ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ

วันเสาร์ที่ 29 ตุลาคม 2559

ซันเดอร์แลนด์ 1-4 อาร์เซน่อล

สนาม : สเตเดี้ยม ออฟ ไลท์

         คู่เร็วพรีเมียร์ลีกวันเสาร์ อาร์เซน่อล ที่นัดก่อนสะดุดเสมอ มิดเดิ้ลสโบรช์ 0-0 บุกมาเยือน ซันเดอร์แลนด์ โดย อาร์แซน เวนเกอร์ แทบไม่ปรับทัพจากทีมเดิมๆ เมื่อ กรานิต ชาก้า ยังติดแบนและ ธีโอ วัลค็อตต์ ไม่ฟิต เกมรุกวาง อเล็กซิส ซานเชซ หน้าเป้าเช่นเดิม

         ฝั่งทีมบ๊วย ซันเดอร์แลนด์ ที่ยังคงชนะไม่เป็น ก็มาทีมหน้าเดิมเหมือนกันเมื่อ เดวิด มอยส์ มีตัวเจ็บเกือบครึ่งทีม อัดนาน ยานาไซ หายเจ็บมาแต่ก็เป็นแค่สำรอง ข้างหน้าวาง เจอร์เมน เดโฟ ค้ำหอก

         เปิดเกมมาไม่ครบนาที ซันเดอร์แลนด์ ทำเสียวแต่เนิ่นๆ หน้าประตูตัวเอง กับบอลคืนหลัง จอร์แดน พิคฟอร์ด เตะสาดเปิดเกมชนตัว อเล็กซิส ซานเชซ ออกหลัง

         ถัดมานาทีที่ 4 อาร์เซน่อล ได้จบหนแรก บอลเปิดจากขวามาเสาสอง อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน โหนโหม่งโดนไม่ดีนักแต่บอลก็ย้อยจะเสียบใต้คาน จอร์แดน พิคฟอร์ด ต้องปัดทิ้งเอาชัวร์ไว้ก่อน

         อาร์เซน่อล เดินเกมเข้าใส่ฝ่ายเดียวตามถนัด นาที 13 เป็นโอกาสอีกครั้ง เมซุต โอซิล ทะลุเข้าเขตโทษฝั่งขวาและพยายามแปเปิดหน้าเท้าซ้าย บอลเบาเข้ามือ พิคฟอร์ด

         ซันเดอร์แลนด์ ต้องถอยร่นตั้งรับเต็มพิกัดตั้งแต่ต้นเกม กระนั้น นาที 18 ก็เสียประตูแรกอย่างรวดเร็ว จังหวะบอลขึ้นทางขวา อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน กระชากพรวดหนีตัวประกบขึ้นริมเส้นแล้วสาดแรงเข้าใน อเล็กซิส ซานเชซ โฉบเข้าโหม่งตัดหน้า ลามีน โคเน่ เสียบตาข่าย อาร์เซน่อล นำ 1-0

         เขี่ยบอลกันใหม่ ซันเดอร์แลนด์ ถึงจะได้ทำเกมรุกขึ้นไปบ้าง และไปได้ฟรีคิกระยะอันตรายเยื้องขวา แต่ พาทริค ฟาน อานโฮลท์ ก็ปั่นโค้งออกข้างเสาไปไม่ได้ลุ้น

         นาที 23 ซันเดอร์แลนด์ต่อเกมขึ้นไปได้สวยและส่งบอลเข้าประตูสำเร็จ จังหวะยิงไกลบอลทะลักมาถึง เจอร์เมน เดโฟ ปาดต่อให้ วาห์บี คาซรี่ ชาร์จเข้าไป ทว่าผู้กำกับเส้นก็ยกธงเป็นล้ำหน้าไปแล้ว

         ถึงครึ่งชั่วโมง อาร์เซน่อล ได้ฟรีคิกระยะหวังผลบ้างเมื่อ คาซรี่ ถอยลงมาตัดเกม โอซิล อย่างโฉ่งฉ่างจนโดนใบเหลือง กระนั้น อเล็กซิส ก็อัดข้ามคานไปง่ายๆ

         แม้เจ้าบ้านจะยังพอสร้างเกมขึ้นไปได้บ้าง แต่หมัดของ อาร์เซน่อล ก็หนักกว่ากันเยอะ นาที 38 เมซุต โอซิล สบโอกาสทะลุขึ้นหน้าพยายามยิงกระดกข้าม จอร์แดน พิคฟอร์ด แต่นายด่านแมวดำยังยืดตัวตะปบไว้ได้อยู่

         ท้ายครึ่งแรกนาที 41 มอยส์ต้องส่งสำรองลงคนแรกแล้วเมื่อ จอห์น โอเช บาดเจ็บกำเริบ ต้องให้ ปาปี้ ชิโลโบชี ลงไปแทน กระนั้น อาร์เซน่อล ก็ยังเจาะตาข่ายเพิ่มไม่ได้ จบครึ่งแรกไปนำแค่ 1-0

         ลงครึ่งหลัง เจ้าถิ่นปรับเกมมาสู้ได้ดี กดดันทัพปืนใหญ่ได้ตลอดช่วงต้น แต่ก็สร้างโอกาสจะแจ้งไม่ได้ จนนาทีที่ 59 เป็นจังหวะจบของอาร์เซน่อล อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน กระชากพรวดขึ้นเดี่ยวทางขวาแล้วตัดสินใจยิงหักข้อ แต่บอลเลยหลุดกรอบไปอย่างน่าผิดหวัง

         นาที 64 แฟนทีมเยือนพยายามร้องเอาจุดโทษ อเล็กซิส ซานเชซ ลุยเข้าเขตโทษไปโดน ปาปี้ ชิโลโบชี ชนล้ม แต่ผู้ตัดสิน มาร์ติน แอ็ตกินสัน ยังเฉย

         แต่แล้วกลายเป็น ซันเดอร์แลนด์ ที่มาได้จุดโทษเสียเฉยๆ ในนาทีเดียวถัดมา ดันแคน วัตมอร์ ได้ลูกหลุดเดี่ยวตรงกลางเข้าไปล็อกหลบ ปีเตอร์ เช็ก แล้วโดนรวบล้ม ผู้ตัดสินชี้ทันทีและให้ใบเหลืองกับนายด่านปืนโต ก่อนที่ เจอร์เมน เดโฟ จะรับหน้าที่สังหารเข้าประตูไปนิ่มๆ ซันเดอร์แลนด์ ตีเสมอ 1-1

         โดนตีเจ๊าเข้าไป เวนเกอร์ อยู่เฉยไม่ได้ จัดการส่ง โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ ลงมาเพิ่มจำนวนกองหน้าแทนที่ อเล็กซ์ อิโวบี้ นาที 69 ขณะเดียวกัน มอยส์ ก็ส่ง อัดนาน ยานาไซ ลงแทน สตีเว่น พีนาร์

         และเพียงการโดนบอลครั้งแรกของ โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ ก็กลายเป็นประตู 2-1 ของอาร์เซน่อลทันที อเล็กซิส ลุยขึ้นตรงกลางก่อนปาดออกซ้าย คีแรน กิ๊บบ์ส ครอสเข้าในมาถึง ชิรูด์ ตวัดวอลเลย์ไม่จับผ่าน พิคฟอร์ด เข้าไปอย่างเฉียบคม ทีมเยือนนำอีกครั้งในนาที 71

         ไม่เท่านั้น นาที 76 อาร์เซน่อลก็หนีไปเป็น 3-1 จากการสัมผัสบอลอีกครั้งของ ชิรูด์ คราวนี้เป็นเตะมุมที่ โอซิล หยอดมาเสาแรก หอกฝรั่งเศสลอยตัวเข้าโขกเช็ดให้ลูกบอลลอยย้อยข้ามมือ พิคฟอร์ด เข้าไปอย่างสวยงามอีกลูก

         อาร์เซน่อล บุกอย่างได้ใจและก็ทะยานทิ้ง 4-1 ในเพียง 2 นาทีให้หลัง คีแรน กิ๊บบ์ส ดันขึ้นซัดชนเสา ลูกยังเด้งมาเข้าทาง อเล็กซิส โยกหนี ชิโลโบชี ไปจิ้มลูกผ่าน พิคฟอร์ด เข้าประตูอย่างเหนือชั้นเป็นลูกที่ 2 ของตัวเองในเกม ซึ่งประตูนี้ทำให้แฟนเจ้าบ้านกลุ่มใหญ่ทยอยกันเดินออกจากสนามแล้ว

         หลังสกอร์ฉีกขาด อาร์เซน่อล ก็ลดความเร็วของเกมลง ถอยไปตั้งรับแน่นบางจังหวะและตรึงสกอร์จนกระทั่งเกมจบลง ชนะ ซันเดอร์แลนด์ สบาย 4-1 ขึ้นไปนั่งแท่นจ่าฝูงชั่วคราว

 รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

 ซันเดอร์แลนด์ : จอร์แดน พิคฟอร์ด, บิลลี่ โจนส์, ลามีน โคเน่, จอห์น โอเช (ปาปี้ ฌิโลโบฌิ น.41), แพทริค ฟาน อานโฮลท์, วาห์บี้ คาซรี่, แจ็ค ร็อดเวลล์, ดิดิเย่ร์ เอ็นดอง, สตีเว่น พีนาร์ (อัดนาน ยานาไซ น.69), ดันแคน วัตมอร์ ( ลีนเดน กูช น.83), เจอร์เมน เดโฟ

 ตัวสำรอง : ไมเคิ่ล มิก้า, ฆาเบียร์ มานกิโญ่, โดนัลด์ เลิฟ, วิคเตอร์ อนิเชเบ้
 
 อาร์เซน่อล : ปีเตอร์ เช็ก, เอคตอร์ เบเยริน, ชโคดราน มุสตาฟี่, โลร็องต์ กอสซิแอลนี่, คีแรน กิ๊บบ์ส, โมฮาเหม็ด เอลเนนี่, ฟร็องซิส โกเกอแล็ง (ไอนสลี่ย์ เมตแลนด์-ไนล์ส น.88), อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด แชมเบอร์เลน (แอรอน แรมซี่ย์ น.76), เมซุต โอซิล, อเล็กซ์ อิโวบี้ (โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ น.68), อเล็กซิส ซานเชซ

 ตัวสำรอง : กาเบรียล เปาลิสต้า, ดาวิด ออสปิน่า, ร็อบ โฮลดิ้ง, คาร์ล เจนกินสัน

 
 ผู้ตัดสิน : มาร์ติน แอตกินสัน