ปรีวิวฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก

(รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม จี)

วันพุธที่ 7 ธันวาคม 2559

ปอร์โต้ (โปรตุเกส) - เลสเตอร์ ซิตี้ (อังกฤษ)

ถ่ายทอดสด ช่อง : บีอิน สปอร์ตส์ 2 (เวลา : 02.45 น.)

สนาม : เอสตาดิโอ โด ดราเกา (ปอร์โต้, โปรตุเกส)

        ปอร์โต้ ของ นูโน่ เอสปิริโต้ ซานโต้ เฉือนหวิว สปอร์ติ้ง บราก้า 1-0 คว้าชัยนัดแรกในรอบ 4 เกมลีกล่าสุด รั้งอันดับ 3 ลีกสูงสุดเมืองฝอยทอง

        ส่วนในถ้วยนี้ ปอร์โต้ เสมอ โคเปนเฮเก้น 0-0 ทำให้ต้องลุ้นเข้ารอบต่อไปในนัดสุดท้าย โดยต้องชนะเพื่อตำแหน่งรองแชมป์กลุ่ม เนื่องจากสถิติเฮดทูเฮดเป็นรอง โคเปนเฮเก้น

        ความพร้อมล่าสุด โอตาวิโอ เจ็บช่องท้องจากเกมล่าสุด และไม่ได้ลงซ้อมเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา เช่นเดียวกับ เซร์คิโอ โอลิเวร่า กับ ชิโดซี่ อวาเซี่ยม

        ขณะที่ วิลลี่ โบลี่ พร้อมเป็นตัวเลือกอีกครั้งหลังเดินทางกลับ ฝรั่งเศส ไปร่วมงานศพคุณพ่อ

        อีเกร์ กาซียาส เฝ้าประตู แบ็กโฟร์ใช้ มักซิมิเลียโน่ เปเรยร่า, เฟลิเป้, อิบัน มาร์กาโน่ และ มิเกล ลายุน แดนกลางวาง ดานิโล่ เปเรยร่า เชื่อมเกมขนาบด้วย โอลีเบร์ ตอร์เรส  กับ โอตาวิโอ แดนหน้าเป็น 3 ประสาน ดีโอโก้ โชต้า, อันเดร ซิลวา และ เฮซุส โกโรน่า

        เลสเตอร์ ซิตี้ ของ เคลาดิโอ รานิเอรี่ เพิ่งกลายเป็นแชมป์เก่าที่แย่ที่สุดในประวัติศาสตร์ พรีเมียร์ลีก หลังออกไปแพ้ ซันเดอร์แลนด์ 1-2 ทำให้มีเพียง 13 แต้มจาก 14 นัด

        ทว่าใน แชมเปี้ยนส์ ลีก "เดอะ ฟ็อกซิส" ผ่านฉลุยเข้าสู่รอบน็อกเอาต์หลังซิว คลับ บรูช 2-1 คว้าแชมป์กลุ่มเรียบร้อยแล้ว

        สภาพทีมล่าสุด แดนนี่ ดริงค์วอเตอร์ พร้อมเป็นตัวเลือกในรายการนี้ หลังติดโทษแบนเพียงในลีก ขณะที่ น็อมปาลิส เมนดี้ ลุ้นคืนสนามหลังกลับมามีชื่อบนม้านั่งสำรองตั้งแต่เกมล่าสุด

        ทว่า แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล ยังพักฟื้นหลังผ่าตัดกระดูกมือแตกต่อไป

        การจัดทัพ รอน โรเบิร์ต-ซีเลอร์ รับหน้าที่เฝ้าเสา แนวรับจากขวาไปซ้ายเป็น แดนนี่ ซิมพ์สัน, เวส มอร์แกน, โรเบิร์ต ฮูธ และ คริสเตียน ฟุคส์

        แดนกลางให้ แดนนี่ ดริงค์วอเตอร์ เชื่อมเกมกับ แอนดี้ คิง เกมรุกริมเส้นฝาก ริยาด มาห์เรซ กับ มาร์ค อัลไบรท์ตัน เปิดป้อนคู่กองหน้า เจมี่ วาร์ดี้ กับ อิสลาม สลิมานี่

รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม

        ปอร์โต้ (4-3-3) : อีเกร์ กาซิยาส - มักซี่ เปเรยร่า, เฟลิเป้, อีบัน มาร์กาโน่, มิเกล ลายุน - โอลิเบร์ ตอร์เรส, ดานิโล่ เปเรยร่า, โอตาวิโอ - ดีโอโก้ โชต้า, อันเดร ซิลวา, เฮซุส โกโรน่า

        เลสเตอร์ ซิตี้ (4-4-2) : รอน-โรเบิร์ต ซีเลอร์ - แดนนี่ ซิมพ์สัน, เวส มอร์แกน, โรเบิร์ต ฮูธ, คริสเตียน ฟุคส์ - ริยาด มาห์เรซ, แดนนี่ ดริงค์วอเตอร์, แอนดี้ คิง, มาร์ค อัลไบรท์ตัน - อิสลาม สลิมานี่, เจมี่ วาร์ดี้

        ผู้ตัดสิน : เฟลิกซ์ ซวาเยอร์ (เยอรมัน)

ข้อมูลเพิ่มเติมที่น่าสนใจ
- สโมสรอังกฤษมาเยือนปอร์โต้ 11 ครั้งในชปล. โดยชนะได้แค่ 2 (แมนฯ ยูไนต็ด เมื่อเมษายน 2009, เชลซี เมื่อพฤศจิกายน 2009) โดยเสมอ 4 และแพ้ 5
- ยังไม่มีสโมสรอังกฤษที่ยิงเกินนัดละ 1 ประตูในการเยือนปอร์โต้ ชปล. (11 เกม)
- 11 เกมชปล.หลังสุดที่พบสโมสรอังกฤษ ปอร์โต้ยิงได้นัดละ 2 ประตู (4 ครั้ง) หรือไม่ก็ยิงไม่ได้เลย (7 ครั้ง)
- เลสเตอร์ ซิตี้ เป็นทีมแรกนับตั้งแต่มาลาก้าในฤดูกาล 2012-13 ที่ได้แชมป์กลุ่ม ในฤดูกาลแรกที่เล่นชปล.
- ขณะเดียวกัน ปอร์โต้จะจบอันดับ 2 ถ้าชนะเลสเตอร์ หรือโคเปนเฮเก้นไม่ชนะคลับ บรูช
- ปอร์โต้แพ้แค่ครั้งเดียวจาก 11 เกมชปล. หลังสุดในบ้าน (ชนะ 7 เสมอ 3) จากเกมกับดินาโม เคียฟ พฤศจิกายน 2015 (0-2) และนั่นเป็นเกมเดียวที่พวกเขายิงไม่ได้ใน 11 เกมดังกล่าว
- ปอร์โต้ไม่ชนะในเกมสุดท้ายของรอบแบ่งกลุ่มตลอด 5 ครั้งหลังสุดที่เล่นชปล. (เสมอ 2 แพ้ 3) นับตั้งแต่ธันวาคม 2009 (ชนะแอต.มาดริด 3-0)
- ปอร์โต้ไม่เสียประตูใน 2 เกมชปล. หลังสุด โดยหนล่าสุดที่พวกเขาทำคลีนชีต 3 นัดซ้อนในชปล. ฤดูกาลเดียวกัน เกิดขึ้นฤดูกาล 2003-04 ที่พวกเขาคว้าแชมป์
- เลสเตอร์ ซิตี้ มีสถิติเกมรับดีที่สุดในชปล. ฤดูกาลนี้ ร่วมกับแอต.มาดริด (เสีย 1 ประตูจาก 5 นัด)
- ขณะเดียวกัน เกมของปอร์โต้มีประตูเกิดขึ้นน้อยที่สุดในชปล. ฤดูกาลนี้ ร่วมกับโคเปนเฮเก้น (7 ประตู, ได้ 4 เสีย 3)
- อันเดร ซิลวา มีส่วนร่วมถึง 75% ของประตูที่ปอร์โต้ได้ในชปล.ฤดูกาลนี้ (3 จาก 4) โดยยิง 2 แอสซิสต์ 1
- เจมี่ วาร์ดี้ ยิงเข้ากรอบ 2 ครั้งใน 424 นาทีที่เล่นชปล. และไม่เป็นประตูแม้แต่ครั้งเดียว