"ซิโก้" เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง เฮดโค้ชทีมชาติไทย มั่นใจว่า "ธนา-ธนบูรณ์" 2 แข้งที่ได้รับบาดเจ็บจะหายกลับมาทัน รวมทั้งเผยถึงแข้งไทยที่เวลานี้มูลค่าสูงมาก เนื่องจากการมีวินัยและใส่ใจในการฝึกซ้อม ตลอดจนทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในนามสโมสรกับทีมชาติไทย ด้าน "บิ๊กอ๊อด" พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ประมุขบอลไทยเข้าให้กำลังใจพ่อค้าแข้ง พร้อมเชื่อว่าจะนำความสุขกลับคืนมาให้กับแฟนบอล แทนที่ความโศกเศร้าที่เกิดขึ้นอยู่ในปัจจุบัน ตลอดจนชมแคมป์ กิเลน วัลเลย์ ที่เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการมาเก็บตัว

ความเคลื่อนไหวของทีมชาติไทยชุดใหญ่ ภายใต้การคุมทัพของ "ซิโก้" เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง ซึ่งเตรียมที่จะลงทำภารกิจ 2 รายการใหญ่อย่าง ฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบ 12 ทีมสุดท้าย กลุ่ม บี พบ ออสเตรเลีย วันที่ 15 พ.ย. 59 และ เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2016 ระหว่างวันที่ 19 พ.ย.- 17 ธ.ค. นี้
       
ในเวลา 15.50 น. "บิ๊กอ๊อด" พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ได้เดินทางมาเยี่ยมชมแคมป์เก็บตัวของทีมชาติไทย ที่มาพักอยู่ ณ กิเลน วัลเลย์ โดยได้เริ่มสำรวจตั้งแต่ห้องนอนของนักเตะทุกคน ว่ามีความเป็นอยู่อย่างไร
 
จากนั้นได้เข้าไปเยี่ยมชมห้องครัว ซึ่งเจ้าตัวเคยเอ่ยปากชมเรื่องของโภชนาการ ที่สามารถนำอาหารครบทั้ง 5 หมู่ มาให้กับนักเตะได้รับประทานกันทุกมื้อ ก่อนที่จะขึ้นไปดูห้องฟิตเนส ต่อด้วยคอร์ตแบตฯ ที่ "น้องเมย์" รัชนก อินทนนท์ นักตบลูกขนไก่สาวขวัญใจชาวไทย เคยมาฝึกซ้อม
 
ก่อนที่จะลงมาดูสระว่ายน้ำ และไปชมห้องบ่อน้ำร้อน-น้ำเย็น โดยน้ำร้อนมีอุณภูมิ 40 องศาเซลเซียส ส่วนน้ำเย็นมีอุณภูมิ 13-14 องศาเซลเซียส จากนั้นได้ลงไปให้โอวาทนักเตะทีมชาติไทย ชุดใหญ่ ทุกคนถึงสนามซ้อม โดยที่นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ได้เผยว่า
 
ตนต้องขอขอบคุณ คุณระวิ โหลทอง ที่ให้ทีมชาติไทย ได้เดินทางมาเก็บตัวยัง กิเลน วัลเลย์ ซึ่งมีความพร้อมในทุกด้าน อีกทั้งบรรยากาศที่นี่เงียบสงบทำให้นักเตะมีสมาธิ ซึ่งตนคิดว่าในอนาคตเหมาะที่จะเป็นที่เก็บตัวของทีมชาติไทย ในหลายรุ่นแน่นอน
               
เวลา 16.00 น. "ซิโก้" เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง กุนซือทีมชาติไทย ชุดใหญ่ได้นำลูกทีมลงฝึกซ้อม โดยมี "บิ๊กอ๊อด" พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ร่วมชมด้วย ซึ่งทัพ "ช้างศึก" ได้เริ่มจากการวิ่งวอร์ม ก่อนที่จะมาแปบอลจังหวะเดียว จากนั้นเล่นสมอลไซส์เกม ปิดท้ายด้วยการยิงประตู ทว่า ธนา ชะนะบุตร กับ ธนบูรณ์ เกษารัตน์ ที่มีอาการบาดเจ็บได้ทำการแยกซ้อม โดยใช้เวลาเกือบ 1 ชั่วโมงครึ่ง
  
หลังเสร็จสิ้นการฝึกซ้อมนายใหญ่ "ช้างศึก" บอกว่า "พละกำลังของนักเตะในเวลานี้อยู่ที่ 80 เปอร์เซ็นต์แล้ว เพราะเราซ้อมกันมา 7 มื้อแล้ว และในวันที่ 3 พ.ย. นี้ เราจะปล่อยให้พัก 1 วัน ก่อนที่จะเริ่มกลับมาซ้อมอีกครั้งในวันที่ 4 พ.ย. เพื่อทบทวนแท็กติกวิธีการเล่น ฉะนั้น 28 คนทั้งหมดที่เป็นทั้งหน้าเก่าและใหม่ เราจะพยายามลองระบบให้กับทุกคน"

พร้อมกันนี้เจ้าตัวยังได้พูดถึงการแยกซ้อมของ ธนา ชะนะบุตร กับ ธนบูรณ์ เกษารัตน์ ว่า "จริงๆ แล้วทั้งสองคนดีขึ้นทุกวัน ซึ่งเขาเองอยากจะกลับมาซ้อม แต่เราสั่งระงับไว้เนื่องจากต้องหายเจ็บ 100 เปอร์เซ็นต์เสียก่อน หากไม่หายขาดอาจจะเจ็บซ้ำได้"

ไม่สนใจ "เคฮิลล์" ต้องโฟกัสแข้งอื่นจิงโจ้

ต่อข้อซักถามของผู้สื่อข่าวที่ว่า การไม่มี ทิม เคฮิลล์ กองกลางจอมเก๋าในทีมชาติออสเตรเลีย ที่เพิ่งจะประกาศรายชื่อมา 23 คนสุดท้าย "การไม่มี ทิม เคฮิลล์ นั้นผมคิดว่าที่ผ่านมาเหมือนกับสมาคมฟุตบอลออสเตรเลียที่เขาให้เกียรติ แม้ว่าประสบการณ์ของเขาจะมีมากพอสมควร แต่น้องๆ ในทีมต่างไปค้าแข้งยังต่างประเทศกันหมดแล้ว อีกทั้งการที่เขาบาดเจ็บจึงโดนถอนออกไป"
 
"นอกจากนี้ผมยังมองว่าผู้เล่นรายอื่นยังจะน่ากลัวกว่าด้วยซ้ำไป ผมจึงคิดว่าเราต้องดูผู้เล่นที่มาจากการค้าแข้งยุโรปให้ดี เพราะของพวกเขามีทั้งหมด 15-16 คน เพราะเขาเองสามารถจะจัดใครลงสนามก็ได้ ทำให้เราเองจะต้องมีความฟิตให้มากที่สุด เนื่องจาก 90 นาทีของเราต้องไม่แผ่ว เราเล่นต่อหน้าแฟนบอลในบ้าน เกมรับจะต้องเหนียวแน่นไม่เสีบประตูเร็วเหมือนที่ผ่านมา"

"พอเสียประตูเร็วในหลายเกมที่ผ่านมา เราจึงไม่สามารถเดินเกมของเราได้ ฉะนั้นคงจะขึ้นอยู่กับนักเตะในเกมรับจะต้องเหนียวแน่นกว่าเดิม"

เผยเคล็ดลับแข้งมูลค่าสูง

พร้อมกันนี้ "ซิโก้" เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง เฮดโค้ชทีมชาติไทย ยังได้พูดถึงการที่นักเตะมีมูลค่าสูงในปัจจุบันลูกหนังไทยว่า "ผมคุยกับน้องๆ ตลอดเวลาว่า เมื่อไรที่คุณมาติดทีมชาติไทย มูลค่าในตัวเองจะเกิดขึ้น แต่ถ้ายังเล่นในสโมสรอย่างเดียว การย้ายคงไม่เกิน 1-2 ล้านบาท และวันนี้ทุกคนแสดงให้เห็นผลงานที่ดีในทีมชาติ ที่มูลค่า 30-50 ล้านบาท ไม่ว่าจะเป็น ธีราทร บุญมาทัน, ธีรศิลป์ แดงดา, กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ ที่ทำให้ค่าตัวสูงขึ้น"
 
"จึงเป็นโอกาสดีสำหรับคนที่เข้ามาติดทีมชาติ จะต้องเร่งผลงานพร้อมกับพิสูจน์ตัวเอง จึงเป็นช่วงนาทีทองของนักฟุตบอลไม่ใช่เล่นเพื่อทำตามหน้าที่ หากเล่นในสโมสรดี ทีมชาติก็เรียกตัวเข้ามา ถ้าทีมชาติเล่นดี แฟนบอลก็ติดใจ เมื่อไปที่ไหนทุกคนก็พร้อมจะต้อนรับ"
 
"แต่ถ้าเมื่อไรทำไม่ได้คงจะไม่มีที่ไหนต้อนรับ จึงอยากจะฝากน้องๆ ทุกคนว่า ให้ดูนักเตะที่มีค่าตัวสูงๆ เป็นแบบอย่าง พวกเขาไม่ได้เก่งมาแต่เกิด ทว่ามีวินัยที่ดีมาก จะต้องรักในหน้าที่ในการเป็นนักฟุตบอลที่ดีอีกด้วย และการมีค่าตัวสูงความคาดวังย่อมสูงตาม ไม่มีใครที่จะจ้างเพื่อเอาไปนั่ง เมื่อเขาซื้อมาแพงย่อมต้องการผลงานที่ดี จึงจะเป็นความกดดันอย่างต่อเนื่อง ถ้ามีวินัย ทุ่มเท จึงจะคุ้มค่าที่เจ้าของลงทุนไป"