ซูเปอร์เบล! แกเร็ธ เบล โชว์ฟอร์มร้อนแรงอีกครั้งหลังยิงสองจ่ายหนึ่งให้ "มังกรแดง" เวลส์ เปิดรังไล่ถล่มมอลโดวา 4-0 ส่วน "ยักษ์เขียว" รอดตายช่วงท้ายเกมหลัง ดาริล เมอร์ฟี่ หอกสำรองลงมาพังประตูให้ ไอร์แลนด์ บุกมาแชร์แต้มกับเจ้าถิ่น เซอร์เบีย สุดสนุก 2-2 ในเกมคัดบอลโลก โซนยุโรป กลุ่ม ดี คืนวันจันทร์ที่ผ่านมา

ฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก โซนยุโรป กลุ่ม ดี
วันจันทร์ที่ 5 กันยายน 2559

เวลส์ 4 - มอลโดวา 0

        สนาม: คาร์ดิฟฟ์ ซิตี้ สเตเดี้ยม, (คาร์ดิฟฟ์, เวลส์)

         เปิดฉากมาได้แค่ 5 นาทีแรก มอลโดวา ทักทายก่อนจากจังหวะที่ อังเดร โคโยคารี่ ลองซัดไกลด้วยขวาบอลปลิวหลุดกรอบไปอย่างน่าเสียดาย

         เจ็ดนาทีต่อมา เจ้าถิ่นได้ฟรีคิก แกเร็ธ เบล ปั่นด้วยซ้ายบอลโค้งไม่เข้ากรอบ จากนั้นสองนาทีต่อมา เวลส์ บุกมาอีกครั้ง คริส กันเทอร์ โยนให้กับ โจ เล็ดลี่ย์ กดด้วยขวาหน้าเขตโทษบอลเข้ากรอบ แต่ไม่ผ่านมือของ อีลี่ เซบานู นายทวารมอลโดวา

         ผ่านมา 38 นาที เวลส์ ชิงขึ้นนำก่อน 1-0 จนได้จากจังหวะที่ แกเร็ธ เบล สตาร์ตัวเก่งโยนจากกราบขวาไปเสาสองให้กับ แซม โว้คส์ วิ่งมาเทคตัวโหม่งในกรอบเขตโทษบอลซุกก้นตาข่าย

         ก่อนหมดครึ่งแรกแค่นาทีเดียว เจ้าถิ่นมาได้ประตูที่สองจากจังหวะเตะมุมทางขวา โจ เล็ดลี่ย์ เปิดมาลุ้นในเขตโทษ อีลี่ เซบานู นายทวารมอลโดวา ออกมาชกทิ้ง บอลลอยไปเข้าทาง โจ อัลเลน กองกลางวัย 26 ปี ฮาล์ฟวอลเลย์ด้วย

ขวาจากทางกรอบเขตโทษด้านขวา เข้าประตูไปสุดสวยช่วยให้เวลส์ นำห่าง 2-0 เมื่อหมดครึ่งแรก และเป็นเป็นประตูแรกของ อัลเลน กับทีมชาติเวลส์ ด้วย

         กลับมาเล่นกันต่อในครึ่งหลังได้แค่ 5 นาที เวลส์นำห่าง 3-0 จากจังหวะที่ ยอน ยาร์ดาน แบ็กขวามอลโดวาจ่ายคืนหลังไม่ดี เลยโดน แกเร็ธ เบล ตัดได้แล้วกระชากพรวดเดียวเกือบ 50 หลา ก่อนซัดด้วยซ้ายกลางกรอบเขตโทษบอลเสียบมุมขวาเข้าไปอย่างสุดสวย

         กระเถิบมานาทีที่ 67 เวลส์เปลี่ยนเอา เอมายร์ ฮิวส์ ลงมาเล่นแทน โจ เล็ดลี่ย์ ในแดนกลาง

         ล่วงเลยมานาทีที่ 74 มังกรแดงมีโอกาส เมื่อ เอมายร์ ฮิวส์ ไหลให้กับ แกเร็ธ เบล ยิงด้วยซ้ายจากนอกเขตโทษบอลหลุดเสาซ้ายไป ต่อมาแค่สามนาที มอลโดวา ดันเกมขึ้นมาบ้าง ยาร์ดาน เปิดบอลให้กับ อีกอร์ อาร์มาส กดด้วยซ้ายจากนอกเขตโทษบอลข้ามคานไป

         "มังกรแดง" มาได้ประตูนำห่างในช่วงทดเวลาเจ็บจากจังหวะที่ ลิราน ลิอานี่ เชิ้ตดำอิสราเอลเป่าให้เจ้าถิ่นได้จุดโทษและเป็น แกเร็ธ เบล ซัดเข้าไปไม่เหลือเป็นประตูที่สองของแข้งดังเรอัลมาดริดในเกมนี้ช่วยให้ เวลส์ ไล่ต้อน มอลโดวา 4-0 เก้บสามแต้มสำเร็จ

 
         รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม

         เวลส์: เวย์น เฮนเนสซี่ย์ - คริส กันเทอร์, เจมส์ เชสเตอร์, แอชลี่ย์ วิลเลี่ยมส์ (เจมส์ คอลลินส์ น.82), เบน เดวิส, นีล เทย์เลอร์ -โจ เล็ดลี่ย์ (เอมายร์ ฮิวส์ น.67), โจ อัลเลน, แอนดี้ คิง - แซม โว้คส์ (ฮัล ร็อบสัน-คานู น.75), แกเร็ธ เบล

         มอลโดวา: อีลี่ เซบานู - ยอน ยาร์ดาน, อันเดรียน คาสคาวาล, อเล็กซานดรู เอปูเรียนู (กัปตันทีม), อีกอร์ อาร์มาส - อาร์ตูร์ ยอนิต้า, อเล็กซานเดอร์ กัตคาน, อังเดร โคโยคารี่, อเล็กซานดรู เดดอฟ - ยูเคนิอู เซโบตารู (อูเก้น ไซโดเรนโก้ น.75) - ราดู จินซารี่ (อีกอร์ บูกาเยฟ น.75)

         ผู้ตัดสิน: ลิราน ลิอานี่ (อิสราเอล)

       เซอร์เบีย 2 - ไอร์แลนด์ 2

        สนาม : เซอร์เวน่า ซเวซด้า สเตเดี้ยม, (เบลเกรด, เซอร์เบีย)

         ออกสตาร์ตครึ่งแรกมาได้แค่ 3 นาที ไอร์แลนด์เป็นฝ่ายชิงขึ้นนำก่อน 1-0 อย่างรวดเร็วจากจังหวะที่ ร็อบบี้ เบรดี้ โยนฟรีคิกเข้ามา เปรแดร๊ก รายโควิช นายทวารของเซอร์เบียปัดออกมาเข้าทางของ จอห์น โอเช ตบจากซ้ายกลับเข้ากลางเข้าทาง เชน ลอง ต่อให้กับ เจฟฟ์ เฮนดริค ซัดแฉลบ บรานิสลาฟ อิวาโนวิช กัปตันทีมของเซอร์เบียเข้าประตูไป

         เกมดำเนินมาถึงนาทีที่ 17 เซอร์เบียได้โอกาสบ้าง อเล็กซานดาร์ มิโตรวิช จ่ายให้กับ ฟิลิป คอสติช ยิงด้วยซ้ายจากนอกเขตโทษ แต่ไม่ผ่านมือของ ดาร์เรน แรนดอล์ฟ นายทวารไอร์แลนด์

         ผ่านมา 23 นาที เจ้าถิ่นได้ลุ้นต่อเนื่อง บรานิสลาฟ อิวาโนวิช ไหลให้กับ ฟิลิป คอสติช ซัดด้วยซ้ายจากทางกรอบเขตโทษด้านซ้ายติดบล็อกของ เกล็นน์ วีแลน กองกลางไอร์แลนด์ออกหลังไป

         จากนั้นนาทีที่ 37 ไอร์แลนด์ได้โอกาสบ้าง ร็อบบี้ เบรดี้ โยนให้กับ จอน วอลเตอร์ส ทะยานขึ้นโหม่งในกรอบเขตโทษ แต่ไม่ผ่านมือของ เปรแดร๊ก รายโควิช นายด่านเซิร์บ หมดครึ่งแรก ไอร์แลนด์นำก่อน 1-0

         เข้าสู่ครึ่งหลังนาทีที่ 58 เซอร์เบีย มีโอกาสตีเสมอ เมื่อ บรานิสลาฟ อิวาโนวิช จ่ายให้กับ อเล็คซานดาร์ มิโตรวิช ไหลต่อให้กับ ดูซาน ทาดิช ลากผ่านกองหลังก่อนยิงโค้งเฉี่ยวสามเหลี่ยมออกไป

         กระเถิบมานาทีที่ 62 เจ้าบ้านไล่ตามตีเสมอจนได้จากจังหวะที่ บรานิสลาฟ อิวาโนวิช เปิดบอลเข้ากรอบเขตโทษให้ ทาดิช ไหลต่อให้กับ ฟิลิป คอสติช ฉีกตัวหลุดการประกบของโคลแมน ก่อนซัดผ่าน แรนดอล์ฟ นายทวารทีมเยือนเข้าประตูไปช่วยให้ เซอร์เบีย ตามตีเสมอ 1-1

         จากนั้นเจ็ดนาที เซอร์เบีย มาได้จุดโทษจากจังหวะที่ ฟิลิป คอสติช กระชากเข้าไปโดน จอน วอลเตอร์ส ทำฟาวล์ในกรอบเขตโทษ ผู้ตัดสินเป่าทันที ก่อนที่ ดูซาน ทาดิช รับหน้าที่สังหารเข้าไปช่วยให้ เซอร์เบีย แซงนำ 2-1

         ล่วงเลยมานาทีที่ 74 เจ้าถิ่นน่าจะได้ประตูที่สาม เมื่อ ฟิลิป มลาเดโนวิช กระทุ้งบอลพุ่งวาบเข้ากรอบ ดาร์เรน แรนดอล์ฟ นายทวารไอร์แลนด์ ปัดมาเข้าทางของ อันดริย่า พาฟโลวิช ที่ลงมาเป็นสำรองตามซ้ำทันทีบอลไปชนคานอย่างน่าเสียดาย

         นาทีต่อมา ไอร์แลนด์ เกือบได้ประตูตีเสมอ เมื่อ เจฟฟ์ เฮนดริค โยนให้กับ จอน วอลเตอร์ส โหม่งเข้าประตูไป แต่ผู้ตัดสินไม่ให้ โดยเป่าเป็นลูกล้ำหน้าไปก่อนแล้ว

         ท้ายเกมนาทีที่ 81 ไอร์แลนด์ ตามตีเสมอ 2-2 จนได้จากจังหวะที่ เบรดี้ โยนลูกเตะมุมให้กับ ดาริล เมอร์ฟี่ กองหน้าที่ลงมาเป็นสำรองขึ้นโหม่งบอลผ่านการป้องกันของ เปรแดร็ก รายโควิช นายทวารเจ้าบ้าน เข้าประตูไป  เวลาที่เหลือทั้งสองทีมทำอะไรกันไม่ได้อีก ครบ 90 นาที เสมอ 2-2 แบ่งแต้มกันไป
 

         รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม

         เซอร์เบีย: เปรแดร็ก รายโควิช - อันโตนิโอ รูคาวิน่า, บรานิสลาฟ อิวาโนวิช (กัปตันทีม), มาติย่า นาสตาซิซ, ยากอส วูโควิช - ฟิลิป มลาเดโนวิช (ดุสโก้ โทซิซ น.76), ดูซาน ทาดิช, ลูก้า มิลิโวเยวิช, เนมานย่า กูเดลจ์, ฟิลิป คอสติช (อเล็คซานเดอร์ คาไต น.82) - อเล็คซานดาร์ มิโตรวิช (อันดริย่า พาฟโลวิช น.58)

         ไอร์แลนด์: ดาร์เรน แรนดอล์ฟ - เชมัส โคลแมน (กัปตันทีม), จอห์น โอเช, ริชาร์ด คีโอห์, สตีเฟ่น วอร์ด (สตีเฟ่น ควินน์ น.69) - เจฟฟ์ เฮนดริค (ดาริล เมอร์ฟี่ น.75), เกล็นน์ วีแลน, ร็อบบี้ เบรดี้ - จอน วอลเตอร์ส, เชน ลอง, เจมส์ แม็คคลีน

         ผู้ตัดสิน: วิคเตอร์ คาสไซ (ฮังการี)