ฟุตบอลลา ลีกา สเปน

วันอาทิตย์ที่ 15 มกราคม 2560

เซบีย่า 2  -  1 เรอัล มาดริด    

สนาม: เอสตาดิโอ ราม่อน ซานเชซ ปิซฆวน, (เซบีย่า)

        คู่นี้เพิ่งเสมอกันมาดุเดือด 3-3 ในการทำศึกโกปา เดล เรย์ รอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดสอง ที่ราม่อน ซานเชซ ปิซฆวน เมื่อค่ำคืนวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา รวมผลสองนัด เรอัล มาดริด ผ่านเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายด้วยสกอร์รวม 6-3

        เกมนี้ เซบีย่า ที่เก็บชัยในลีกมาสามนัดติดต่อกัน ต้องปราศจาก เบอนัวต์ เตรมูลินาส, ไมเคิล โครห์น-เดห์ลี่ และ ดาเนียล คาร์รีโซ่ ที่มีอาการบาดเจ็บรบกวน และ ฮัวกิน กอร์เรอา กองหน้าชาวอาร์เจนไตน์วัย 22 ปี ที่ไม่ฟิต ส่วน สเตวาน โยเวติช กองหน้าตัวใหม่ชาวมอนเตเนโกร มีชื่อเป็นสำรอง

        ทางด้าน "ราชันชุดขาว" เรอัล มาดริด ของ ซีเนดีน ซีดาน นำทัพบุกมาเสมอกับ เซบีย่า สนุก 3-3 ในศึกโกปา เดล เรย์ รอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดสอง รวมผลสองนัด เรอัล มาดริด ผ่านเข้ารอบ 8 ทีม ด้วยสกอร์รวม 6-3 ส่งผลให้ทำสถิติใหม่ไม่แพ้ใคร 40 นัดติดต่อกัน (จากทุกรายการ) แซงหน้า บาร์เซโลน่า คู่ปรับตลอดกาลที่ทำเอาไว้ 39 นัดติดในช่วงระหว่างเดือนตุลาคม ปี 2015 ถึงเดือนมีนาคม 2016

        นอกจากนั้น เรอัล มาดริด ยังไม่แพ้ใครในการลงสนาม 28 เกมหลังสุดในศึกลา ลีกา ด้วย เกมนี้ไม่มี แกเร็ธ เบล ปีกทีมชาติเวลส์ ที่บาดเจ็บบริเวณข้อเท้า ต้องพักยาวถึงเดือนเมษายน นี้

        ขณะที่ เปเป้, ฮาเมส โรดรีเกซ และ อีสโก้ สามผู้เล่นสำคัญไม่ฟิต โดย ซีดาน เรียกตัว คริสเตียโน่ โรนัลโด้ เจ้าของรางวัลนักเตะชายยอดเยี่ยมแห่งปีของฟีฟ่า ประจำปี 2016 กลับมาช่วยทีมเพื่อล่าตาข่ายร่วมกับ คาริม เบนเซม่า

        เปิดเกมครึ่งแรกมาได้ 15 นาที เรอัล มาดริด ได้โอกาสก่อนจากจังหวะที่ โทนี่ โครส เปิดมุมให้กับ เซร์คิโอ รามอส โผนขึ้นดหม่งบอลข้ามคานไป

        สี่นาทีต่อมา เซบีย่า ได้โอกาสบ้าง ซามีร์ นาสรี่ โยนลุกเตะมุมเข้ามาให้กับ สตีเว่น เอ็นซงซี่ ขึ้นโหม่งจ่อๆบอลข้ามคานไป

        เกมดำเนินมาถึงนาทีที่ 27 ราชันชุดขาว โต้กลับเร็วขึ้นมา โทนี่ โครส จ่ายทะลุขึ้นหน้าให้กับ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ สปีดหลุดไปทางกรอบเขตโทษด้านซ้าย ก่อนซัดด้วยซ้าย แต่ไปติดเซฟของ เซร์คิโอ รีโก้ นายทวารเซบีย่า ที่ปิดมุมได้ดี

        ห้านาทีต่อมา เจ้าถิ่นได้ลุ้นเช่นกัน เอ็นซงซี่ ไปแย่งบอลมาจาก การ์บาฆาล ได้ ก่อนโยนเข้ากลาง นาโช่ เฟร์นานเดซ กองหลังเรอัล โหม่งสกัดออกมาเข้าทาง มาเรียโน่ เก็บได้แล้วไหลให้กับ ฟรานโก้ วาซเกซ ปั่นโค้งด้วยซ้ายบอลเลี้ยวเฉี่ยวสามเหลี่ยมออกหลังไป

        ผ่านมา 40 นาที เรอัล มาดริด น่าจะได้ประตูขึ้นนำจากจังหวะที่ คาริม เบนเซม่า จ่ายเข้าไปให้กับ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ยิงด้วยขวากลางกรอบเขตโทษบอลเฉี่ยวเสาขวาไป หมดครึ่งแรกเสมอกันอยู่ 0-0

        มาเล่นกันต่อในครึ่งหลังได้แค่สองนาที เซบีย่า บุกเข้าใส่ทันที ฟรานโก้ วาซเกซ ได้หลุดมาส่องด้วยขวาทางกรอบเขตโทษด้านขวา แต่ เคย์ลอร์ นาวาส นายทวารของทีมชุดขาว ปิดมุมดี ล้มตัวปัดทิ้งออกหลังไปได้ทัน

        กระเถิบมานาทีที่ 54 เซบีย่า มาอีกครั้ง ฟรานโก้ วาซเกซ จ่ายให้กับ วิสซาม เบน เยแดร์ ซัดด้วยขวาในกรอบเขตโทษติดเซฟของ นาวาส ตามเคย

        สองนาทีต่อมา เรอัล ตอบโต้บ้าง คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ได้ซัดด้วยซ้ายในกรอบเขตโทษด้านขวาแต่ติดบล็อค

        ล่วงเลยมานาทีที่ 63 ราชันชุดขาว ได้โอกาสบอลจาก โมดริช มาถึง คาริม เบนเซม่า ง้างเท้าซัดด้วยขวากลางกรอบเขตโทษบอลข้ามคานไปอย่างไม่น่าเชื่อ

        ถัดมาสี่นาที เรอัล มาดริด ได้จุดโทษจากจังหวะที่ เซร์คิโอ เอสกูเดโร่ แบ็คซ้ายเจ้าบ้านจ่ายบอลไม่ดี โดน ดาเนียล การ์บาฆาล แบ็คขวาเรอัลตัดได้แล้วกระชากเข้ากรอบเขตโทษด้านขวา ทว่าโดน เซร์คิโอ รีโก้ นายทวารเซบีย่า ออกมารวบล้มลงไป ผู้ตัดสินเป่าทันที ก่อนที่ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ รับหน้าที่สังหารด้วยขวาเข้าไปอย่างเด็ดขาดช่วยให้ ราชันชุดขาว นำก่อน 1-0 และเป็นประตูที่ 12 ของโรนัลโด้ ในลา ลีกา ซีซั่นนี้

        มาถึงนาทีที่ 74 เรอัล มาดริด เปลี่ยนเอา โทนี่ โครส ออกมาพักแล้วส่ง มาเตโอ โควาซิซ ลงมาเล่นแทน ส่วน เซบีย่า ให้ ปาโบล ซาราเบีย ลงมาทำเกมรุกแล้วถอด บีเซนเต้ อีบอร์ร่า ออกในสองนาทีให้หลัง

        ท้ายเกมนาทีที่ 84 เจ้าถิ่นได้ฟรีคิกทางกราบขวาจากจังหวะที่ มาร์เชโล่ ไปเสียบ มาเรียโน่ อย่างน่าเกลียด ผู้ตัดสินเป่าทันที ปาโบล ซาราเบีย ที่ลงมาเป็นสำรองโยนโค้งเข้าไปในกรอบเขตโทษ เซร์คิโอ รามอส ปราการหลังกัปตันทีมเรอัล มาดริด วิ่งมาโขกสกัดบอลผิดเหลี่ยมเข้าประตูตัวเองไป สงเคราะห์ให้ เซบีย่า ตามตีเสมอ 1-1 แล้ว

        ช่วงทดเวลาบาดเจ็บนาทีที่ 90+2 เซบีย่า มาได้ประตูชัยอย่างไม่น่าเชื่อจากจังหวะที่เรอัล มาดริด ได้ลูกทุ่มบอลมาถึง เบนเซม่า แต่โดนผู้เล่นเซบีย่า จิ้มบอลแย่งไปได้ แล้วทะลักมาถึง สเตวาน โยเวติช ที่ลงมาเป็นสำรองกระชากบอลขึ้นมาแล้วปั่นด้วยขวาจากระยะประมาณ 25 หลา บอลเลี้ยวเข้าประตูไปอย่างสวยงาม แม้ว่า นาวาส ปัดได้นิดหนึ่ง แต่บอลยังแรงพอเข้าประตูไปช่วยให้ เซบีย่า เปิดรังพลิกชนะ เรอัล มาดริด ไปสนุก 2-1 เมื่อหมดเวลาการแข่งขัน ทำให้ราชันชุดขาว ถูกหยุดสถิติไม่แพ้ใคร 40 นัดติดต่อกันจากทุกรายการลงไปแล้ว และถูกหยุดสถิติไร้พ่าย 28 นัดติดต่อกันในลา ลีกา ไปด้วย

รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม

        เซบีย่า: เซร์คิโอ รีโก้ - มาเรียโน่ แฟร์เรยร่า, นิโกลาส ปาเรฮา (กัปตันทีม), อาดิล รามี่, เซร์คิโอ เอสกูเดโร่ - บีเซนเต้ อีบอร์ร่า (ปาโบล ซาราเบีย น.76), สตีเว่น เอ็นซงซี่ - ฟรานโก้ วาซเกซ (สเตวาน โยเวติช น.68), ซามีร์ นาสรี่, บิคตอร์ มาชิน บีโตโล่ - วิสซาม เบน เยแดร์ (ลูเซียโน่ เวียตโต้ น.90+2)

        เรอัล มาดริด: เคย์ลอร์ นาวาส - ราฟาแอล วาราน, เซร์คิโอ รามอส (กัปตันทีม), นาโช่ เฟร์นานเดซ - ดาเนียล การ์บาฆาล, โทนี่ โครส (มาเตโอ โควาซิซ น.74), คาเซมีโร่, ลูก้า โมดริช, มาร์เชโล่ - คาริม เบนเซม่า, คริสเตียโน่ โรนัลโด้

        ผู้ตัดสิน: อเลฆานโดร โฆเซ่ เอร์นานเดซ