จบแม็ตช์นี้จะมีอะไรน่าสนใจให้พูดถึงบ้าง มาติดตาม 5 ประเด็นร้อนๆจากศึกสองหงส์กัน...

......................................................

1. ลิเวอร์พูลมีความฟิตเหลือเชื่อ

        จุดแตกต่างที่สำคัญในเกมนี้ ระหว่างลิเวอร์พูล กับสวอนซี คือระดับความฟิตของนักเตะที่แตกต่างกัน

        นักเตะลิเวอร์พูล ในครึ่งหลังมีการเล่นเกมเพรสซิ่งบีบเอาบอลอย่างรวดเร็ว จนสวอนซีขึ้นเกมไม่ได้เลย และโดนพับสนามข้างเดียว ยิ่งเวลาผ่านไปนักเตะสวอนซีก็มีร่างกายอ่อนล้าลงเรื่อยๆ และสุดท้ายก็โดนเจาะจนได้

        ทีมหงส์แดง ได้เปรียบกลุ่มทีมลุ้นแชมป์ทีมอื่นๆ คือไม่มีโปรแกรมยุโรปกลางสัปดาห์ ทำให้เจอร์เก้น คล็อปป์สามารถส่งนักเตะชุดดีที่สุดของตัวเองออกมาได้ในทุกๆเกม อย่างไรก็ตาม ต้องชมพลังความฟิตของนักเตะหงส์แดงที่ วิ่งได้ไม่มีหมด และเล่นเกมเพรสซิ่งกดดันคู่แข่งได้อย่างไร้ที่ติ โดยเฉพาะครึ่งหลัง

2. แดเนียล สเตอร์ริดจ์ ยังไม่ใช่คนเดิม

        แดเนียล สเตอร์ริดจ์ ในจุดพีคของเขาคือ ฤดูกาล 2013-14 ที่ทำอะไรก็ดีไปหมด ทั้งยิงประตู แอสซิสต์ได้อย่างมากมาย

        แต่ในฤดูกาลนี้ รวมถึงแมตช์นี้ สิ่งที่เห็น คือทักษะยังมี ความเร็วยังอยู่ แต่สิ่งที่หายไปคือการตัดสินใจ หลายครั้งที่สเตอร์ริดจ์ คิด และเลือกจังหวะผิดพลาด  เช่น จ่ายบอลผิดช่อง จับบอลยาว หรือไม่ก็เปิดบอลโด่ง แทนที่จะส่งเรียด

        ดังนั้นไม่แปลกใจที่ คล็อปป์ ยังเลือกใช้งานโรเบร์โต้ ฟีร์มีโน่ ในบทบาทกองหน้าตัวเป้าต่อไปก่อน จนกว่าสเตอร์ริดจ์ จะดึงเอาสิ่งที่เขาเคยมีออกมาได้ จนถึงวันนั้น ก็ต้องรอบนม้านั่งสำรองอีกสักระยะ

3. ลิเวอร์พูลมีอาวุธครบ

        ทีมหงส์แดง พัฒนาเป็นทีมที่เล่นเกมรุกอย่างเต็มตัว  มิดฟิลด์ตัวรุกมีฝีเท้าระดับต้นๆของลีกอยู่แล้ว ทั้งคูตินโญ่ , มาเน่ และ ลัลลาน่า (ที่เจ็บไป)

        กองหน้ามีพื้นฐานที่เก่ง สเตอร์ริดจ์ หรือฟีร์มีโน่ แม้กระทั่งสำรองดิว็อก โอริกี้ ก็มีความสามารถเฉพาะตัวที่ดี  ส่วนแบ็กซ้าย มิลเนอร์ แบ็กขวาไคลน์ เติมเกมตะลุยไม่มีหยุด แม้กระทั่งโจเอล มาติป ซึ่งเป็นเซ็นเตอร์ ก็ยังมีส่วนร่วมในเกมรุกได้

        เกมรุกแข็งแกร่ง ไม่เป็นอันดับหนึ่ง ก็อันดับสองในลีก เหลือก็แค่เกมรับเท่านั้น ที่พวกเขาต้องปรับแก้ไขอยู่ เพราะจนถึงวันนี้ ทีมหงส์แดงเสียประตูทุกนัด

4. คาริอุสยังต้องพิสูจน์ตัว

        ลอริส คาริอุส เล่นไม่ดีนัก ในเกมที่ลิเบอร์ตี้ สเตเดี้ยม เขามีจ่ายบอลเสียสองครั้ง รวมถึงจังหวะสุดท้ายช่วงทดเจ็บ ก็ไม่ออกมาเอาบอล ดีที่นักเตะสวอนซี ยิงหลุดกรอบไปเอง ไม่งั้นก็เสมอไปแล้ว

        ในภาพรวม เขาไม่ได้โดดเด่นเลย จังหวะเซฟจะจะ อาจมีแค่ฟรีคิกของกิลฟี่ ซิกูร์ดสัน ทีเดียวเท่านั้น คือผ่านมาในพรีเมียร์ลีก 2 เกม เรายังไม่ได้เห็นช็อตซูเปอร์เซฟของคาริอุส

        ซิมง มิโญเล่ต์ โดนวิจารณ์หนักไปแล้วคนหนึ่ง ถ้าหากคาริอุส เล่นผิดพลาดออกทะเล ก็แน่นอน ว่าจะโดนโจมตีหนัก ตามมิโญเล่ตไปอย่างแน่นอน

5. อำลากุยโดลิน

        สื่ออังกฤษฟันธงว่า นี่จะเป็นเกมสุดท้ายของฟรานเชสโก้ กุยโดลินในการคุมทีมสวอนซี

        ผลงาน 7 เกมแรกก็ชัดเจนอยู่แล้ว ทีมหงส์ขาวเก็บได้แค่ 4 แต้มเท่านั้น ซึ่งถ้าปล่อยให้สถานการณ์เป็นแบบนี้ต่อไป ทีมตกชั้นแน่นอน

        ไม่ใช่แค่ผลการแข่งขัน แต่สวอนซี ในยุคนี้ ก็ไม่ได้มีทรงบอลดีด้วย แพ้คู่แข่งง่ายๆ ดูอย่างในเกมกับลิเวอร์พูล ในครึ่งหลังทีมเล่นไม่มีทรงเลยสักนิดเดียว เชื่อว่า อีกไม่กี่วันต่อจากนี้ เขาจะเป็นอดีตกับทีมหงส์ขาว และเรามารอดูกันว่า จะมีการแต่งตั้งใครเป็นผู้จัดการทีมคนต่อไป