ฟุตบอลบุนเดสลีกา เยอรมัน

วันอาทิตย์ที่ 27 พฤศจิกายน 2559

แฮร์ธ่า เบอร์ลิน 2 - ไมนซ์ 1

        สนาม : โอลิมเพีย สตาดิโอน

         แฮร์ธ่า เบอร์ลิน วาง เกงกิ ฮารางูจิ, วาเลนติน สต็อคเกอร์ และ ซาโลมง กาลู ร่วมกันทำเกมรุกข้างหลัง เวดัด อิบิเซวิช ส่วนไมนซ์ให้โอกาส อารอน เซย์เดิ้ล ประเดิมสนามในระดับบุนเดสลีกาด้วยการเป็นหน้าเป้าตัวจริง แผงรุกใช้ เลวิน เอิซตูนาลี่, ยูนุส มัลลี่ และ ปาโบล เด บลาซิส

         เริ่มเกมไปจนถึงนาที 21 เจ้าบ้านได้ลุ้นจากฟรีคิกกราบซ้าย มาร์วิน แพล็ทเทนฮาร์ดท์ เปิดเข้าเขตโทษให้ เวดัด อิบิเซวิช ลอยตัวโหม่งหลุดกรอบไปนิดเดียว

         ทว่า 4 นาทีถัดมากลายเป็นไมนซ์นำก่อน เลวิน เอิซตูนาลี่ กระชากเข้าเขตโทษฝั่งขวาแล้วปาดไปหน้าประตู เซบาสเตียน ลังคัมพ์ สกัดไม่ขาด บอลปลิ้นมาถึง อารอน เซย์เดิ้ล ได้กดด้วยซ้ายระยะไม่กี่หลาเข้าไปเป็นประตู 1-0

         นาที 36 แฮร์ธ่าไล่ตีเสมอเป็น 1-1 ซาโลมง กาลู จ่ายจากซ้ายเข้าเขตโทษให้ เวดัด อิบิเซวิช ปล่อยบอลมาเข้าขวาก่อนสับไกยิงเรียดเสียบเสาขวามืออย่างเฉียบขาด และจบครึ่งแรกด้วยสกอร์นี้

         กลับมาต่อครึ่งหลัง นาที 62 ไมนซ์เหลือ 10 คน ฌอง-ฟิลิปป์ บาแม็ง ไปทำฟาวล์ใส่ ปีเตอร์ เพคาริค จนโดนใบเหลืองที่สองเป็นใบแดงไล่ออกจากสนาม

         5 นาทีถัดมา แฮร์ธ่าเป็นฝ่ายนำบ้าง นิคลาส ชตาร์ค สับไกยิงหน้าเขตโทษแฉลบผู้เล่นทีมเยือนกลายเป็นลอยไปเสาซ้ายมือ ซาโลมง กาลู โหม่งชงให้ เวดัด อิบิเซวิช แปจ่อๆ เป็นประตู 2-1

         แต่นาที 74 เจ้าถิ่นเหลือ 10 คนเหมือนกัน เวดัด อิบิเซวิช โดนใบเหลืองที่สองจากการไปดึง ปาโบล เด บลาซิส

         ก่อนหมดเวลา 6 นาที ทีมเยือนเกือบได้ประตูชัย ยูนุส มัลลี่ สับไกยิงเข้ากรอบ แต่ รูเน่ ยาร์สไตน์ ปัดด้วยปลายนิ้วส่งบอลชนคาน จบเกม แฮร์ธ่า เบอร์ลิน ชนะ ไมนซ์ 2-1

        รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

         แฮร์ธ่า เบอร์ลิน : รูเน่ ยาร์สไตน์, ปีเตอร์ เพคาริค, เซบาสเตียน ลังคัมพ์, จอห์น แอนโธนี่ บรู๊คส์, มาร์วิน แพล็ทเทนฮาร์ดท์, นิคลาส ชตาร์ค, ฟาเบียน ลุสเตนแบร์เกอร์, เกงกิ ฮารางูจิ, วาเลนติน สต็อคเกอร์ (วลาดิเมียร์ ดาริด้า น.64 (อเล็กซานเดอร์ เอสส์ไวน์ น.90+2)), ซาโลมง กาลู (ยูเลี่ยน ชีเบอร์ น.82), เวดัด อิบิเซวิช

         ไมนซ์ : โยนาส เลิซเซิ่ล, จูลิโอ โดนาติ, นิโค บุงแงร์ต, เลออน บาโลกุน, กาเอต็อง บุสส์มานน์ (แดนนี่ ลัตซ่า น.84), ฌอง-ฟิลิปป์ บาแม็ง, อันเดร รามัลโญ่, เลวิน เอิซตูนาลี่ (จอน กอร์โดบา น.75), ยูนุส มัลลี่, ปาโบล เด บลาซิส (คาริม โอนิซิโว่ น.84), อารอน เซย์เดิ้ล

         ผู้ตัดสิน : กีโด วิงค์มันน์

        ชาลเก้ 3 - ดาร์มสตัดท์ 1

        สนาม : เฟลตินส์ อารีน่า

         มาร์คุส ไวน์ซีเริ่ล กุนซือชาลเก้ส่ง มักซ์ เมเยอร์ ผ่านฟิตลงล่าตาข่ายคู่กับ เอริค มักซิม ชูโป-โมติง แดนกลางใช้ เลออน โกเร็ตซ์ก้า คุมเกมร่วมกับ นาบิล เบนทาเล็บ ส่วน โยฮันเนส ไกส์ เป็นเพลย์เมกเกอร์ ฝั่ง ''เดอะ ลิลลี่ส์'' ของ นอร์แบร์ต ไมเออร์ วาง อันโตนิโอ โคลัค ค้ำแดนหน้า มาร์เซล เฮลเลอร์, มาริโอ ฟรานซิช และ อานิส เบน-ฮาติร่า ปั้นเกม

         เริ่มเกมได้เพียง 6 นาที ดาร์มสตัดท์บุกนำ 1-0 ซานโดร ซิริกู ลากเลาะขึ้นมาทางริมเส้นฝั่งขวาก่อนตัดเข้ากลางแล้วแทงเข้าเขตโทษ มาร์เซล เฮลเลอร์ โฉบไปสะกิดบอลตัดหน้า ราล์ฟ เฟห์รมันน์ แล้วส่งบอลสู่ก้นตาข่ายง่ายๆ

         ''ราชันสีน้ำเงิน'' ตามตีเสมอ 1-1 ในนาที 26 จากจังหวะโต้กลับเร็ว เอริค มักซิม ชูโป-โมติง ลากจี้ไปริมเขตโทษฝั่งซ้ายแล้วโยนเข้ากลาง เซอัด โคลาซินัค โหม่งเต็มศีรษะผ่านมือ มิชาเอล เอสเซอร์

         2 นาทีให้หลัง เจ้าถิ่นได้จุดโทษจากลูกเตะมุมที่ เลออน โกเร็ตซ์ก้า โดน อายทัค ซูลู กระแทกล้มในเขตโทษ แต่ เอริค มักซิม ชูโป-โมติง ดันยิงด้วยขวาไปติดเซฟ มิชาเอล เอสเซอร์ พลาดแซงนำ ทำให้จบ 45 นาทีแรกด้วยสกอร์ 1-1

         กลับมาต่อครึ่งหลัง นาที 60 ชาลเก้แซงนำ 2-1 มักซ์ เมเยอร์ ลากเข้าเขตโทษฝั่งซ้ายแล้วเปิดไปหน้าประตู เอริค มักซิม ชูโป-โมติง เหยียดเท้าขวาจิ้มบอลเข้าไปเป็นประตู 2-1

         เข้าสู่ช่วง 10 นาทีสุดท้าย เจ้าถิ่นยิงประตูตอกฝาโลง เยฟเกน โคโนเปลียนก้า ตัวสำรองกระดกเข้าเขตโทษให้ อเลสซานโดร เชิปฟ์ ล้มตัวสะกิดบอลสวนตัว มิชาเอล เอสเซอร์ จากนั้นไม่มีประตูเพิ่ม จบเกม ชาลเก้ แซงชนะ ดาร์มสตัดท์ 3-1 เก็บชัยชนะในบ้านเป็นเกมที่ 4 ติดต่อกัน

        รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม

         ชาลเก้ : ราล์ฟ เฟห์รมันน์ - เบเนดิคท์ เฮอเวเดส, นัลโด้, มาติย่า นาสตาซิช - อเลสซานโดร เชิปฟ์, เลออน โกเร็ตซ์ก้า (เยฟเกน โคโนเปลียนก้า น.45), นาบิล เบนทาเล็บ (เบนจามิน สตอมบูลี่ น.69), โยฮันเนส ไกส์, เซอัด โคลาซินัค - เอริค มักซิม ชูโป-โมติง, มักซ์ เมเยอร์ (เดนิส อาโอโก้ น.88)
 
         ดาร์มสตัดท์ : มิชาเอล เอสเซอร์ - โฟลเรียน ยุงเวิร์ธ (โดมินิก สโตรห์-เอ็งเกล น.85), อเล็กซานเดอร์ มิโลเซวิช, อายทัค ซูลู, เลออน กูวารา - ซานโดร ซิริกู (เดนิส โอลินิค น.74), อาร์เต็ม เฟเด็ตสกี้ - มาร์เซล เฮลเลอร์, มาริโอ ฟรานซิช, อานิส เบน-ฮาติร่า (วิคเตอร์ โอบินน่า น.54) - อันโตนิโอ โคลัค

         ผู้ตัดสิน : แฟร้งค์ วิลเลนบอร์ก