หลายสโมสรอาจรู้สึกอิจฉา แมนฯ ยูไนเต็ด ก็เป็นได้ เมื่อ "ปีศาจแดง" ประกาศศักดาเป็นสโมสรแรกของอังกฤษ ที่กวาดเงินเข้าคลังเกิน 500 ล้านปอนด์ภายในปีเดียว พร้อมเผยจ่ายค่าชดเชยให้ หลุยส์ ฟาน กัล อดีตกุนซือจอมปรัชญา และทีมสต๊าฟฟ์ที่ถูกปลดออกไปเกือบ 10 ล้านปอนด์ด้วย

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยักษ์ใหญ่แห่งศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ออกมาประกาศผลประกอบการของสโมสรเมื่อวันจันทร์ที่ 12 กันยายนที่ผ่านมาว่า สามารถกวาดเงินเข้าคลังได้กว่า 500 ล้านปอนด์ (ประมาณ 24,000 ล้านบาท) ในปีที่ผ่านมา ส่งผลให้กลายเป็นทีมแรกในสหราชอาณาจักร ที่มีรายรับเกินครึ่งพันล้านปอนด์ในเวลาเพียง 1 ปี

"ปีศาจแดง" ออกแถลงการณ์ว่า ตลอดฤดูกาล 2015-16 สามารถกวาดเงินได้มหาศาลถึง 515.3 ล้านปอนด์ (ประมาณ 24,734.4 ล้านบาท) ซึ่งเพิ่มขึ้น 30 เปอร์เซ็นต์จากปีก่อน ส่วนกำไรสุทธิก็ทำสถิติใหม่ที่ 68 ล้านปอนด์ (ประมาณ 3,264 ล้านบาท) ด้วย

นอกจากนี้ ในการประกาศดังกล่าวยังยืนยันว่า ได้จ่ายค่าชดเชยราว 8.4 ล้านปอนด์ (ประมาณ 403.2 ล้านบาท) ให้กับ หลุยส์ ฟาน กัลป์ อดีตกุนซือชาวดัตช์ และทีมสต๊าฟฟ์ที่ถูกปลดออกไปเมื่อซัมเมอร์ที่ผ่านมา พร้อมกับใช้เงินไปอีกราว 232.2 ล้านบาท (ประมาณ 11,145.6 ล้านบาท) สำหรับจ่ายค่าเหนื่อยนักเตะ และให้งบประมาณ โชเซ่ มูรินโญ่ นายใหญ่ชาวโปรตุเกส ในการซื้อ 4 แข้งใหม่อย่าง ซลาตัน อิบราฮิโมวิช, เอริก ไบยี่, เฮนริก มคิตาร์ยาน และ ปอล ป็อกบา ด้วย

เอ็ด วู้ดเวิร์ด รองประธานบริหาร แมนฯ ยูไนเต็ด กล่าวว่า "ผลประกอบการของเราในปี 2016 สะท้อนให้เห็นถึงพื้นฐานที่แข็งแกร่งด้านธุรกิจอย่างต่อเนื่อง และสโมสรมีเป้าหมายที่จะสร้างสถิติใหม่ด้านรายรับในปี 2017 ถึงเราจะไม่ได้มีส่วนรวมใน แชมเปี้ยนส์ ลีก ก็ตาม"

"ความแข็งแกร่งด้านการเงินของเราทำให้สามารถนำไปลงทุนในทีม, การบริหารและสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ เพื่อให้เราสามารถยืนอยู่ในจุดที่ลุ้นคว้าชัยชนะและแชมป์ต่างๆ ในปีถัดๆ ไปได้" วู้ดเวิร์ด ระบุ