ผลคะแนนและราคา 2 in 1 คะแนนในการแข่งสด ผลการแข่งขัน ตารางการแข่งขัน อัตราต่อรอง ข้อมูล คะแนนบาสเก็ตบอล
บันเทิง » ข่าวบันเทิง » แจม ชรัฐฐา เปรี้ยวจี๊ด ซี้ดถึงใจ

แจม ชรัฐฐา เปรี้ยวจี๊ด ซี้ดถึงใจ

Posted 07/09/2016 by ผู้จัดการ

หลังจากที่มีข่าวคราวความรักของ ‘เนย’ แห่งวง Neko Jump ออกมาระยะหนึ่งนั้น เรากลับคิดถึง ‘แจม’ (ชรัฐฐาอิมราพร) แฝดผู้พี่ของเนย ซึ่งแทบจะไม่มีข่าวคราวอะไรออกมาเลยในวงการบันเทิงบ้านเรา และด้วยความคิดถึงนี้ทำให้ mars นอกจากจะชวนเธอมาถ่ายแฟชั่นที่สวยหวานและเซ็กซี่เล็กๆ กันแล้ว เรายังขอเปิดอกกับเรื่องราวหัวใจและความคิดอ่านที่เติบโตขึ้นแบบสาวสะพรั่ง
      
       ...งดงามและเรียบง่ายแค่ไหนมาลองอ่านกัน

ช่วงนี้งานเป็นยังไงบ้าง เห็นเงียบๆ ไป ?
      
       ช่วงนี้ยังไม่มีแพลนทำเพลงใหม่ออกมา ส่วนงานละครมีติดต่อมาบ้างแต่ยังไม่ได้รับเพราะกำลังทำธุรกิจตัวเองอยู่ ตอนนี้เราทำธุรกิจบิวตี้และกำลังเริ่มธุรกิจเกี่ยวกับเสื้อผ้าแฟชั่น ในเรื่องเสื้อผ้านี่เกิดจากความขี้เกียจที่เราต้องออกไปซื้อเสื้อผ้าข้างนอก แล้วก็อยากได้แบบที่ถูกใจเลยทำเองดีกว่า เป็นแนวแคชชวลกึ่งสปอร์ตนิดๆ
      
       เคยเล่าให้ฟังว่าเป็นนักอ่านตัวยง แนะนำนิดหนึ่งว่าในแวดวงตอนนี้มีหนังสืออะไรน่าสนใจบ้าง?
      
       ตอนนี้ที่ชอบอ่านก็คือ หนังสือของ R. M. Drake (Robert M. Drake นักเขียนรุ่นใหม่ชาวอเมริกัน) งานเขียนของเขาจะคล้ายๆ กวีนิดๆ มีพูดเรื่องการเมืองบ้าง ความรักบ้าง ชีวิตบ้าง ส่วนพวกนิยายแฟนตาซีก็ยังตามอยู่นะ โดยเฉพาะแฮร์รี่ พอตเตอร์เล่มล่าสุดเพราะเราเป็นแฟนแฮร์รี่พอตเตอร์ตลอดกาล การ์ตูนก็อ่าน

พูดถึงเรื่องการ์ตูนแล้ว เมื่อไม่นานมานี้ในพิธีปิดโอลิมปิก ประเทศญี่ปุ่นซึ่งจะเป็นเจ้าภาพครั้งต่อไปได้เอาตัวการ์ตูนมาเป็นทูตทางวัฒนธรรมแทนที่จะเอาของดีนับพันปีมาใช้ เรามองเรื่องนี้ยังไง? การ์ตูนเป็นเรื่องไร้สาระไหม?
      
       ถ้ามองในมุมคนอ่านหนังสือก็จะรู้ว่าการ์ตูนมันไม่ได้ไร้สาระ แค่เอาความเป็นแฟนตาซี เอาคาแร็กเตอร์ เอาความเหนือธรรมชาติออกมาสร้างความสนุกเพื่อให้มันเข้าสู่คนวงกว้างซะมากกว่า การ์ตูนหลายๆ เรื่องได้รับรางวัลในระดับประเทศเยอะมากเพราะเนื้อหามันมีแง่คิดในการใช้ชีวิต มิตรภาพ และการมองโลก

แล้วการ์ตูนมันหล่อหลอมตัวตนแจมยังไง ?
      
       มันทำให้เราเป็นคนมองอะไรมากกว่าสิ่งที่เห็นอย่างเราเป็นคนที่ไม่รู้สึกว่าคนอื่นๆ ทำแบบนี้แล้วเราต้องทำตาม เรารู้ว่าคนมันมีทางเดินของตัวเองมากกว่านั้น คือในสังคมทุกวันนี้คนมักจะทำตามต้นแบบ แต่เรารู้สึกว่าการไม่ทำเหมือนคนอื่นมันทำให้เราได้เจอสิ่งที่ดีกว่า การ์ตูนมันทำให้เราเป็นคนเปิดกว้างนะ
      
       แล้วการ์ตูนที่แจมคิดว่าน่าจะเหมาะกับคนวัยผู้ใหญ่น่าจะมีเรื่องอะไรบ้าง ?
      
       เรื่องที่คนทั่วไปรู้จักเลยก็คือโดราเอม่อน มันเหมือนจะขำๆ นะแต่ไม่ขำหรอก ถ้าเราอ่านแล้วจะทำให้เรานึกถึงสิ่งที่เราทำทุกวัน ความขี้เกียจ ความที่เราอยากจะหาทางลัดให้กับชีวิตนะ แต่จริงๆ แล้วมันไม่มีอะไรดีเท่ากับเราทำเอง บางครั้งเราอยากย้อนเวลากลับไปเพราะคิดว่าจะทำแบบนั้นแบบนี้แล้วดีกว่า แต่ทุกครั้งที่โนบิตะย้อนเวลากลับไปเพื่อแก้ไขอะไรสักอย่างมันมักจะแย่กว่าที่เป็นอยู่เสมอ มันเลยทำให้เราเรียนรู้ว่าต้องยอมรับสิ่งที่เกิดขึ้นและแก้ไขมัน ณ ตอนนั้นดีกว่าย้อนเวลากลับไป ไม่ว่าผลจะดีหรือร้ายมันเป็นสิ่งที่เราเลือกเอง อย่างเรื่องวันพีซ (One Piece) นี่ดีมากนะสำหรับเด็กๆ และผู้ใหญ่ มันเป็นเรื่องที่สะท้อนให้เห็นความเห็นอกเห็นใจและเอื้อเฟื้อกันไม่ว่าจะอยู่ในสถานะอะไร

แล้วสังคมไทยกับการ์ตูนมันเดินไปควบคู่กันได้มากแค่ไหน ?
      
       ตอนนี้เยอะขึ้นนะเพราะมีคอมมิกส์มาสร้างเป็นหนังเยอะ แต่ว่าคนไทยยังอ่านหนังสือน้อยมาก มาอ่านในเน็ตในคอมพ์ในมือถือกัน รับข่าวสารแบบสั้นๆ กระชับๆ ได้ใจความ ไม่ค่อยอ่านแล้วการ์ตูนแบบเป็นร้อยเล่ม ทุกอย่างมันไวไปหมดจนคนไม่มีเวลานานๆ เพื่อสนใจอะไรอย่างใดอย่างหนึ่ง คือถ้าเรามีลูกนะ เราจะให้ลูกสัมผัสกับของเก่าในยุคอะนาล็อกเพื่อให้เห็นคุณค่าทั้งสองฝั่ง
      
       น่าแปลกนะที่ทุกวันนี้เรามีงานมหกรรมหนังสือ มีร้านหนังสือมากมายแต่ทำไมคนอ่านหนังสือน้อยลง ?
      
       เมื่อก่อนนี้หนังสือไม่จำเป็นต้องมีภาพ มีแค่ภาพหน้าปก นอกนั้นเรามีจินตนาการ แต่หนังสือแบบนี้ในปัจจุบันขายยากขึ้น ต้องมีภาพประกอบและยิ่งสั้นเท่าไหร่ยิ่งดี หนังสือที่ขายดีทุกวันนี้เป็นพวกเกร็ดความรู้เป็นเคล็ดลับอะไรต่างๆ ส่วนเรื่องยาวๆ ขายไม่ดีแล้ว

     เรียกว่ากลายเป็นสังคมที่ชอบเสพข้อความสั้นๆ แล้วมันมีข้อดีข้อเสียยังไง ?
      
       มันก็ดีที่เราได้รับรู้ข่าวสารหลากหลายรวดเร็ว แต่เมื่อทุกคนอ่านแค่พาดหัว มันก็ทำให้เราเป็นคนจับอะไรแค่ผิวเผิน น้อยมากที่เราจะรู้อะไรจริงๆ อ่านแค่สเตตัสบนเฟซบุ๊กแล้วเราก็คิดว่าเขาดีหรือไม่ดีแล้ว ทำให้หลายคนกลายเป็นคนฉาบฉวย
      
       แล้วมันทำให้เรากลายเป็นคนมีความรักที่ฉาบฉวยด้วยไหม ?
      
       ไม่นะ อย่างแจมจะคิดเยอะมาก ระวังตัวมากขึ้น เพราะเรื่องราวของคนข้างนอกมันสะท้อนกลับมาทำให้เราเป็นคนที่ไม่อยากพลาด อย่างสมัยก่อนคนจะสนิทกันได้ต้องเจอกันไม่รู้กี่ครั้งคุยกันไม่รู้เท่าไหร่ แต่เดี๋ยวนี้เจอกันด้วยรูปภาพในไอจีหรือเฟซบุ๊ก บางทีเราเหมือนรู้จักเขา แต่เราไม่รู้จักเขาจริงๆ หรอก

   แจมมองความรักของคนยุคนี้เป็นเรื่องโรแมนติกอยู่ไหม หรือแค่ตอบสนองสัญชาตญาณ ?
      
       มันเป็นทั้ง 2 อย่าง เพราะมันเป็นไปไม่ได้อยู่แล้วที่เราจะอยู่คนเดียว ต่อให้เราโสดเราก็ยังต้องมีครอบครัว ต้องมีการติดต่อสื่อสารกับใครคนใดคนหนึ่งจนเราแก่ จริงๆ คนมักคิดว่าโตแล้วต้องมีแฟน ถ้าไม่มีจะแก่ขึ้นคาน แต่เราคิดว่าไม่ใช่ จริงๆ แล้วคนเราอยู่จนแก่ตายอาจจะไม่ได้แต่งงานกันด้วยซ้ำ สายสัมพันธ์ของคนที่จะอยู่กันจนแก่นั้นก็แค่อยู่ข้างๆ กันได้ รับฟังกันได้ อยู่ในวันที่คนทั้งโลกเกลียดเรา แจมคิดนะว่าไม่จำเป็นหรอกที่ต้องบีบคั้นตัวเองให้มีแฟนให้ได้ ถ้าไม่มีเราก็อยู่กับแม่จนแก่ดีกว่า การที่มนุษย์เรามีแฟนเป็นเพราะสัญชาตญาณ และเราเป็นสัตว์สังคม ดังนั้นถ้าเรามองด้านนี้คนที่จะอยู่กับเราจนวันตายอาจจะไม่ใช่แฟนก็ได้
      
       แล้วผู้ชายยังเป็นสิ่งสวยงามสำหรับแจมอยู่ไหม ?
      
       ยังเป็นอยู่นะ แต่ก็มีลึกๆ ที่แอบคิดไม่ดี (หัวเราะ) แต่เราก็พยายามไม่รู้สึกว่าผู้ชายในโลกนี้แย่ทั้งหมด คือบางทีผู้ชายบางคนเขาก็นิสัยดีมาก แต่เพียงแค่เราอาจจะพาตัวเองไปเจอคนที่แย่เท่านั้นเอง เพราะฉะนั้นเราก็เลยระมัดระวังตัวเองมากขึ้นก่อนจะเผลอใจ อย่าแบบเอ๋อให้มันมาก

  แล้วผู้ชายแบบไหนจะผ่านมาตรฐานเราได้ ?
      
       แจมเป็นคนโลกส่วนตัวสูง และไม่ชอบทำอะไรตามเทรนด์ หรือทำอะไรให้ใครมาชอบเรา ดังนั้นคนที่จะเข้ามาต้องเข้าใจในจุดนี้ ไม่ใช่จะชวนไปตื๊ดๆ ทุกวัน เราชอบคนที่เป็นตัวของตัวเอง ไม่ชอบปรุงแต่งมาก หรือจะมาแบบหนุ่มเกาหลีใสๆ เนี้ยบๆ ก็ไม่ไหว อยู่แล้วเหนื่อย
      
       อยากฝากอะไรกับหนุ่มสาวที่ยังโสดบ้าง ?
      
       คนเราไม่ต้องกำหนดเส้นตายให้ตัวเองมากไป เพราะคนเราเส้นทางเดินไม่เหมือนกัน จะเจอช้าเจอเร็วมันก็เป็นเส้นทางชีวิตเรา แจมรู้สึกว่าสิ่งที่เจอช้ามันเป็นคุณภาพ แต่ก็ให้มองสัญชาตญาณตัวเองมากกว่า เพราะการที่บังคับตัวเองให้ตามหาแล้วเห็นสิ่งที่อยู่ตรงหน้าเราจะมองว่ามันใช่ แต่ถ้าเราหยุดมองรอบตัวแบบนิ่งๆ สิ่งที่ใช่มันจะเดินเข้ามาเอง แล้วเราจะมีเวลาคิดว่ามันใช่จริงๆ หรือเปล่า

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน

อัลบั้มภาพเด็ดๆ

More »

คลิปไฮไลท์

More »