ปรีวิวฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ

วันอาทิตย์ที่ 15 มกราคม 2560

แมนฯ ยูไนเต็ด  -  ลิเวอร์พูล

ถ่ายทอดสด : PPTV HD,อิน สปอร์ตส์ 1, (เวลา : 23.00 น.)

สนาม : โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด

        เกมแดงเดือดนัดที่ 2 ของฤดูกาลนี้ หลังจากเกมแรกที่ แอนฟิลด์ เสมอกันแบบจืดชืด 0-0

        แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กำลังฟอร์มร้อนแรงสุดๆ คว้าชัยชนะทุกรายการ 9 นัดติดแล้ว และไม่แพ้นานถึง 15 นัด นับตั้งแต่แพ้ เฟเนร์บาห์เช่ 1-2 ในยูโรปา ลีก วันที่ 3 พฤศจิกายน ปีที่แล้ว

        ผีแดง เพิ่งผ่านเกมบอลถ้วยทั้ง 2 รายการ เปิดบ้านถล่ม เร้ดดิ้ง ทีมจากแชมเปี้ยนชิพ 4-0 ใน เอฟเอ คัพ รอบ 3 และเปิดบ้านอัด ฮัลล์ 2-0 ใน ลีก คัพ รอบรองชนะเลิศ นัดแรก เมื่อวันอังคาร

        ส่วนเกมลีกล่าสุด บุกชนะ เวสต์แฮม 2-0 ยังรั้งอันดับ 6 แต่ไล่ตาม ลิเวอร์พูล รองจ่าฝูง เหลือ 5 แต้มแล้ว หากชนะเกมนี้ก็จะลดเหลือ 2 ทันที

        โชเซ่ มูรินโญ่ กุนซือชาวโปรตุกีส หวังว่าจะได้ ซลาตัน อิบราฮิโมวิช กองหน้าคนสำคัญ ที่ซัลโวไปแล้ว 18 ประตู รวมทุกถ้วยในฤดูกาลนี้ (ตั้งแต่ คอมมิวนิตี้ ชิลด์) หายป่วยกลับคืนทีม

        มาร์กอส โรโฮ กองหลังที่เจ็บกล้ามเนื้อขาจากเกมกับ เร้ดดิ้ง ก็มีโอกาสกลับคืนทีมสูง เช่นเดียวกับ ลุค ชอว์ แบ็กซ้ายที่กลับมาลงซ้อมเรียบร้อย

        ที่ขาดหายไปมีเพียง เอริก ไบยี่ เซนเตอร์ฮาล์ฟไอวอรี่โคสต์ ทำศึกแอฟริกัน เนชั่นส์ คัพ

        การจัดทัพที่คาด ดาบิด เด เคอา ลงเฝ้าเสา แผงหลัง อันโตนิโอ วาเลนเซีย, ฟิล โจนส์, มาร์กอส โรโฮ และ มัตเตโอ ดาร์เมียน

        แดนกลาง ไมเคิ่ล คาร์ริค กลับมาคุมเกมกับ อันเดร์ เอร์เรร่า และ ปอล ป๊อกบา

        แนวรุก เฮนริค มคิทาร์ยาน กับ อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล ปั้นเกมรุกให้ตัวเป้า ซลาตัน อิบราฮิโมวิช

        ขณะที่ เวย์น รูนี่ย์ ซึ่งรอคอยประตูที่ 250 เพื่อแซงผ่านสถิติดาวซัลโว ผีแดง ตลอดกาลของ เซอร์ บ๊อบบี้ ชาร์ลตัน อาจต้องนั่งสำรอง
 
        ด้าน ลิเวอร์พูล กำลังเครื่องดับมา 3 นัดติดแล้ว ตั้งแต่เกมลีกที่บุกเสมอ ซันเดอร์แลนด์ 2-2 ต่อด้วย เอฟเอ คัพ รอบ 3 เปิดบ้านเสมอ พลีมัธ ทีมลีกทู 0-0 และ ลีก คัพ รอบรองฯ นัดแรก บุกแพ้ เซาธ์แฮมป์ตัน 0-1

        ทั้งที่ก่อนหน้านั้น คว้าชัยเกมลีกมาติดต่อกัน 4 นัด และก่อนเกมที่ เซนต์ แมรี่ส์ ก็ไม่แพ้มา 7 นัดติด

        เจอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือ หงส์แดง ได้รับข่าวดี ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ จอมทัพบราซิล ฟิตกลับมานั่งสำรอง และลงเล่น 30 นาทีสุดท้ายของเกมเมื่อวันพุธไปแล้ว

        จอร์แดน เฮนเดอร์สัน กองกลางกัปตันทีมหายเจ็บส้นเท้า กลับมาลงซ้อมร่วมกับ โจเอล มาติป เซนเตอร์ฮาล์ฟ ที่หายเจ็บข้อเท้าด้วย

        ส่วนตัวหลักที่ขาดหายไปแน่ๆ คือ ซาดิโอ มาเน่ กองหน้าเซเนกัลไปลุย แอฟริกัน เนชั่นส์ คัพ

        คล็อปป์ จะเรียก ซิมง มินโญเลต์ กลับมาเฝ้าเสาแทน โลริส คาริอุส ที่ได้เล่นบอลถ้วย 2 นัดติด

        แผงหลังน่าจะใช้ชุดเดิมจากเกมที่ เซาธ์แฮมป์ตัน มี เนธาเนียล ไคลน์, เดยัน ลอฟเรน, รักนาร์ คลาวาน และ เจมส์ มิลเนอร์

        แดนกลาง จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ลงคุมเกมกับ เอ็มเร่ ชาน และ จอร์จินโย่ ไวนัลดุม

        แนวรุกพร้อมส่ง ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ คืนตัวจริงในเกมสำคัญทันเวลา ประสานงาน อดัม ลัลลาน่า และ โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ โดยมี แดเนียล สเตอร์ริดจ์ พร้อมเสียบ

รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม

        แมนฯ ยูไนเต็ด : ดาบิด เด เคอา, อันโตนิโอ วาเลนเซีย, ฟิล โจนส์, มาร์กอส โรโฮ, มัตเตโอ ดาร์เมียน, ไมเคิ่ล คาร์ริค, อันเดร์ เอร์เรร่า, ปอล ป๊อกบา, เฮนริค มคิทาร์ยาน, อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล, ซลาตัน อิบราฮิโมวิช

        ลิเวอร์พูล : ซิมง มินโญเลต์, เนธาเนียล ไคลน์, เดยัน ลอฟเรน, รักนาร์ คลาวาน, เจมส์ มิลเนอร์, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, เอ็มเร่ ชาน, จอร์จินโย่ ไวนัลดุม, ฟิลิปเป้ คูตินโญ่, อดัม ลัลลาน่า, โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่

        ผู้ตัดสิน : ไมเคิ่ล โอลิเวอร์

ผลงานการพบกันที่บ้านแมนฯ ยูไนเต็ด
แมนฯ ยูไนเต็ดชนะ 44 ลิเวอร์พูลชนะ 15 เสมอ 31
ประตูที่ทำได้ : แมนฯ ยูไนเต็ด 152 ลูก ลิเวอร์พูล 83 ลูก

- นี่เป็นการเจอกันในพรีเมียร์ลีกเกมที่ 50 ระหว่างแมนฯ ยูไนเต็ดกับลิเวอร์พูล โดยยูไนเต็ดชนะ 27 จาก 49 ครั้งก่อนหน้านี้ (เสมอ 9 แพ้ 13)
- ลิเวอร์พูลแพ้ 11 จาก 14 ครั้งหลังที่เยือนโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ในพรีเมียร์ลีก โดยอีก 3 เกมที่เหลือ ลิเวอร์พูลเป็นฝ่ายชนะ
- ลิเวอร์พูลแพ้ในพรีเมียร์ลีก (27) และในเกมลีกทั้งหมด (67) จากการพบแมนฯ ยูไนเต็ด มากกว่าคู่แข่งรายอื่น
- คู่นี้มีใบแดงเกิดขึ้น 16 ใบในพรีเมียร์ลีก มีเพียงเกมระหว่างเอฟเวอร์ตัน v ลิเวอร์พูล (21) ที่มีการไล่ออกมากกว่า
- มีเพียง สตีเว่น เจอร์ราร์ด (8) ที่ยิงประตูในเกมพรีเมียร์ลีกระหว่างคู่นี้ มากกว่า เวย์น รูนี่ย์ (6 ลูกเท่า ร็อบบี้ ฟาวเลอร์)
- เวย์น รูนี่ย์ มีโอกาสลงเล่นพรีเมียร์ลีก นัดที่ 450 และกลายเป็นผู้เล่นคนที่ 21 ในพรีเมียร์ลีกที่แตะหลักดังกล่าว
- แมนฯ ยูไนเต็ด ครองบอลแค่ 35% ในเกมที่พบลิเวอร์พูล เมื่อเดือนตุลาคม เป็นสถิติน้อยที่สุดในพรีเมียร์ลีกของพวกเขา นับตั้งแต่มีการเก็บสถิติตั้งแต่ฤดูกาล 2003-04
- เจอร์เก้น คล็อปป์ แพ้แค่ครั้งเดียวจาก 6 ครั้งที่ดวล โชเซ่ มูรินโญ่ (ชนะ 3 เสมอ 2) จากเกมเมื่อปี 2013 ที่คุมดอร์ทมุนด์เยือนเรอัล มาดริด ในแชมเปี้ยนส์ ลีก รอบรองชนะเลิศ นัดสอง (0-2)
- ฆวน มาต้า มีส่วนร่วม 5 ประตูจาก 4 เกมหลังที่ลงสนามพบลิเวอร์พูลในพรีเมียร์ลีก โดยยิง 3 แอสซิสต์ 2
- ซลาตัน อิบราฮิโมวิช ทำ 13 ประตูจาก 19 เกมแรกในลีกที่เล่นให้แมนฯ ยูไนเต็ด เป็นสถิติเท่า ดไวท์ ยอร์ค และ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ โดยมีผู้เล่นยูไนเต็ดคนเดียวที่ยิงได้มากกว่าจากการเล่น 19 เกมแรกพรีเมียร์ลีกนั่นคือ รุด ฟาน นิสเตลรอย (15)
- อดัม ลัลลาน่า มีส่วนร่วม 14 ประตูในลีกฤดูกาลนี้ (7 ประตู 7 แอสซิสต์) มากกว่าผู้เล่นอังกฤษทุกราย
- ลิเวอร์พูล จะขาด ซาดิโอ มาเน่ ที่ไปเล่นแอฟริกัน เนชั่นส์ คัพ โดยแข้งเซเนกัลมีส่วนร่วม 13 ประตูในลีกฤดูกาลนี้ (9 ประตู 4 แอสซิสต์)

ผลการพบกันเมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา (บ้านแมนฯ ยูไนเต็ด)
แมนฯ ยูไนเต็ด ชนะ ลิเวอร์พูล 3-1
12 กันยายน 2015 ผู้ตัดสิน : ไมเคิ่ล โอลิเวอร์
ผู้ทำประตู : 1-0 ดาร์ลี่ย์ บลินด์ น.49, 2-0 อันเดร เอร์เรร่า (จุดโทษ) น.70, 2-1 คริสติย็อง เบนเตเก้ น.84, 3-1 อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล น.86