เชส ฟาเบรกาส รับบทฮีโร่ตะบันสองเม็ด ช่วย "สิงโตน้ำเงินคราม" เชลซี ยิงแซงชัย "จิ้งจอกสีน้ำเงิน" เลสเตอร์ ซิตี้ ช่วงต่อเวลาพิเศษ 4-2 หลังเสมอกันในเวลาปกติ 2-2 ส่งผลให้ เชลซี ผ่านเข้าสู่รอบ 16 ทีมต่อไป ในศึกฟุตบอล ลีกคัพ รอบ 3 เมื่อคืนวันอังคารที่ 20 ก.ย. ที่ผ่านมา

ฟุตบอลลีก คัพ อังกฤษ รอบ3

วันอังคารที่ 20 กันยายน 2559

เลสเตอร์ (พรีเมียร์ลีก) 2  -  2 เชลซี (พรีเมียร์ลีก)

(ต่อเวลาพิเศษ เชลซี ชนะด้วยผลรวม 4-2)

สนาม : คิง เพาเวอร์ สเตเดี้ยม

        เลสเตอร์ ซิตี้ นัดนี้ยังไม่มี แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล, นอมปาลีส เมนดี้ และ แม็ตตี้ เจมส์ เจ็บข้อเท้าทั้งคู่ แดนกลางใช้ แอนดี้ คิง คุมเกมกับ แดนนี่ ดริงค์วอเตอร์ คู่หน้าวาง อาห์เหม็ด มูซ่า และ ชินจิ โอกาซากิ

        ฝั่งเชลซี สะดุดมา 2 นัดติด เกมนี้ยังไม่มี จอห์น เทอร์รี่ และ คูร์ท ซูม่า ที่ยังไม่สมบูรณ์โดยประเดิมส่ง มาร์กอส อลอนโซ่ ลงยืนแบ็กซ้ายรวมถึง เชส ฟาเบรกาส กลับมาเป็นตัวจริง แนวรุกใช้สามประสาน เปโดร โรดริเกซ, วิคเตอร์ โมเสส และ รูเบน ลอฟตัส-ชีค ทำเกมหลังหอกเป้า มิชี่ บาตชูอายี่

        ครึ่งแรกเริ่มมา 5 นาที ทีมเยือนทักทายก่อนเลย ดาวิด ลุยซ์ วางบอลยาวมาให้ เปโดร หลุดไปแตะหลบ รอน โรเบิร์ต ซีเลอร์ แล้วยิงตุงตาข่ายแต่ล้ำหน้าไปก่อน

 ต่อมานาที 17 กลายเป็น เลสเตอร์ ออกนำ 1-0 อาห์เหม็ด มูซ่า เปิดเข้าไปกลางประตู อัซปิลิกวยต้า พักอกไม่ดีไปเข้าทาง ชินจิ โอกาซากิ โหม่งเบียดเสาเข้าไป

        มาถึงนาที 25 เชลซี เกือบตีเสมอ เปโดร โรดริเกซ เปิดไปเสาสองให้ มิชี่ บาตชูอายี่ ได้เทกตัวโหม่งเหน่งๆหลุดกรอบไปอย่างน่าเสียดาย
เกมยังเปิดแลกกันสนุก

  ถัดมานาที 36 เจ้าถิ่นหนีเป็น 2-0 แอนดี้ คิง กระดกบอลไปให้ ชินจิ โอกาซากิ หลุดเข้าไปยิงด้วยขวามุมแคบเข้าไปไม่เหลือและเป็นลูกที่สองของเจ้าตัวในเกม นี้

        ขยับมานาที 38 "สิงห์บลูส์" ยังได้เสียว เปโดร ไหลบอลไปให้ รูเบน ลอฟตัส-ชีค ลองส่องไกลด้วยขวาแต่ รอน โรเบิร์ต ซีเลอร์ ยังล้มตัวรับไว้ได้

    นาทีสุดท้ายครึ่งแรก เชลซี ไล่มาเป็น 2-1 เชส ฟาเบรกาส เปิดลูกเตะมุมเข้ามาให้ แกรี่ เคฮิลล์ โหม่งบอลข้ามเส้นไปเรียบร้อย และจบครึ่งแรกไปด้วยสกอร์นี้

    ครึ่งหลังผ่านมานาที 49 "สิงห์บลูส์" ตามตีเสมอเป็น 2-2 จากจังหวะ เชส ฟาเบรกาส เปิดเข้ากลางให้ รูเบน ลอฟตัส-ชีค ยิงจังหวะแรกติดบล็อกเข้าทาง เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า ฮาร์ฟวอลเลย์เสียบตาข่ายอย่างสวยงาม

        ขยับมานาที 66 เชลซี ยังได้โอกาส เปโดร โรดริเกซ ยิงจังหวะแรกบอลไปติดบล็อกเข้าทาง มาร์กอส อลอนโซ่ หวดด้วยซ้ายหลุดกรอบออกไป

        จังหวะต่อมา ทีมเยือนเกือบแซงนำ ดีเอโก้ คอสต้า ที่เพิ่งลงมาเป็นตัวสำรองพักบอลให้ มิชี่ บาตชูอายี่ อัดด้วยขวาเต็มข้อข้ามคานไปนิดเดียว

        มาถึงนาที 70 เชลซี พลาดโอกาสทองเหลือเชื่อ ดาวิด ลุยซ์ วางบอลยาวจากแดนหลังให้ ดีเอโก้ คอสต้า หลุดไปยิงด้วยขวาเฉี่ยวเสาไปอย่างน่าเสียดาย

        ท้ายเกมนาที 75 เลสเตอร์ เกือบได้ประตู อาห์เหม็ด มูซ่า ใช้สปีดหลุดไปยิงติดเซฟของ อัสเมียร์ เบโกวิช หวุดหวิด จังหวะต่อมา แอนดี้ คิง โหม่งจ่อๆข้ามคานเหลือเชื่อ

        นาทีที่ 83 เชลซี เกือบได้ประตูขึ้นนำโดย ดีเอโก้ คอสต้า หลุดเข้าไปซัดด้วยขวาไปติดเซฟ รอน โรเบิร์ต ซีเลอร์ นายด่านจิ้งจอก ป้องกันไว้ได้

        นาทีที่ 87 แดนนี่ ดริงค์วอเตอร์ แข้งเลสเตอร์ ถูกใบเหลืองจากจังหวะตัดฟาวน์ ดีเอโก้ คอสต้า ที่กำลังกระชากบอลเข้าไปลุ้นทำประตู

        จากจังหวะดังกล่าวเป็น ดาวิด ลุยซ์ รับหน้าที่ปั่นฟรีคิกระยะประมาณ 20 หลากลางประตู บอลหลุดข้ามคานไปอย่างน่าเสียดาย

        นาทีที่ 89 สิงโตน้ำเงินคราม หวังปิดบัญชี โดย เปลี่ยนตัว เอแด็น อาซาร์ ลงมาแทน เปโดร โรดริเกซ

   นาทีถัดมา เลสเตอร์ เหลือผู้เล่น 10 คน จากจังหวะ มาร์ซิน วาซิเลฟสกี้ ใช้มือกระแทกใส่หน้า ดีเอโก้ คอสต้า ผู้ตัดสินแจกใบเหลืองที่สอง กลายเป็นใบแดง ทันที

        นาทีที่ 93 เชลซี หวิดได้ประตูชัย โดย ดีเอโก้ คอสต้า หลุดเข้าไปซัดด้วยขวาแต่โดนบอลไม่ดีเข้าข้างตาข่าย

        จบเกมในเวลาปกติ เลสเตอร์ เปิดบ้านเสมอ เชลซี 2-2 ทำให้ต้องต่อเวลาพิเศษอีก 30 นาที

      เริ่มเกมในช่วงต่อเวลาพิเศษ นาทีที่ 92 เชลซีได้ประตูแซงขึ้นนำ 3-2 จากจังหวะการต่อบอลสุดสวยของ เอแด็น อาซาร์ ให้ ดีเอโก้ คอสต้า ส่งต่อให้ อาซาร์ หยุดบอลให้ ฟาเบรกาส เติมเข้ามาซัดด้วยขวาเข้าไป

    สิงโตน้ำเงินคราม คึกหนักทำประตูนำห่าง 4-2 นาทีที่ 94 โดย อาซาร์ ยิงยัดเข้าไปทางฝั่งขวา บอลติดขา แดเนียล อมาร์ตีย์ ลอยโด่ง รอน โรเบิร์ต ซีเลอร์ ชกบอลออกมาไม่พ้นไปเข้าทาง เชส ฟาเบรกาส ซัดโล่งๆ กลางประตูไม่เหลือ

        จบครึ่งแรกของช่วงต่อเวลาพิเศษ เชลซี บุกนำห่าง เลสเตอร์ 4-2

        เริ่มกันต่อครึ่งหลังในช่วงต่อเวลาพิเศษ เป็น เชลซี ที่ได้เปรียบตัวผู้เล่นมากกว่าแต่กลับเป็นฝ่ายถูกใบเหลือง จากจังหวะควบแซงของ เจมี่ วาร์ดี้ และเป็น ดาวิด ลุยซ์ ปราการหลังของทีมเยือน ใช้มือดึงเพื่อหยุดเกม

        นาที 110 เลสเตอร์ มาได้ฟรีคิกริมเส้นด้านขวาแต่ แดนนี่ ดริงค์วอเตอร์ เปิดออกหลังไปแบบไม่ได้ลุ้น "จิ้งจอกสีน้ำงิน" พยายามบุกเอาใจแฟนๆ

        ถัดมานาที 115 ทีมเยือนยังได้เสียว มาร์กอส อลอนโซ่ เปิดเข้ามาให้ เชส ฟาเบรกาส วิ่งมาตวัดยิงเสาแรกหลุดกรอบไป

        ช่วงเวลาที่เหลือไม่มีฝั่งใดทำประตูเพิ่ม จบเกม เชลซี บุกยิงแซงชนะ เลสเตอร์ ถึงถิ่น 4-2 ผ่านเข้ารอ 16 ทีมได้สำเร็จ 

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
        เลสเตอร์ : รอน โรเบิร์ต ซีเลอร์ - แดนนี่ ซิมพ์สัน, เวส มอร์แกน, มาร์ซิน วาซิเลฟสกี้, เบน ชิลเวลล์ - เดมาราย เกรย์(แดเนียล อมาร์ตีย์ น.90+1), แอนดี้ คิง, แดนนี่ ดริงค์วอเตอร์, เจฟฟรี่ย์ ชลุปป์ - อาห์เหม็ด มูซ่า(เจมี่ วาร์ดี้ น.76), ชินจิ โอกาซากิ(เลโอนาร์โด้ อูยัว น.75)
        สำรอง : เบน ฮาเมอร์, โยอัน เบนาลูอาน, บาร์ตอสซ์ คาปุตส์ก้า, ริยาด มาห์เรซ

       เชลซี : อัสเมียร์ เบโกวิช - เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า, แกรี่ เคฮิลล์, ดาวิด ลุยซ์, มาร์กอส อลอนโซ่ - เชส ฟาเบรกาส, เนมานย่า มาติช - เปโดร โรดริเกซ(เอแด็น อาซาร์ น.89), รูเบน ลอฟตัส-ชีค(ดีเอโก้ คอสต้า น.67), วิคเตอร์ โมเสส - มิชี่ บาตชูอายี่(นาธาเนี่ยล ชาโลบาห์ น.80)
        สำรอง : ติโบติ์ กรูกตัวส์, โอล่า ไอน่า, เอ็นโกโล่ ก็องเต้, วิลเลี่ยน

       ผู้ตัดสิน : โรเบิร์ต แม็ดลี่ย์