โตโยต้า ไทยลีก 2016 เดินทางเข้าสู่นัดที่ 31 กันแล้ว ความพร้อมทั้ง 6 คู่วันเสาร์เป็นอย่างไร เช็คได้ที่นี่

(8) เชียงราย ยูไนเต็ด - แบงค็อก ยูไนเต็ด (2)

เวลา 18.00 น. ที่ยูไนเต็ด สเตเดี้ยม ถ่ายทอดสดทาง True Sport 2 / True Sport HD3

กว่างโซ้งมหาภัยล่าสุดบุกเจ๊า ราชนาวี มา 0-0 โดยเกมนี้หมดสิทธิ์ใช้งาน วรวุฒิ นามเวช ที่ติดโทษแบนเพียงรายเดียว ส่วนแกนหลักรายอื่นอยู่กันครบนำโดย บดินทร์ ผาลา , ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ , พิชิตพงษ์ เฉยฉิว , ปิยพล ผานิชกุล และ เวลลิง บรูโน่

แข้งเทพล่าสุดเปิดบ้านทำได้เพียงเสมอ ชลบุรี เอฟซี มา 1-1 โดยเกมนี้แม้จะได้ พุทธินันท์ วรรณศรี พ้นโทษแบนกลับมา แต่ดันหมดสิทธิ์ใช้งาน สุมัญญา ปุริสาย และ แอนโทนี่ อำไพพิทักษ์วงษ์ ที่ติดโทษแบนแทนที่ รวมถึงต้องรอเช็คความฟิต เจย์ซี จอห์น ที่มีอาการบาดเจ็บ ส่วนแกนหลักที่เหลืออยู่กันครบนำโดย มาริโอ ยูรอฟสกี้ , สรรวัชญ์ เดชมิตร และ กิลแบร์โต มาเชน่า

(7) สุโขทัย เอฟซี - บางกอกกล๊าส เอฟซี (4)

เวลา 18.00 น. ที่สนามกีฬาทุ่งทะเลหลวง ถ่ายทอดสดทาง True Sport 6)

ค้างคาวไฟล่าสุดเปิดบ้านถล่ม การท่าเรือ เอฟซี 4-0 ผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศช้าง เอฟเอคัพ ทว่าผลงานในลีกขณะนี้ถือว่าไม่ดีหลังเพิ่งออกไปพ่าย บีอีซี เทโรศาสน มา 1-0 ปราชัยเป็นนัดที่ 3 ติดต่อกัน แต่ยังดีที่ไร้ปัญหาจัดทัพในเกมนี้ คาดว่าแกนหลักอย่าง ดิยุฟ บีรัม , ยุทธิพงษ์ ศรีละคร , จอห์น บาจโจ้ และ เรนาน มาร์เกวซ จะถูกส่งลงสนามครบครัน

กระต่ายแก้วล่าสุดกลับมาคว้าชัยในลีกรอบ 6 เกมหลังเปิดบ้านทุบ สุพรรณบุรี เอฟซี มา 3-1 แม้ว่าเกมนี้จะหมดสิทธิ์ใช้งาน ศิวกร แสงวงศ์ ที่มีอาการบาดเจ็บต่อไป แต่ก็ได้ โรแม็ง กัสมี่ พ้นโทษแบนกลับมา พร้อมลงสนามร่วมกับแกนหลักอย่าง อาเรียล อาราย่า , ศราวุฒิ มาสุข และ จักรพันธ์ พรใส

(5) ราชบุรี มิตรผล เอฟซี - บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด (3)

เวลา 19.00 น. ที่มิตรผล สเตเดี้ยม ถ่ายทอดสดทาง True Sport 7

ราชันมังกรล่าสุดกลับมาคว้าชัยในลีกรอบ 4 เกมหลังเปิดบ้านถล่ม ซุปเปอร์ พาวเวอร์ มา 3-0 ทว่ายังต้องรอเช็คความฟิต ศิวรุต ผลหิรัญ และ ทาคุมะ มุรายาม่า ที่มีอาการบาดเจ็บต่อไป ส่วนแกนหลักที่เหลืออยู่กันครบนำโดย ยานนิค ยาโล่ , ปฐมชัย เสือสกุล และ ณัฐวุฒิ สมบัติโยธา ที่จะได้โอกาสเผชิญหน้าทีมเก่า

ปราสาทสายฟ้าล่าสุดปราชัยในลีกรอบ 6 เกมหลังบุกพ่าย นครราชสีมา เอฟซี มา 2-0 อีกทั้งเช่นเคยยังหมดสิทธิ์ใช้งานผู้เล่นหลักๆอย่าง โก ซุล กิ , สุเชาว์ นุชนุ่ม และ กรกช วิริยอุดมศิริ ที่มีอาการบาดเจ็บต่อไป แต่ก็ได้ อดิศักดิ์ เส็นสมเอียด พ้นโทษแบนกลับมา ส่วนแกนหลักที่เหลืออยู่กันครบนำโดย อันเดรส ตูเญซ , จักรพันธ์ แก้วพรม , ดิโอโก้ หลุยส์ ซานโต้ และ บรูโน่ โมไรร่า

(17) ซุปเปอร์เพาเวอร์ - อาร์มี่ ยูไนเต็ด (15)

เวลา 19.00 น. ที่เอ็ม พาวเวอร์ สเตเดี้ยม ถ่ายทอดสดทาง True Saprk Jump ช่อง 445

เดอะพาเวอร์ล่าสุดปราชัยในลีกรอบ 6 เกมหลังบุกพ่าย ราชบุรี มิตรผล เอฟซี มา 3-0 อีกทั้งยังหมดสิทธิ์ใช้งาน ศักดิ์ดา เจิมดี ที่มีอาการบาดเจ็บ รวมถึงต้องรอเช็คความฟิตทั้ง อภิภู สุนทรพนาเวศ และ เดนนิส มูริลโล่ ส่วนแกนหลักที่เหลืออยู่กันครบนำโดย แอนโทนี่ โคเมนอง , แซดนีย์ อุริโคป และ เจษฏา พั่วนะคุณมี

สุภาพบุรุษวงจักรล่าสุดเปิดบ้านพ่าย ชัยนาท ฮอร์นบิล 2-4 ทั้งที่นำก่อน 2-0 อีกทั้งเกมนี้ยังหมดสิทธิ์ใช้งาน ไค ฮิราโนะ ที่มีอาการบาดเจ็บ แต่ก็ได้ ทศวรรษลิ้มวรรณเสถียร พ้นโทษแบนกลับมา พร้อมลงสนามร่วมกับแกนหลักอย่าง โชซิมาร์ , ศนุกรานต์ ถิ่นจอม และ นิพนธ์ คำทอง

(18) บีบีซียู เอฟซี - บีอีซี เทโรศาสน (9)

เวลา 20.00 น. ที่สนามศูนย์กีฬาเยาวชนเฉลิมพระเกียรติ นนทุบรี ถ่ายทอดสดทาง True Sport 2)

เดอะบิ๊กแบงตกชั้นสู่ดิวิชั่น 1 เป็นทีมแรกแน่นอนแล้วโดยล่าสุดเพิ่งบุกพ่าย เมืองทอง ยูไนเต็ด ที่สนามกลางศุภชลาศัยมาถึง 5-1 แต่ยังดีที่ไร้ปัญหาจัดทัพในเกมนี้ คาดว่าแกนหลักอย่าง วู กึน ยอง , นฤพน พุฒซ้อน , มา ซัง ฮุน และ จูเลียส โออิโบห์ จะถูกส่งลงสนามครบครัน

มังกรไฟล่าสุดเปิดบ้านชนะ สุโขทัย เอฟซี มา 1-0 ทว่าเกมนี้จะหมดสิทธิ์ใช้งาน ศิวกรณ์ เตียตระกูล ที่มีอาการบาดเจ็บ แต่ก็ได้ มิลอส โบซานชิค พ้นโทษแบนกลับมาพร้อมลงสนามร่วมกับแกนหลักอย่าง เจนรบ สำเภาดี , มิลาน บูบาโล่ และ ทาคาฮิโร่ คาวามูระ