ปรีวิวฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก

(รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม เอฟ)

วันอังคารที่ 27 กันยายน 2559

โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ (เยอรมัน) - เรอัล มาดริด (สเปน)

ถ่ายทอดสด : บีอิน สปอร์ตส์ 3 (เวลา 01.45 น.)

สนาม : ซิกนัล อิดูน่า พาร์ค (ดอร์ทมุนด์, เยอรมัน)

        โธมัส ทูเคิ่ล นายใหญ่ "เสือเหลือง" โชว์ฟอร์มร้อนแรงด้วยการถล่มยับ ลีเกีย วอร์ซอว์ 6-0 ในแมตช์แรก ส่วนในลีก หลังจากที่พ่าย ไลป์ซิก ก็กลับมาดีต่อเนื่อง ล่าสุดทุบ ไฟร์บวร์ก 3-1 เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา

        ข่าวดีคือ มาร์ค บาร์ตร้า หายเจ็บกลับมาซ้อมได้ตามปกติแล้ว พร้อมเป็นตัวเลือกด้วย เช่นเดียวกับ อันเดร เชือร์เล่, อาเดรียน รามอส และ ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมย็อง แต่ยังไร้ตัวที่เดี้ยงอย่าง มาร์โค รอยส์, เนเว่น ซูโบติช และ สเวน เบนเดอร์

        นายทวารใช้ โรมัน บูร์กี้ ที่เหลือ โซคราติส ปาปาสธาโธปูลอส ยืนปราการหลังตัวกลางกับ มัทธีอัส กินเทอร์ แบ็กสองข้างเลือก ลูคัสซ์ พิซเซ็ค และ มาร์เซล ชเมลเซอร์

        ยูเลี่ยน ไวเกิ้ล เป็นมิดฟิลด์ตัวตัดเกม เปิดทางให้ อุสมาน เดมเบเล่, มาริโอ เกิทเซ่, ราฟาแอล เกร์เรยโร่ และ อันเดร เชือร์เล่ ประคองอยู่ข้างหลัง ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมย็อง

        ด้าน ซีเนดีน ซีดาน เทรนเนอร์ "ราชันชุดขาว" ออกสตาร์ทป้องกันแชมป์ด้วยการแซงชนะ สปอร์ติ้ง ลิสบอน แบบหืดจับ 2-1 ขณะที่ในลีกเริ่มสะดุด เสมอมา 2 นัดติดแล้ว ล่าสุดโดน ลาส ปัลมาส ตามเจ๊า 2-2

        เกมนี้ต้องปราศจาก มาร์เซโล่ กับ กาเซมิโร่ ที่มีอาการบาดเจ็บ แต่ได้ เกย์ลอร์ นาวาส และ เปเป้ ฟิตกลับมา โดยตำแหน่งแบ็กซ้ายน่าจะขยับ ดานีโล่ มาเล่นแทน หลัง นาโช่ เฟร์นานเดซ ยังผลงานไม่เข้าตา

        การจัดทัพให้ เกย์ลอร์ นาวาส รับหน้าที่เฝ้าเสา แนวรับ เปเป้ จับคู่เซนเตอร์ฮาล์ฟกับ เซร์คิโอ รามอส ขนาบข้างด้วย ดาเนียล การ์บาฆาล และ ดานีโล่

        โทนี่ โครส ประคองแดนกลางกับ ลูก้า โมดริช และ ฮาเมส โรดริเกซ แนวรุก คาริม เบนเซม่า เป็นหน้าเป้า พร้อมมี แกเร็ธ เบล กับ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ คอยช่วยริมเส้น

รายชื่อนักเตะที่คาดว่าจะลงสนาม

        ดอร์ทมุนด์ : โรมัน บูร์กี้ - ลูคัสซ์ พิซเซ็ค, โซคราติส ปาปาสธาโธปูลอส, มัทธีอัส กินเทอร์, มาร์เซล ชเมลเซอร์ - ยูเลี่ยน ไวเกิ้ล - อุสมาน เดมเบเล่, มาริโอ เกิทเซ่, ราฟาแอล เกร์เรยโร่, อันเดร เชือร์เล่ - ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมย็อง

        เรอัล มาดริด : เกย์ลอร์ นาวาส - ดาเนียล การ์บาฆาล, เปเป้, เซร์คิโอ รามอส, ดานีโล่ - ลูก้า โมดริช, โทนี่ โครส, ฮาเมส โรดริเกซ - แกเร็ธ เบล, คาริม เบนเซม่า, คริสเตียโน่ โรนัลโด้

        ผู้ตัดสิน : มาร์ค แคล็ตเท่นเบิร์ก (อังกฤษ)

ข้อมูลเพิ่มเติมที่น่าสนใจ
- ดอร์ทมุนด์และเรอัล มาดริด เจอกันเป็นครั้งที่ 7 จาก 5 ฤดูกาลหลังสุดในชปล. (รอบแบ่งกลุ่ม 2 นัด, รอบรองฯ 2 นัด, รอบก่อนรองฯ 2 นัด)
- เรอัล มาดริด ไม่ชนะใน 5 เกมที่เยือนดอร์ทมุนด์ ซึ่งทั้งหมดเป็นเกมชปล. (เสมอ 2 แพ้ 3) โดยในบรรดาคู่แข่งในยุโรปทั้งหมด มีเพียงการเยือนเอซี มิลาน และอินเตอร์ มิลาน ที่เรอัล มาดริด ไม่ชนะมากกว่าที่นี่ (ทีมละ 7 ครั้ง)
- เรอัล มาดริด แพ้รวด 3 เกมหลังที่เยือนดอร์ทมุนด์ในชปล. เป็นการแพ้ติดต่อกันนานที่สุดต่อคู่แข่งทีมเดิมในรายการนี้ของพวกเขา
- 6 ประตูหลังสุดของดอร์ทมุนด์ในเกมกับเรอัล มาดริด ได้จาก โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ (4 ลูกเมื่อ 24 เมษายน 2013) และ มาร์โค รอยส์ (2 ลูกเมื่อ 8 เมษายน 2014) โดยทั้งหมดเกิดขึ้นที่ซิกนัล อิดูน่า พาร์ค
- ดอร์ทมุนด์ชนะรวด 4 เกมหลังที่เปิดบ้านพบคู่แข่งจากสเปนในถ้วยยุโรป โดยยิงอย่างน้อยนัดละ 2 ประตู
- ดอร์ทมุนด์ชนะ 7 จาก 9 เกมหลังในรอบแบ่งกลุ่ม ชปล. (เสมอ 1 แพ้ 1) โดยยิงไม่ได้แค่นัดเดียว (0-2 ต่ออาร์เซน่อล เมื่อพฤศจิกายน 2013)
- เรอัล มาดริด แพ้แค่ครั้งเดียวในชปล. นับตั้งแต่เริ่มต้นฤดูกาลที่แล้ว (ชนะ 10 เสมอ 3) อย่างไรก็ตาม ความพ่ายแพ้ดังกล่าวเกิดขึ้นที่เยอรมัน (0-2 ต่อโวล์ฟสบวร์ก เมื่อเมษายน 2016)
- เรอัล มาดริด ไม่แพ้ใน 22 เกมรอบแบ่งกลุ่ม ชปล. (ชนะ 18 เสมอ 4) แต่หนล่าสุดที่แพ้ในรอบนี้ เป็นเกมกับดอร์ทมุนด์ เมื่อตุลาคม 2012
- "ราชันชุดขาว" ชนะ 3 จาก 5 เกมหลังสุดที่เยือนแดนเยอรมัน ถ้วยชปล. (แพ้ 2) หลังชนะแค่ครั้งเดียวใน 15 เกมก่อนหน้านั้น (เสมอ 4 แพ้ 10)
- ดอร์ทมุนด์ชนะมากที่สุดในสถิติชปล.ของตัวเอง จากนัดแรกที่พบลีเกีย วอร์ซอว์ (6-0) ซึ่งเป็นครั้งแรกที่พวกเขาทำได้ 6 ประตูในรายการนี้
- คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ทำประตูจากฟรีคิก 2 ลูกใน 4 เกมชปล.หลังสุดของตัวเอง เท่ากับที่ทำได้ใน 46 เกมที่ลงสนามในรายการนี้
- เรอัล มาดริด แพ้แค่ครั้งเดียวจาก 31 เกมชปล.หลังสุดที่เบร์นาเบว โดยชนะ 27 เสมอ 3 อย่างไรก็ตาม ความพ่ายแพ้ดังกล่าวเป็นการเจอคู่แข่งจากเยอรมัน (3-4 ต่อชาลเก้ เมื่อมีนาคม 2015)

โปรแกรมฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก
กลุ่ม E
  01:45 น.      โมนาโก Vs เลเวอร์คูเซ่น            รับชม : beIN Sports 4 (679)
  01:45 น.      ซีเอสเคเอ มอสโก Vs สเปอร์ส            รับชม : beIN Sports 2 (677)

กลุ่ม F
  01:45 น.      สปอร์ติ้ง ลิสบอน Vs ลีเกีย วอร์ซอว์            
  01:45 น.      ดอร์ทมุนด์ Vs เรอัล มาดริด            รับชม : beIN Sports 3 (678)

กลุ่ม G
  01:45 น.      เอฟซี โคเปนเฮเก้น Vs คลับ บรูช            
  01:45 น.      เลสเตอร์ Vs ปอร์โต้            รับชม : beIN Sports 1 (676)

กลุ่ม H
  01:45 น.      เซบีย่า Vs โอลิมปิก ลียง            
  01:45 น.      ดินาโม ซาเกร็บ Vs ยูเวนตุส