ฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบสาม กลุ่ม บี      

วันอังคารที่ 15 พฤศจิกายน 2559

ไทย 2-2 ออสเตรเลีย

สนาม : ราชมังคลากีฬาสถาน

         11 ผู้เล่นที่ลงสนามของทีมชาติไทย ในเกมพบกับ ออสเตรเลีย กุนซือช้างศึก "ซิโก้" เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง เลือกที่จะปรับหมากมาเล่น 3-4-1-2 แทนที่ 4-3-3 เหมือน 4 เกมที่ผ่านมา โดยให้ กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ เฝ้าเสา กองหลัง 3 คน มี อดิศร พรหมรักษ์, ธนบูรณ์ เกษารัตน์ และ ประทุม ชูทอง

        วิงแบ็กซ้ายเป็นหน้าที่ “กัปตันอุ้ม”ธีราทร บุญมาทัน ฝั่งขวาใช้ ทริสตอง สมชาย โด มี สารัช อยู่เย็น กับ ปกเกล้า อนันต์ ยืนเป็นเกมรับ ปล่อยให้ “เมสซี่เจ”ชนาธิป สรงกระสินธ์ ปั้นเกมในตำแหน่งตัวรุก ขณะที่ ธีรศิลป์ แดงดา จับคู่กับ สิโรจน์ ฉัตรทอง ซึ่งถือเป็นการเป็นการออกสตาร์ทตัวจริงเกมแรกของหัวหอกร่างยักษ์ จากอุบล ยูเอ็มที ในศึกฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบ 12 ทีมสุดท้าย กลุ่ม บี อีกด้วย

        ด้าน ออสเตรเลีย ให้ ไมล์ เยดินัค กองกลางกัปตันทีมจากแอสตัน วิลลา นำทัพ ตลอดจน อารอน มัว มิดฟิลด์ฮัดเดอร์สฟิลด์ ทาวน์ ที่จะประสานงานในแดนกลางกับ ทอม โรจิช เพลเมกเกอร์ของ กลาสโกว์ เซลติก พ่วงด้วย เจมี แม็คลาเรน กองหน้าฟอร์มฮอตจาก บริสเบน รอว์ แนวรับมี เทรนต์ เซนส์บิวรี จากเจียงซู ซู่หนิง, แบร็ด สมิธ  แบ็กซ้ายของบอร์นมัธ และ แม็ทธิว สปิราโนวิช เซนเตอร์ฮาล์ฟหางโจว กรีนทาวน์

        เปิดฉากครึ่งแรกเพียงแค่ 17 วินาที แม็ทธิว เลกกี้ ได้หลุดไปในเขตโทษฝั่งขวา ก่อนที่จะยิงเลียดทักทายก่อน บอลยังไปติดเซฟ กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ น.5 ธนบูรณ์ เกษารัตน์ ล้มต้วสกัด เจมี แม็คลาเรน จังหวะพลิกบอล ส่งบอลไปโดนกองหน้าทีมเยือนหลุดออกหลังไป

         น.7 เจ้าบ้านเสียจุดโทษ จากจังหวะที่ แม็ทธิว เลกกี้ ยิงไปติดบล็อก ประทุม ชูทอง ที่กางมือออกมา ทำให้ ฟาฮัด จาเบอร์ อัล มารี ผู้ตัดสินชี้เป็นจุดโทษครั้งที่ 3 ให้กับ ออสเตรเลีย จากก่อนหน้านี้ที่เคยให้มาแล้ว 2 ครั้ง ในการเปิดบ้านถล่ม ทาจิกิสถาน 7-0 ของเกมฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบสอง กลุ่ม บี และเป็น ไมล์ เยดินัค ที่อาสายิงไม่พลาด ส่งให้ทัพ "จิงโจ้" ขึ้นนำ 1-0 แถม ประทุม ชูทอง ยังรับใบเหลืองไปด้วย

          น.12 ร็อบบี้ ครูส ได้โอกาสซัดในเขตโทษ บอลยังออกหลังไป น.13 มิลอส เดเกเนค ขึ้นโหม่งก่อนเอาแขนไปฟาด ธีราทร บุญมาทัน แต่กลับไม่มีใบเหลืองตามมา น.15 แม็ทธิว เลกกี้ ได้ซัดแต่บอลไปตรงตัว กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ น.18 ธีราทร บุญมาทัน เปิดฟรีคิกจากขวาเช้าไปในเขตโทษ แนวรับทีมเยือนโขกบอลทิ้งออกมา
                                                

         น.19 ทีมชาติไทย ได้เฮลั่น หลังจาก ชนาธิป สรงกระสินธ์ แทงบอลทะลุช่องออกไปทางขวาให้ ทริสตอง สมชทย โด ปาดบอลเลียดไปเสาแรกให้ ธีรศิลป์ แดงดา แตะบอลหนี แม็ธ ไรอัน แล้วซัดเน้นๆ ส่งผลให้ "ช้างศึก" ตีเสมอ 1-1 พร้อมกับเป็นเม็ดที่สองที่เจ้าตัวทำได้ในการเจอกับ ออสเตรเลีย ในฟุตบอลโลก 2014 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย วันที่ 2 ก.ย.2011 ซึ่งบุกไปแพ้ 1-2 รวมทั้งยังเป็นประตูที่สองของทีมชาติไทย ในศึกฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบ 12 ทีมสุดท้าย กลุ่ม บี หลังจากก่อนหน้านี้  "ช้างศึก" ทำได้จาก ธนา ชะนะบุตร ในเกมที่บุกไปปราชัยให้กับ ยูเออี 1-3 เมื่อวันที่ 6 ต.ค.ที่ผ่านมา

         น.22 สิโรจน์ ฉัตรทอง พยายามแตะบอลหนี น.24 ธีรศิลป์ แดงดา จ่ายบอลจากขวาไปให้ ชนาธิป สรงกระสินธ์ พลิกยิงหน้าเขตโทษด้วยซ้าย บอลไปติด แม็ต ไรอัน น.32 แม็ทธิว สปิเรโนวิช ไปดึง สิโรจน์ ฉัตรทอง จากทางด้านหลัง ผู้ตัดสินให้ฟาล์ว
                                                     

         น.34  ร็อบบี้ ครูส  หลุดเข้าไปยิงที่เสาแรก แต่ถูกไลน์แมนยกธงเป็นลูกล้ำหน้าเสียก่อน น.35 อารอน มัวได้โอกาสซัดจากหน้าเขตโทษ บอลเหินข้ามคาน น.40 ประทุม ชูทอง ตัดเกมบุกของ ร็อบบี้ ครูส ผู้ตัดสินกลับให้เป็นลูกที่เซนเตอร์ฮาล์ฟจาก เชียงราย ยูไนเต็ด ทำฟาล์ว
 

         น.42 ธีรศิลป์ แดงดา จ่ายบอลไปให้ ชนาธิป สรงกระสินธ์ ที่เติมขึ้นมาจากตรงกลาง เตรียมกระดกบอลเข้าไปในเขตโทษ ทว่า แบรด สมิธ ล้มตัดดักทางบอลไว้ได้ทัน น.43 ทอม โรจิช เปิดบอลจากฝั่งซ้ายแต่บอลกลับไปติดบล็อก อดิศร พรหมรักษ์
 

         น.45 ธีรศิลป์ แดงดา พยายามกระชากบอลขึ้นไปกราบซ้าย แต่โดนแนวรับออสเตรเลียดักทางไว้ได้ น.45+1 อารอน มัว เปิดบอลจากขวาเข้าไปในเขตโทษ ประทุม ชูทอง ทิ้งตัวโหม่งเคลียร์ออกไป หลังจากนั้นไม่มีสกอร์เกิดขึ้น หมดครึ่งแรก ทีมชาติไทย เสมอ ออสเตรเลีย 1-1

         กลับมาครึ่งหลัง น.46 เจ้าบ้านได้ฟรีคิกระยะ 35 หลา ธีราทร บุญมาทัน ยิงไปแฉลบกำแพง น.49 ทริสตอง สมชาย โด ครอสบอลจากขวาเข้าไปในเขตโทษ ธีรศิลป์ แดงดา พยายามขึ้นโหม่ง ทว่า แม็ธ ไรอัน ยังกระโดดคว้าบอลได้ทันเวลา
 

          น.53 ทริสตอง สมชาย โด เปิดบอลจากขวาเจ้าไปในเขตโทษ สิโรจน์ ฉัตรทอง ขึ้นไม่ถึง น.55 ทีมชาติไทย มาได้จุดโทษหลังจาก ธีราทร บุญมาทัน โดน แม็ทธิว เลกกี้ เสียบจากด้านหลังในเขตโทษ และเป็นจุดโทษลูกแรกในรอบ 12 ทีมสุดท้ายทันที และเป็น ธีรศิลป์ แดงดา ที่ซัดไม่พลาด กลายเป็นลูกที่ 3 จาก 3 นัดที่เจ้าตัวยิงให้กับทีมชาติไทย ในการพบ ออสเตรเลีย และเป็นสกอร์ขึ้นนำครั้งแรก 2-1

         นอกจากนี้ยังเป็นเม็ดที่ 3 ของทีมชาติไทย ในการลงเล่นฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบ 12 ทีมสุดท้าย ซึ่งการยิง ออสเตรเลีย ในครั้งนี้ของ ธีรศิลป์ แดงดา กลายเป้นลูกที่ 3 จาก 3 เกมที่เจ้าตัวลงเล่นให้ทัพ"ช้างศึก" ในการพบ "จิงโจ้" ต่อจาก วันที่ 2 ก.ย.2011 ไทย แพ้ ออสเตรเลีย 1-2 (ย) ฟุตบอลโลก 2014 รอบคัดเลือก (ยิง 1 ลูก) และวันที่ 15 พ.ย.2011 ไทย แพ้ ออสเตรเลีย 0-1 (ห) ฟุตบอลโลก 2014 รอบคัดเลือก (เป็นตัวสำรองไม่ได้ลงสนาม)
 

         น.60 ออสเตรเลีย หวิดได้สกอร์ตีเสมอ หลังจาก อารอน มัว เปิดลูกเตะมุมฝั่งขวาไปให้กับ ไมล์ เยดินัค ขึ้นโหม่งเดี่ยวๆ กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ ควักบอลจากเส้นได้พอดี น.54 ผู้ตัดสินชี้เป็นจุดโทษที่สองให้กับ ออสเตรเลีย หลังจาก สิโรจน์ ฉัตรทอง ไปผลักแข้งทีมเยือน ทำให้ ไมล์ เยดินัค ลุกขึ้นมายิงไม่พลาด กลายเป็นลูกที่สองของตัวเองในเกมนี้ พร้อมกับช่วยทีมตีเสมอ 2-2
 

          อย่างไรก็ตามจากจุดโทษหนที่สองของ ออสเตรเลีย ในเกมนี้ ทำให้ ฟาฮัด จาเบอร์ อัล มารี ผู้ตัดสินชี้เป็นจุดโทษครั้งที่ 4 ให้กับ ออสเตรเลีย จากก่อนหน้านี้ที่เคยให้มาแล้ว 2 ครั้ง ในการเปิดบ้านถล่ม ทาจิกิสถาน 7-0 ของเกมฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบสอง กลุ่ม บี
 

            น.67 สิโรจน์ ฉัตรทอง โดน มิลอส เดเกเนค ดึงล้มหน้าเขตโทษ แม้ว่าผู้ตัดสินให้ฟาล์วแต่ไม่มีใบเหลืองแกให้แนวรับของ ออสเตรเลีย ก่อนที่ ปกเกล้า อนันต์ จะยิงไปติดเซฟ แม็ธ ไรอัน น.62 ธีรศิลป์ แดงดา แทงบอลให้กับ สิโรจน์ ฉัตรทอง ในเขตโทษแต่โดน มิลอส เดเกเนค ล้มตัวสกัดไว้ได้
 

            น.76 นาธาน เบิร์น ลากบอลจากขวาตัดเข้ากลางก่อนที่จะยิงด้วยซ้าย บอลพุ่งไปแลบชนคานอย่างจัง น.82 ทีมชาติไทย แก้เกมครั้งแรกด้วยการส่ง นัสตพนธ์ มาลาพันธ์ ลงไปแทน อดิศร พรหมรักษ์ ซึ่งถือเป็นการเล่นให้กับชุดใหญ่ครั้งแรกของปราการหลังจาก "ฉลามชล" อีกด้วย
 

             น.84 เทรนท์ ซานบิวรี่ ไปเสียบ สิโรจน์ ฉัตรทอง หน้าเขตโทษแต่ผู้ตัดสินไม่มีใบเหลืองแถม น.85 สิโรจน์ ฉัตรทอง หลุดเข้าไปในเขตโทษแต่จังหวะสุดท้ายแตะบอลยาวไป จึงยิงไปติดเซฟ แม็ธ ไรอัน น.88 ธีรศิลป์ แดงดา พยายามครอสบอลจากขวาแต่บอลไปติดแนวรับทีมเยือน
 

              น.89 ร็อบบี้ ครูส หลุดเข้าไปยิงที่เสาแรกในเขตโทษ แต่ไลน์แมนยกธงเป็นลูกล้ำหน้าเสียก่อน น.90 แจ็คสัน เออร์ไวน์  ไปเตะ สิโรจน์ ฉัตรทอง จากด้านหลัง โดนใบเหลืองไปตามระเบียบ น.90+1 "ช้างศึก" ส่ง รุ่งรัฐ ภูมิจันทึก มาแทน สิโรจน์ ฉัตรทอง
 

              จากนั้นไม่มีสกอร์เกิดขึ้น จบเกม ทีมชาติไทย เสมอกับ ออสเตรเลีย ไป 2-2 ทำให้ทีมชาติไทยได้แต้มแรกในรอบ 12 ทีมสุดท้ายอย่างเป็นทางการ รวมทั้งเป็นการเจ๊ากับ ออสเตรเลีย ในรอบ 28 ปี นับตั้งแต่วันที่ 9 ส.ค.1988 ซึ่งเจ๊ากันไป 0-0 ในศึกจาการ์ตา โทรฟี่