"สิงโตคำราม" ของกุนซือขัดตาทัพ แกเร็ธ เซาธ์เกต หลังผ่านมา 2 นัดถือว่าผลงานพอใช้แม้จะยังไม่แพ้แต่ฟอร์มยังไม่เข้าตา ทว่าต้องขาดทีเด็ดแนวรุกอย่าง เดเล่ อัลลี่ ที่เจ็บก่อนหน้านี้ โดยเตรียมจัดทัพ ส่ง แฮร์รี่ เคน ลงดวล สกอตแลนด์ ในศึกฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก โซนยุโรป คืนวันศุกร์ที่ 11 พ.ย. นี้ เวลา : 2:45 เป็นต้นไป

ปรีวิวฟุตบอลโลก 2018
(รอบคัดเลือก โซนยุโรป กลุ่ม เอฟ)
วันศุกร์ที่ 11 พฤศจิกายน 2559
อังกฤษ - สกอตแลนด์

         สนาม : เวมบลีย์

          จ่าฝูงกลุ่ม เอฟ อังกฤษ ลงเตะมาแล้ว 3 นัดเท่ากันทุกทีม มี 7 คะแนน ยิงได้ 3 ประตู และยังไม่เสียเลย

          นัดแรก สิงโตคำราม บุกชนะ สโลวาเกีย 1-0 ในยุคของ แซม อัลลาร์ไดซ์ ก่อนโดนปลด และให้ แกเร็ธ เซาธ์เกต เข้ามาคุมชั่วคราวพาทีมลงเล่น 2 นัดเมื่อเดือนที่แล้ว เปิดบ้านชนะ มอลตา 2-0 และบุกเสมอ สโลวีเนีย 0-0

          เซาธ์เกต เรียกนักเตะมา 25 คนเตรียมทำศึก 2 นัด กับ สกอตแลนด์ และอีกนัดเป็นเกมอุ่นเครื่องกับ สเปน ที่สนาม เวมบลีย์ เช่นกัน

          ล่าสุด เฟรเซอร์ ฟอร์สเตอร์ กับ แดนนี่ ดริงค์วอเตอร์ ถอนตัวเพราะไม่ฟิต ก่อนเรียก จอร์แดน พิคฟอร์ด นายทวารจากชุดยู-21 กับ อารอน เครสเวลล์ เข้ามาติดทีมแทน

          ทีมชุดนี้ไม่มีชื่อ เดเล่ อัลลี่ ที่บาดเจ็บอยู่ก่อน เช่นเดียวกับ คริส สมอลลิ่ง, ลุค ชอว์, เกล็น จอห์นสัน ขณะที่ อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน, มิคาอิล อันโตนิโอ, คีแรน กิ๊บบ์ส หลุดโผจากทีม

          ขณะเดียวกัน เซาธ์เกต เรียกตัว แฮร์รี่ เคน, ราฮีม สเตอร์ลิง, แจ๊ค วิลเชียร์, ฟิล จากีลก้า, ไรอัน เบอร์ทรานด์ และ ทอม ฮีตัน กลับมาติดทีม หลังบาดเจ็บ (ไม่มีชื่อและถอนตัว) เมื่อเดือนก่อน

          จากการซ้อมเมื่อวันอังคาร มีนักเตะถึง 9 คนที่ไม่ได้ลงซ้อมในเซสชั่นหลัก ประกอบด้วย ไคล์ วอล์คเกอร์, แดนนี่ โรส, แฮร์รี่ เคน, เอริก ดายเออร์, แจ็ค วิลเชียร์, ฟิล จากีลก้า, ราฮีม สเตอร์ลิง, ธีโอ วัลค็อตต์ และ จอห์นสโตนส์ ทำให้ เซาธ์เกต ต้องรอเช็กความฟิตทุกรายอย่างละเอียด

          ในราย วัลค็อตต์ ไม่แน่ว่าจะมีชื่อหรือไม่ เพราะอาจต้องไปเฝ้าภรรยาที่ใกล้จะคลอดลูกในช่วงเวลานี้

          การจัดทัพ โจ ฮาร์ท พร้อมลงเฝ้าเสาต่อ แผงหลังน่าจะยึดชุดเดิมจากเกมล่าสุดกับ สโลวีเนีย มี ไคล์ วอล์คเกอร์, แกรี่ เคฮิลล์, จอห์น สโตนส์ และ แดนนี่ โรส

          ตรงกลาง จอร์แดน เฮนเดอร์สัน คุมเกมกับ เอริก ดายเออร์ แนวรุก เวย์น รูนี่ย์ จะกลับมาสวมปลอกแขนกัปตัน ประสานงาน ธีโอ วัลค็อตต์, อดัม ลัลลาน่า และหน้าเป้า แฮร์รี่ เคน

          ด้าน สกอตแลนด์ ของกุนซือ กอร์ดอน สตรัคคั่น ลงเตะ 3 นัดแรก ไม่ค่อยดีนัก หลังบุกชนะ มอลตา 5-1 จากนั้นทำได้แค่เปิดบ้านเสมอ ลิทัวเนีย 1-1 และบุกแพ้ สโลวาเกีย 0-3

          สตรัคคั่น เรียกนักเตะ 25 คนมาติดทีม โดยมีชื่อ สกอตต์ บราวน์ กองกลางตัวเก๋า กลับมาติดทีมอีกครั้ง หลังประกาศอำลาทีมชาติไปเมื่อ 3 เดือนที่แล้ว แต่เจ้าตัวกลับลำหันมารับใช้ทีมชาติอีกครั้งในสัปดาห์นี้ อย่างไรก็ตามมิดฟิลด์จาก เซลติก มีปัญหาบาดเจ็บที่ขา แต่คาดว่าน่าจะฟิตทันลงสนาม

          ขณะเดียวกัน ต้องเป็นห่วงเรื่องอาการบาดเจ็บของ สตีเว่น เฟล็ทเชอร์ กองหน้าร่างใหญ่ที่บาดเจ็บมาจากการเล่นให้ เชฟฟิลด์ เว้นส์เดย์ เมื่อวันเสาร์ และต้องรอทีมแพทย์ประเมินความฟิตก่อนเกม

          แนวรับ กอร์ดอน เกรียร์ เซนเตอร์ฮาล์ฟ แบล็คเบิร์น ก็บาดเจ็บ แม้ยังไม่ได้ถอนตัว แต่ สตรัคคั่น ตัดสินใจเรียก ชาร์ลี มัลกรูว์ เพื่อนร่วมสโมสร เข้ามาเพิ่ม

          ข่าวดีของทีมคือ โรเบิร์ต สน็อดกราสส์ มิดฟิลด์ตัวรุกคนสำคัญที่เพิ่งหายเจ็บข้อเท้ากลับมาช่วยต้นสังกัด ฮัลล์ ซิตี้ เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ ยืนยันฟิตสมบูรณ์พร้อมรับใช้ชาติแน่นอน

          การจัดทัพ เดวิด มาร์แชลล์ ลงเฝ้าเสา แผงหลังจากขวาไปซ้าย คัลลั่ม แพทเทอร์สัน, รัสเซลล์ มาร์ติน, แกรนท์ แฮนลี่ย์ และ ลี วัลเลซ

          แดนกลาง ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์ กัปตันทีม คุมเกมกับ เจมส์ แม็คอาร์เธอร์ แนวรุก อีเคชี่ อันย่า, โรเบิร์ต สน็อดกราสส์, แม็ตต์ ริทชี่ และหน้าเป้า คริส มาร์ติน

          รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม

          อังกฤษ : โจ ฮาร์ท, ไคล์ วอล์คเกอร์, แกรี่ เคฮิลล์, จอห์น สโตนส์, แดนนี่ โรส, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, เอริก ดายเออร์, ธีโอ วัลค็อตต์, เวย์น รูนี่ย์, อดัม ลัลลาน่า, แฮร์รี่ เคน

          สกอตแลนด์ : เดวิด มาร์แชลล์, คัลลั่ม แพทเทอร์สัน, รัสเซลล์ มาร์ติน, แกรนท์ แฮนลี่ย์, ลี วัลเลซ, ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์, เจมส์ แม็คอาร์เธอร์, อีเคชี่ อันย่า, โรเบิร์ต สน็อดกราสส์, แม็ตต์ ริทชี่, คริส มาร์ติน

          ผู้ตัดสิน : คูเนต ชาเคียร์ (ตุรกี)

         ข้อมูลที่น่าสนใจ
 
         - ครั้งสุดท้ายที่อังกฤษพบสกอตแลนด์ในการแข่งขันจริงต้องย้อนกลับปตอนเดือน พฤศจิกายน 1999 ที่เวมบลีย์ วันนั้นสกอตต์ชนะ 1-0 โดยได้ประตูจาก ดอน ฮัทชิสัน แต่ก็แพ้ในยูโร 2000 เพลย์ออฟ ด้วยสกอร์รวม 1-2

         - จากชัยชนะนัดนั้นถือเป็นครั้งเดียวที่สกอตแลนด์ชนะอังกฤษในรอบ 9 นัดหลังทีมชาติ (อังกฤษ ชนะ 7 เสมอ 1)

         - นี่ถือเป็นครั้งที่ 3 ที่ทั้งสองทีมพบกันในฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก โดยสกองหนก่อนหน้านั้นอังกฤษเป็นผู้ชนะ (1950 และ 1954)

         - เวย์น รูนี่ย์ ทำ 2 ประตู จากโอกาสยิง 3 ครั้งในเกมที่บุกชนะสกอตแลนด์ 3-1 เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2014 ณ สนามเซลติก พาร์ค

         - ทีมสิงโตคำรามเก็บคลีนชีตในสามเกมหลังรวดแต่ไม่เคยเก็บ 4 ครั้งติดได้นับแต่ตุลาคม 2015

         - 5 จาก 7 เกมทีมชาติที่ชนะของอังกฤษประตูเกิดในช่วงนาที 83 หรือหลังจากนั้น

         - อังกฤษยิงประตูไม่ได้ในเกมทีมชาตินัดหลังสุด (0-0 กับ สโลวีเนียป แต่พวกเขาไม่เคยยิงไม่ได้สองเกมติดนับแต่พฤศจิกายน 2013

         - อังกฤษไม่แพ้ใครในการคัดเลือก 32 นัดหลังสุด (ฟุตบอลโลก และ ยูโร) โดยเป็นการชนะ 24 และ เสมอ 8

         - 10 ประตูหลังสุดของอังกฤษในรอบคัดเลือกเกิดจากนักเตะไม่ซ้ำหน้า

         - สกอตแลนด์ชนะแค่ 2 จาก 8 เกมรอบคัดเลือก (ฟุตบอลโลก และ ยูโร) โดยสองหนที่ชนะคือชนะ ยิบรอลตาร์ กับ มอลต้า ที่เหลือเป็นการเสมอ 3 และ แพ้ 3

         - สกอตแลนด์ยิงนอกบ้านไม่ได้ 3 จาก 4 นัดหลังสุด

         - มีเพียงแค่เยอรมัน (71.9%) และ สเปน (71.8%) ที่มีค่าเฉลี่ยการครองบอลดีกว่าอังกฤษ (71.2%) ในการคัดเลือกบอลโลกโซนยุโรปคราวนี้

         - อังกฤษเป็นทีมอันดับ 2 ที่ผ่านบอลแม่นยำที่สุดในรอบคัดเลือก (89.1%) เป็นรองแค่เยอรมัน (89.6%) ทีมเดียว