกมและหมดเวลา 90 นาทีเสมอกันไป 1-1 ต้องต่อเวลาพิเศษอีก 30 นาที

         เกมช่วงต่อเวลาพิเศษครึ่งแรก เวียดนามดูจะคึกคักกว่า เปิดเกมเข้าใส่ทีมไทยต่อเนื่อง น.97 เวียดนามเตะมุม เหงียน ทิ เฮา เปิดมาบริเวณเส้น 18 หลา เหงียน ทิ เล่ย ได้ยิงก็ออกข้างเสา น.101 รัตติกาล ทองสมบัติ ตั้งป้อมซัดไกลบ้างบอลพุ่งออกหลังไป น.103 วู ทิ เนียง กระชากบอลทางซ้ายเปิดยัดเข้ากลาง เหงียน ทิ มิน สะบัดหัวโขกตามน้ำข้ามคานไป จากนั้น ศิลาวรรณ อินต๊ะมี ที่หมดแรงมาแต่ปลายครึ่งหลังก็เล่นต่อไม่ไหว ไทยส่ง นภัทร สีเสริม เข้าเล่นแทน ก่อนหมดครึ่งแรกของการต่อเวลาพอดี

          มาถึงครึ่งหลังของการต่อเวลาพิเศษ เกมทั้งสองทีมเนือยลงมาก เนื่องจากมีอาการหมดแรงกันเป็นแถว น.110 เวียดนามได้ฟรีคิก ชอง ทิ เคียว ขอยิงเองแต่ไม่ผ่านมือ วราภรณ์ บุญสิงห์ น.117 ไทยได้ฟรีคิกบ้าง อนุชศรา หมายเจริญ ยิงก็เข้ามือ ดัง ทิ เคียว จากนั้นเกมก็แทบจะไม่มีลุ้นอะไรกัน หมดเวลา 120 นาทียังเสมอกัน 1-1 ต้องตัดสินแชมป์ด้วยการดวลจุดโทษตัดสิน

         โดยการยิงจุดโทษ เป็นไปด้วยความระทึก คนแรกของไทย อนุชศรา หมายเจริญ ยิงไม่พลาด ส่วน เวียดนาม เหงียน ทิ มิน ยิงไปชนเสา แต่คนที่สองของไทย สุนิสา สร้างไธสง กับยิงให้ประตูปัดได้ และคนที่สองของเวียดนาม เหงียน ทิ ตูเยต ยิงเข้าไป ทำให้เสมอ 1-1  คนที่สามของไทย กาญจนา สังข์เงิน ยิงเข้าไป แต่ เวียดนาม เหงียน  ทิ มุน ยิงไม่เข้า กระนั้นคนที่สี่ของไทย นภัทร สีเสริม ก็ยิงไม่เข้า ก่อนที่เวียดนาม เหงียน ทิ ซูเยน จะยิงเข้าสกอร์เท่ากัน 2-2 มาถึงคนที่ห้าไทยส่ง นิภาวรรณ ปัญโญสุข ยิงนำ 3-2 เวียดนามส่ง ชอง ทิ เคียว มายิงเข้าไปเช่นกันจึงเสมอกัน 3-3

         ต้องลุ้นต่อคนที่หกทีมไทยส่ง รัตติกาล ทองสมบัติ แต่วางเท้าไม่ดีเตะบอลไม่เต็มใบลูกออกข้างเสาไป ทำให้ เวียดนาม ได้เปรียบทันที และคนที่หกของเวียดนามเป็น เหงียน ทิ เล่ย ยิงไปติดมือ วราภรณ์ แล้วบอลกลิ้งทำท่าผ่านเส้นเข้าประตู ผู้ตัดสินชาวเมียนมาร์ ส่งสัญญาณคล้ายให้เป็นประตูเล่นเอานักเตะเวียดนาม ดีใจ แต่ดีใจเก้อตามๆ กันเมื่อผู้ตัดสินบอกว่า ลูกยังไม่เข้า ยังเสมอกัน 3-3  ต้องตัดสินกันคนที่เจ็ด พิกุล เขื่อนเพ็ชร ยิงเข้า เหงียน ท  นูเยต ก็ยิงเข้า คนที่แปด ทีมสาวไทยให้ ดวงนภา ศรีตะลา ไปยิงได้สวยไทยนำ 5-4 แต่เวียดนามก็ส่ง ไบ ทู อัน มายิงไม่พลาดเสมอ 5-5

          คนที่เก้าของไทย ณัฐกานต์ ชินวงศ์  ยิงเข้า แต่ทว่า ทาน ทิ พอง ของเวียดนามยิงพลาดวราภรณ์ เซฟได้ ทำให้ทีมหญิงไทยเอาชนะในการดวลจุดโทษไป 6-5 สกอร์รวมชนะ 7-6 คว้าแชมป์ฟุตบอลหญิงชิงแชมป์อาเซียนไปครองเป็นสมัยที่ 2 ที่ติดต่อกัน และเป็นสมัยที่ 3 ในรายการนี้แล้ว

          ส่วนการแข่งขันคู่ชิงอันดับ 3 เจ้าภาพเมียนมาร์ เอาชนะออสเตรเลีย ไปได้ 1-0 คว้าที่ 3 ไปครอง ทั้งนี้ทีมนักฟุตบอลหญิงของไทยจะเดินทางกลับในวันที่ 5 ส.ค. ด้วยสายการบินแอร์เอเชีย เที่ยวบิน FD 245 ถึงสนามบินดอนเมือง เวลา 15.00 น.

         รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

          ไทย : วราภรณ์ บุญสิงห์, ดวงนภา ศรีตะลา, ณัฐกานต์ ชินวงศ์, สุนิสา สร้างไธสง, วารุณี เพ็ชรวิเศษ, ศิลาวรรณ อินต๊ะมี (นภัทร สีเสริม), พิกุล เขื่อนเพ็ชร, อรทัย ศรีมะณี (นิภาวรรณ ปัญโญสุข), อลิษา รักพินิจ (อนุชศรา หมายเจริญ), รัตติกาล ทองสมบัติ, กาญจนา สังข์เงิน

          เวียดนาม : ดัง ทิ เคียว ทิน, เหงียน ทิ ซูเยน, ชอง ทิ เคียว, เหงียน ทิ นูเยต ดุง, เหงียน ทิ เล่ย, เหงียน ไท เฮา, เหงียน ทิ นูเยต, พาม ไฮ เยน, เหงียน ทิ มูน, ทาน ทิ พอง เทา, เหงียน ไฮ เฮา