โค้งสุดท้ายของศึก โตโยต้า ไทยลีก 2016 กำลังเข้มข้นไม่น้อยเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นการแย่งแชมป์ หรือ หนีโซนตกชั้น ซึ่งในสัปดาห์ที่ 30 เมื่อวันที่ 17-18 ก.ย.ที่ผ่านมา เราได้ 11 นักเตะสุดแกร่งของนัดนี้ออกมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว กับระบบ 3-5-2

ทีมงานฟุตบอลสยาม

ผู้รักษาประตู : กัมพล ปฐมอรรฑย์กุล (นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี)

        เก็บไปอีกหนึ่งคลีนชีต สำหรับ "เจ้าไอซ์" กัมพล ปฐมอรรฑย์กุล พร้อมกับช่วย "สวาดแคท" คว้า 3แต้มสำคัญ โดยในนัดล่าสุดที่ชนะ 2-0 สามารถเซฟลูกยิงบรรดาแนวรุกจากบุรีรัมย์ ได้หลายลูก รวมถึงยังมีการอ่านเกมที่ดี ออกมาตัดบอลได้หลายครั้ง ช่วยกองหลังได้เยอะทีเดียว

กองหลัง : โชตินันท์ วีรภัทรพงศ์ (ชัยนาท ฮอร์นบิล)

        แบ็กขวาจอมเติมของ "นกใหญ่พิฆาต" ชัยนาท ฮอร์นบิล โดดเด่นอย่างมากในเกมที่ช่วยทีมพลิกกลับมาชนะ อาร์มี่ ยูไนเต็ด 4-2 ทั้งการขึ้นลงแบบสุดๆ หรือการครอสบอลเข้าไปในพื้นที่ที่ได้เปรียบ ทำให้ "เจ้ามอส" โชตินันท์ วีรภัทรพงศ์ เป็นนักเตะพ่อลูกอ่อนที่น่าจับตามองเลยทีเดียว

กองหลัง : ธนบูรณ์ เกษารัตน์ (เอสซีจี เมืองทองฯ)

        การหยุดเกมรุกของ บีบีซียู เอฟซี กลายเป็นเรื่องที่ ธนบูรณ์ เกษารัตน์ ทำได้อย่างยอดเยี่ยม หลังจากอ่านจังหวะ, ชิงตัดบอล, แย่งบอลจากเท้า พร้อมกับเปลี่ยนเป็นเกมรุกได้อย่างรวดเร็ว เป็นอีกส่วนหนึ่งที่ทำให้ เอสซีจี เมืองทองฯ เอาชนะไป 5-1

กองหลัง : อภิเชษฐ์ พุฒตาล (บีอีซี เทโรศาสน)

        กัปตันทีมของ บีอีซี เทโรศาสน อย่าง "เจ้าเปิ้ล" อภิเชษฐ์ พุฒตาล คอยเป็นกำลังหลักสำคัญในการบัญชาเกมทั้งหมด และยังเป็นหัวใจหลักในแนวรับอีกด้วย เนื่องจากมีประสบการณ์มากที่สุดในทีม จนทีมคว้า 3 คะแนนสำคัญเหนือสุโขทัย เอฟซี ในบ้านตัวเอง

กองกลาง : ใหญ่ นิลวงศ์ (ราชบุรี มิตรผล เอฟซี)

        ทำหน้าที่ได้อย่างยอดเยี่ยมในสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งเจ้าตัวมีส่วนสำคัญที่ช่วยให้ต้นสังกัดเก็บ 3 แต้มเหนือ ซุเปอร์เพาเวอร์ สมุทรปราการ 3-0 โดยในเกมดังกล่าว เจ้าตัวยิงไป 1 ประตู และก็เป็นคนจ่ายให้ ยานนิค ยาโล่ ยิงอีก 2 ประตู และยังเดินเกมรุกได้อย่างดุดัน

กองกลาง : มิลาน บูบาโล่ (บีอีซี เทโรศาสน)

        ในเกมที่ บีอีซี เทโรศาสน เปิดรังชนะ สุโขทัย เอฟซี 1-0 ถือได้ว่า มิลาน บูบาโล่ เป็นผู้เปลี่ยนแปลงผลการแข่งขันเลยก็ว่าได้ จากลูกฟรีคิกสุดสวย ที่ทำให้ เทโร ขึ้นนำ 1-0 และเป็นประตูชัยในที่สุดในนัดดังกล่าว ถึงเค้าจะไมได้โดเด่นมากนักและยังถูกเปลี่ยนตัวออกก่อนหมดเวลาการแข่งขันแต่ จังหวะทำประตูก็ทำให้เขาได้รับคำชมไป

กองกลาง : แองโจโล่ มาชูก้า (ราชนาวี)

        ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม แนวรุกเลือดแซมบ้ารายนี้ ของราชนาวี เอฟซี แม้ว่าเกมนี้จะไม่สามารถพาทีมเก็บชัยชนะได้ แต่ก็ต้องบอกว่า ในเกมนี้เจ้าตัวมีส่วนสำคัญอย่างมากในเกมรุกและสร้างสรรค์โอกาสในการทำประตู ให้กับเพื่อนร่วมทีมอีกทั้งยังปั่นป่วนแนวรับของเชียงราย ยูไนเต็ด ได้อย่างดีเยี่ยม

กองกลาง : ดูโรซินมี่ อเดโฟลาริน (ศรีสะเกษ เอฟซี)

        แนวรุกของศรีสะเกษ เอฟซี ในเกมที่ชนะ พัทยา ยูไนเต็ด ในบ้านตัวเองไป 4-0 ได้ความสามารถเฉพาะตัว รวมถึงความเร็วที่สามารถปั่นป่วนแนวรับทีมเยือนแบบสิ้นซาก จนทำให้ถล่ม "โลมาสีน้ำเงิน" ไปอย่างขาดรอย

กองกลาง : คลีตัน ซิลวา (เอสซีจี เมืองทองฯ)

        2 ประตูที่เกิดขึ้นกับ คลีตัน ซิลวา นอกจากจะพา เอสซีจี เมืองทองฯ ชนะ บีบีซียู เอฟซี 5-1 เก็บ 3 คะแนนรักษาบัลลังก์จ่าฝูงต่อไปแล้ว ยังทำให้เจ้าตัวทุบสถิติใหม่ตลอดกาลที่เคยยิงในลีกไว้ ประกอบด้วย ปี 2010 ซูเปอร์ พาวเวอร์ฯ 7 ประตู, ปี 2011 ซูเปอร์ พาวเวอร์ 10 ประตู, ปี 2012 บีอีซี เทโรศาสน 24 ประตู, ปี 2013 บีอีซี เทโรศาสน 20 ประตู, ปี 2014 เอสซีจี เมืองทองฯ 4 ประตู และปี 2015 เอสซีจี เมืองทองฯ 25 ประตู

กองหน้า : เดฟดี้ เรส (ชัยนาท ฮอร์นบิล)

        ในช่วงแรกแฟนบอล ชัยนาท ฮอร์นบิล อาจจะใจหายใจคว่ำ หลังจาก ฟลอร็องต์ ซินาม่า ปงโกลล์ เจ็บแล้วต้องถูกเปลี่ยนตัวออกไป ทว่าตัวสำรองซูเปอร์ซับอย่าง เดฟดี้ เรส ทำให้เห็นถึงความเป็นโจ๊กเกอร์ ด้วยการลงมาซัด 2 ประตู พาทีมเก็บชัยชนะเหนือ อาร์มี่ ยูไนเต็ด 4-2

กองหน้า : ปรินซ์ อัมปงช่าห์ (ชลบุรี เอฟซี)

        ปริ้นซ์ อัมปงซ่าห์ คือเจ้าของประตูเบิกล่องที่ทำให้ ชลบุรี เอฟซี บุกมาเก็บแต้มสำคัญ นอกจากประตูที่ทำได้ เจ้าตัวทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม สามารถป่วนเกมรับของ แบงค็อก ยูไนเต็ด ได้เป็นอย่างดีและมีส่วนร่วมกับเกมตลอด 90 นาที