ผลคะแนนและราคา 2 in 1 คะแนนในการแข่งสด ผลการแข่งขัน ตารางการแข่งขัน อัตราต่อรอง ข้อมูล คะแนนบาสเก็ตบอล
ฟุตบอล » พรีเมียร์ลีก อังกฤษ » เก็บตก 5 ประเด็นหลังเกมหงส์เปิดรังจิกจิ้งจอก 4-1

เก็บตก 5 ประเด็นหลังเกมหงส์เปิดรังจิกจิ้งจอก 4-1

Posted 12/09/2016 by siamsport

เกมคู่ดึกประจำวันเสาร์ ซึ่งเป็นคู่พระรองจากเกมแมนเชสเตอร์ ดาร์บี้ จบลงด้วยชัยชนะของ "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล ที่เปิดสังเวียน แอนฟิลด์ ไล่ถล่มแชมป์เก่า เลสเตอร์ ซิตี้ 4-1 ซึ่งในนัดนี้มีเหตุการณ์ต่างๆเกิดขึ้นมากมาย และนี่คือ 5 ประเด็นฮ็อตที่น่าสนใจมากที่สุด

 

1. บทกวีของคล็อปป์

เกมนี้ลูกทีมของ เยอร์เก้น คล็อปป์ ทำได้ตามแผนที่นายใหญ่เลือดด๊อยช์ต้องการ ไม่ว่าจะเป็นรูปเกม การไล่เพรสซิ่งคู่แข่ง ทีมเวิร์ก การจบสกอร์ที่เด็ดขาด รวมไปถึงผลการแข่งขันที่เป็นที่น่าชื่นชมเอามากๆ

ครึ่งแรก หงส์แดง ทำได้ดีจนได้ประตูขึ้นนำถึง 2 ลูก แต่ปัญหาเดิมๆก็เกิดขึ้นอีกตามเคยคือความผิดพลาดส่วนบุคคล ซึ่งนำพาความหวังมาให้ทาง จิ้งจอกสีน้ำเงิน มีโอกาสกลับมาในช่วงครึ่งหลัง

ซึ่งในระยะหลัง หลายๆเกมที่ ลิเวอร์พูล เล่นได้ดี กดคู่แข่งได้ในครึ่งแรก แต่ครึ่งหลังกลับลงมามีแผ่ว เล่นเหมือนหนังคนละม้วน ทำให้เสียแต้มไปหลายครั้ง แต่เกมนี้กลับไม่เกิดขึ้น เหล่าผู้เล่นทุกคนเล่นเหมือนในครึ่งแรก จนได้อีก 2 ประตูตอกฝาโลง ปิดความหวังทีมเยือนไปในที่สุด

ถ้าหากพวกเขาทำได้แบบนี้ในทุกๆเกม บทกวีของ "คล็อปป์" ก็จะยังมีหวังที่จะประสบความสำเร็จได้ในไม่ช้า

 

2. แชมป์เก่าสิ้นลาย!?

ซีซั่นแห่งความยิ่งใหญ่ของ เลสเตอร์ ซิตี้ พวกเขาแพ้ไปเพียง 3 เกมเท่านั้น เมื่อครบ 38 นัด แต่ปีนี้ผ่าน 4 เกม ลูกทีมของ เคลาดิโอ รานิเอรี่ ประสบความพ่ายแพ้ไปแล้ว 2 นัด และทำท่าว่าจะไม่หยุดเพียงแค่นี้ด้วย!

นี่เป็นสิ่งที่สาวก "เดอะ ฟ็อกซ์" ต้องทำใจว่า ทีมรักของพวกเขาไม่ได้แข็งแกร่งเหมือนปีก่อนแล้วทั้งแดนกลางที่เสีย เอ็นโกโล่ ก็องเต้ ไป และแนวรับที่ไม่ปึ๊กเหมือนอย่างเคย รวมไปถึงผู้เล่นที่เปรี้ยงปร้างอย่าง ริยาด มาห์เรซ และ เจมี่ วาร์ดี้ ก็เงียบๆไปเหมือนกันในช่วงที่ผ่านมา

ยังมีเวลาอีกเยอะที่ รานิเอรี่ ต้องทำอะไรซักอย่าง ซึ่งมีศึกใหญ่อย่าง ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ที่ต้องพิสูจน์อีกว่า ทีมของพวกเขาตอนนี้ ดีเหมือนเก่าอยู่หรือเปล่า?

 

3. อัฒจรรย์ใหม่...ไฉไลกว่าเดิม

ถือเป็นนิมิตรหมายที่ดี หลังคว้าชัยประเดิมอัฒจรรย์ใหม่ได้สำเร็จ...

หลังการเพิ่มเติมและขยายอัฒจันทร์ส่วน เมน สแตนด์ ทำให้ความจุรวมๆของสนามแอนฟิลด์ได้เพิ่มจากเดิมที่ 45,000 ที่นั่ง (โดยประมาณ) มาเป็น 54,167 ที่นั่ง

แน่นอนมีผลดีหลายอย่าง โดยเฉพาะบรรยาการการเชียร์จะสุดมันส์มากกว่าเดิม และก็จะทำให้สนามแห่งนี้มีมนต์ขลังเพิ่มมากขึ้นไปอีก

 

4. กลางไม่เหมือนเดิม เมื่อไร้เงา "ก็องเต้"

การที่เลสเตอร์ ไม่มี เอ็นโกโล่ ก็องเต้ ส่งผลร้ายแรงพอสมควร เห็นได้ชัดเลยคือเรื่องสมดุลของทีม

ปีก่อน แนวรับเล่นด้วยความมั่นใจเมื่อมี ก็องเต้ คอยสกรีนอยู่ข้างหน้า ส่วนแนวรุกเคลื่อนเกมได้ไวยามที่ ก็องเต้ ตัดบอลได้แล้วเปลี่ยนจากรับเป็นรุก

ปีนี้แค่ แดนนี่ ดริ๊งวอเตอร์ คนเดียวคงไม่พอ ส่วนคู่ขาในเกมนี้ของ ดริ๊งวอเตอร์ อย่าง แดเนียล อมาร์ตีย์ ก็ยังทดแทนไม่ได้ ซึ่งประตูแรกที่ โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ เบิกร่องไปได้นั้น ก็เป็นส่วนที่ อมาร์ตีย์ ต้องรับผิดชอบ

 

5. สเตอร์ริดจ์ ยังตะกุกตะกักต่อเนื่อง

สามปีก่อน เป็นปีที่ แดเนียล สเตอร์ริดจ์ เล่นได้สุดยอดที่สุดแล้วในคราบหงส์แดง เมื่อการประสานงานกับ หลุยส์ ซัวเรซ เป็นไปอย่างเยี่ยมยอด รวมไปถึงจังหวะยิงประตูที่มีความเฉียบคม ยามที่บอลออกจากเท้าของเขา หวังผลได้ตลอด

แต่บัดนี้สถานการณ์มันเปลี่ยนไปหมดแล้ว ฟอร์มเดิมๆยังไม่คืนกลับ รวมไปถึงจังหวะจบสกอร์ที่ไร้ความเฉียบขาด แถมเจ้าตัวยังไม่ถูกการันตีว่าเป็นกองหน้าเบอร์ 1 ของทีมด้วยซ้ำในตอนนี้

แต่การลงเล่นเป็นตัวจริงในเกมเมื่อคืน มีสิ่งที่ทำให้แฟนหงส์ได้ชื่นใจบ้างแม้จะทำประตูไม่ได้ก็คือ เล่นเป็นทีมมากขึ้น วิ่งทำทางได้ดี ไม่หวงบอล ไม่ดื้อดึงฝืนเล่น และมี 1 แอสซิสต์ให้ ซาดิโอ มาเน่ กดประตูที่สองให้ทีมด้วย

อีซ้ายจอมเซิ้ง ต้องขจัดความฝืดในการลั่นสกอร์ออกไปให้จงได้ ถ้าหากทำได้ ตำแหน่งกองหน้าเบอร์ 1 ก็ไม่หนีเขาไปไหนแน่นอน

 

TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน

อัลบั้มภาพเด็ดๆ

More »

คลิปไฮไลท์

More »