ฟุตบอล ลีก เอิง ฝรั่งเศส

วันอาทิตย์ที่ 18 ธันวาคม 2559

โมนาโก 1 - โอลิมปิก ลียง 3

        สนาม : สต๊าด หลุยส์ II

         เกมครึ่งแรก นาที 8 โมนาโก ได้บอล แบร์นาร์โด้ ซิลวา เปิดจากกรอบเขตโทษฝั่งซ้ายให้ โตมาส์ เลอมาร์ ยิงเผาขนไปติดเท้านายด่าน แอนโธนี่ โลเปส ไม่พ้นอันตราย เลอมาร์ ยิงซ้ำดาบสองยังตรงตัว

         นาที 11 นาบิล เฟกีร์ จอมทัพของลียงสังหารฟรีคิกเท้าซ้ายระยะไกล 30 หลา ดานิเยล ซูบาซิช ปัดบอลด้วยมือขวาออกเส้นหลังไปอย่างหวุดหวิด

         แฟนบอลใน สต๊าด หลุยส์ II โดดตัวลอยนาที 25 เมื่อทีมรักส่งบอลเข้าประตู แต่กลายเป็นเฮเก้อ เบนฌาแม็ง เมนดี้ เติมเกมรุกริมเขตโทษฝั่งซ้ายแล้วครอสเถึงเสาไกลทว่า ฌิบริล ซิดิเบ้ ดันเอามือปัดบอลเข้าไป โดนเป่าแฮนด์บอลพร้อมใบเหลือง

         กระทั่งนาที 29 เป็นฝั่ง ''โอแอล'' ขึ้นนำ 1-0 การประสานหน้ากรอบของ วัลบูเอน่า ไหลขวางไปฝั่งขวาให้ ราชิด เกซซาล วางเท้าปั่นด้วยซ้ายจาก 20 หลาโค้งเสียบโคนเสาแรกเฉียบขาด

         โมนาโก เหลือผู้เล่น 10 คน เบนฌาแม็ง เมนดี้ แบ็กซ้ายโดนใบแดง ถูกไล่ออกจากสนามนาที 39 หลังจากเจตนาเตะ โตลิสโซ่ จนบาดเจ็บกล้ามเนื้อต้นขาขวา จบครึ่งแรก ลียง ได้เปรียบ 1 สกอร์

         ครึ่งหลัง นักเตะเจ้าถิ่นเรียกร้องลูกจุดโทษนาที 50 หลังจาก วาแลร์ แชร์กแมง โยนบอลจากปีกซ้ายไปโดนมือของ ลูก้าส์ ตูซาร์ หน้าประตู ทว่า รุดดี้ บูเก้ต์ ไม่เป่าให้ โมนาโก ได้ลูกจุดโทษแต่อย่างใด

         นาที 55 ฟาบินโญ่ เสียบสกัด อเลซ็องดร์ ลากาแซ็ตต์ ในกรอบเขตโทษ ผู้ตัดสินแจกใบเหลืองให้ ฟาบินโญ่ พร้อมเป่าให้ทีมเยือนได้ลูกจุดโทษ ลากาแซ็ตต์ สังหารจุดโทษเท้าขวาไปติด ดานิเยล ซูบาซิช พุ่งไปเซฟไว้ได้ ลียง ชวดได้ประตูที่สองอย่างน่าเสียดาย

         มาถึงนาที 65 โอลิมปิก ลียง นำห่าง 2-0 ราฟาเอล ผ่านบอลให้ ราชิด เกซซาล จ่ายจากริมเส้นฝั่งขวาเข้ามาหน้าประตู มาติเยอ วัลบูเอน่า ซัดเท้าขวาเรียบร้อย นับเป็นลูกที่ 4 ของเขาในลีก เอิง ซีซั่นนี้

         สี่นาทีต่อมา โตมาส์ เลอมาร์ เปิดฟรีคิกทางปีกซ้ายเข้ามาหน้าประตู ติเอมูเอ้ บากาโยโก้ โหม่งตุงตาข่าย ทว่ากรรมการไม่ให้ได้ประตู โดยเป่าเป็นจังหวะล้ำหน้า

         อย่างไรก็ตาม โมนาโก ตีไข่แตก ไล่ตามหลังมาที่สกอร์ 1-2 นาที 70 เลอมาร์ ทำชิ่งกับ นาบิล ดีราร์ มิดฟิลด์ตัวสำรอง และเขาจ่ายให้ ติเอมูเอ้ บากาโยโก้ ซัดเท้ขวาหน้าประตู บอลโดน ลูก้าส์ ตูซาร์ เข้าประตู

         นาที 87 ทีมเยือนมาได้ประตูนำห่าง 3-1 จากลูกเตะมุมทางฝั่งซ้าย ซูบาซิช ปัดบอลไม่พ้นอันตราย มาเข้าอกของ ลากาแซ็ตต์ ยิงเท้าขวาที่เสาสองตุงตาข่าย จบเกม โอลิมปิก ลียง บุกมาต้อน โมนาโก 3-1

        รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

         โมนาโก :  ดานิเยล ซูบาซิช - ฌิบริล ซิดิเบ้, คามิล กลิค, เชแมร์ซอน, เบนฌาแม็ง เมนดี้ - แบร์นาร์โด้ ซิลวา, ฟาบินโญ่, ติเอมูเอ้ บากาโยโก้, โตมาส์ เลอมาร์ - ราดาเมล ฟัลเกา (กัปตันทีม), วาแลร์ แชร์กแมง

          โอลิมปิก ลียง : แอนโธนี่ โลเปส - ราฟาเอล ดา ซิลวา, มาปู ย็องกา-เอ็มบีว่า, มุคตาร์ ดิยากาบี้, เฌเรมี่ โมแรล -  ลูก้าส์ ตูซาร์, โกล็องแต็ง โตลิสโซ่ (กัปตันทีม) - ราชิด เกซซาล, นาบิล เฟกีร์, มาติเยอ วัลบูเอน่า - อเล็กซองดร์ ลากาแซตต์

                นีซ 2 - ดิฌง 1

        สนาม : อัลลิอันซ์ ริเวียร่า

         เกมค่อนข้างอึดอัดกระทั้งนาที 31 ''อินทรี ริเวียร่า'' เรียกจุดโทษ ดันเต้ บอนฟิม วางยาวจากแดนตัวเองขึ้นหน้าไปให้ อลาสซาน เพลอา ริมเส้นฝั่งขวา ใช้ความสารถเฉพาะตัวดูดลูกลงพื้นกระชากหนี ยูนิส อับแดลอามิด เข้ากรอบจึงโดนหวดคว่ำ ผู้ตัดสินเป่าฟาวล์พร้อมแจกใบเหลือง

         มือสังหาร มาริโอ บาโลเตลลี่ แปเรียดเสียบโคนเสาซ้ายแม้นายด่าน บั๊ปติสต์ เรย์เน่ต์ พยายามพุ่งรับแต่ไม่ถึงเบิกสกอร์ 1-0 และถือเป็นลูกที่ 7 ในลีก เอิง ของ ''บาโล''

         จากนั้นนาที 36 ดิฌง ได้จุดโทษบ้าง ฟ้วด ชาฟิค วางลึกจากฝั่งขวาเข้ากรอบฝั่งซ้าย แว็งซ็องต์ รุฟลี่  แต่งลูกในความครอบครองถูก อาร์กโนด์ ซูเก้ต์ กองหลังเจ้าถิ่นยกเท้าสูงจะยันหน้า เชิ้ตดำเป่าฟาวล์พร้อมชี้ไปที่จุด 12 หลา

         ผู้รับหน้าที่ยิงเป็น ฮูลิโอ ตาวาเรส กดไปกลางประตูแบบไม่ต้องคิด นายด่าน โยอัน การ์กดินาล พุ่งผิดทางตีเสมอเป็น 1-1 จบครึ่งแรกที่สกอร์นี้

         กลับมาเล่นต่อเพียง 5 นาที นีซ ขึ้นนำอีกครั้ง 2-1 วีย์ลัน ซีเปรียง แทงขึ้นหน้าเลาะเส้นฝั่งขวาให้ อาร์กโนด์ ซูเก้ต์ กึ่งยิงกึ่งผ่านเข้ากลางประตู มาริโอ บาโลเตลลี่ ที่ยืนอยู่ตรงนั้นแม้ล้ำหน้าอยู่ครึ่งก้าวแต่ไม่มีธง ยืนแปเผาขนเปลี่ยนทางเสียบเสาไกล

         จากนั้น ดิฌง เลือดขึ้นหน้าเปิดเกมรุกบี้เจ้าถิ่นนาที 53 ฟ้วด ชาฟิค ตบบอลจากฝั่งขวามาตรงจุดโทษ โยอัน กาสเตียง วางเท้ายิงแต่ไม่มุมพอเข้ามือนายด่าน การ์กดินาล

         อีกครั้งที่นายด่านนีซต้องออกแรงเซฟนาที 60 อดัม ลัง กองหลัง ดิฌง วางลึกจากแดนตัวเองเข้าเข้าโทษเจ้าถิ่น ฮูลิโอ ตาวาเรส วิ่งเบียดไปกับตัวประกบวอลเลย์มุมแคบตามน้ำจะยัดเสาแต่มือกาวเฟร้นแมนพุ่ง ปัดออกหลัง

         ท้ายเกมนาที 78 โอกาสตีเสมอของ ดิฌง การขึ้นเกมทางซ้ายของ แว็งซ็องต์ รุฟลี่ ล็อกหนีตัวประกบจนหลังหักแล้วไหลให้ เฟรเดริค ซามมาริตาโน่ กดด้วยขวาจาก 20 หลาเฉี่ยวเสาแรกไม่กี่ฟุต

         ก่อนหมดเวลา 3 นาที นีซ เกือบได้ลูกที่สามจังหวะสวนกลับทางซ้ายของ เรมี่ วอลเตอร์ ครอสข้ามฟากไปถึง อลาสซาน เพลอา ได้กดลูกที่กระดอนขึ้นมาระยะ 15 หลาผ่านมือ บั๊ปติสต์ เรย์เน่ต์ จูบคานเต็มใบ

         เกมมาเดือดจากนั้นนาทีเดียว เซดริก วาร์โรลต์ กองหลัง ดิฌง ไปรวบข้อเท้า มาโลเตลลี่ ล้มลงจึงถูกใบเหลือง ทว่าเรื่องไม่จบดันฉุนขึ้นมาต่อปากกับ บาโล และด่าผู้ตัดสินจึงถูกเหลืองสองเป็นใบแดงไล่ออก

         เวลาทดเจ็บ 4 นาทีไม่มีประตูเพิ่มจบเกม นีซ เชือดนิ่ม 2-1 รักษาตำแหน่งจ่าฝูงไว้เหนียวแน่น

        รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

         นีซ : โยอัน การ์กดินาล - อาร์กโนด์ ซูเก้ต์, ดันเต้ บอนฟิม(กัปตันทีม), แม็กซิม เลอ มาร์กช็องด์, มาล็องช์ ซาร์ - ฌอง มิชาแอล เซรี, วีย์ลัน ซีเปรียง, เรมี่ วอลเตอร์ - อลาสซาน เพลอา, มาริโอ บาโลเตลลี่, ยูเนส แบลอองด้า

         ดิฌง : บั๊ปติสต์ เรย์เน่ต์ -  ฟ้วด ชาฟิค, เซดริก วาร์โรลต์(กัปตันทีม), อดัม ลัง, ยูนิส อับแดลอามิด, แว็งซ็องต์ รุฟลี่ - ปิแอร์ เลเอส เมลู  เมห์ดี้ อาเบ็ด, โยอัน กาสเตียง - ฮูลิโอ ตาวาเรส, หลุยส์ โดนี่