เส้นทางบอลถ้วยใบแรกของ ลิเวอร์พูล มีอันต้องจบลง เมื่อเปิดรัง แอนฟิลด์ พ่ายให้กับ เซาธ์แฮมป์ตัน 0-1 ในศึก อีเอฟแอล คัพ รอบรองชนะเลิศ นัดสอง เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา ทำให้ "นักบุญ" ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศได้เป็นทีมแรก ด้วยสกอร์รวม 2-0

 ไปดูกันว่านักเตะหงส์แดง รวมถึงกุนซืออย่าง เยอร์เก้น คล็อปป์ จะได้คะแนนเท่าไหร่กันบ้างในเกมนี้

โลริส คาริอุส - 7

        ความมั่นใจกำลังดีขึ้นเรื่อยๆ ทำได้ยอดเยี่ยมกับช็อตเซฟลูกยิงของ ดูซาน ทาดิช

เทรน อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ - 7

        แม้โดน นาธาน เร้ดมอนด์ เผาเครื่องไปบ้างในช่วงแรก แต่เจ้าหนู อาร์โนลด์ ก็กลับคืนสู่เกมได้ เติมเกมบุกได้ดี แต่จังหวะการเปิดบอลยังไม่เข้าเป้าเท่าที่ควร

โฌเอล มาติป - 6.5

        โดนความเร็วของ เร้ดมอนด์ เล่นงานเช่นกัน แต่หลังจากนั้น มาติป ก็เล่นได้ตามมาตรฐานของตัวเอง
 

เดยัน ลอฟเรน  - 6

        ได้คู่หูอย่าง มาติป กลับมายืนด้วยกัน เหมือนได้ความมั่นใจกลับคืนมาด้วย

เจมส์ มิลเนอร์ - 6.5

        แข็งแกร่ง เติมเกมมันส์เหมือนเคย เข้าปะทะได้ดี แต่การเปิดลูกเตะมุมของเขาไม่เข้าเป้าเพื่อนร่วมทีมเลย

จอร์แดน เฮนเดอร์สัน - 6.5

        เจ็บแต่ก็ต้องฝืนลงช่วยทีม อาจจะไม่ใช่เกมที่ดีที่สุด แต่ กัปตันเฮนโด้ ก็ทำงานหนักทุกจังหวะเพื่อทีม

เอ็มเร่ ชาน - 6

        ความชั่วไม่มี ความดีมีปรากฎหนึ่งจังหวะจากลูกยิงไกลที่เกือบเป็นประตู แต่โชคร้าย เฟร์เซอร์ ฟอสเตอร์ หันกลับไปปัดบอลออกจากเส้นได้ทัน

อดัม ลัลลาน่า - 7

        เป็นอีกหนึ่งเกมที่ ลัลลาน่า ทำงานหนักมาก การได้กลับมาเล่นตรงกลางทำให้ฟอร์มของเขาดูดีขึ้นพอสมควร เกมนี้น่าชื่นชม

ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ - 7

        ร่ายมนตร์เต็มที่แล้ว แต่ก็ทลายแผงเกมรับทีมเยือนที่มาดีไม่ได้จริงๆ

โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ - 6.5

        ต้องฉีกตัวไปเล่นด้านข้างบ่อยครั้ง แต่ผลงานไม่ขี้เหร่อะไร ช่วยทีมได้เยอะพอสมควร

แดเนียล สเตอร์ริดจ์ - 5.5

        มีโอกาสทำประตูแบบจะแจ้งมากที่สุดในเกม แต่ สเตอร์ริดจ์ ก็เปลี่ยนให้มันเป็นประตูไม่ได้

สำรอง

ดีว็อก โอริกี้ - 5

        ลงมาในช่วง 12 นาทีสุดท้าย ช่วยทีมอะไรไม่ได้นอกจากมีช็อตล้มในเขตโทษวัดใจกรรมการเท่านั้น

จอร์จินโย่ ไวจ์นัลดุม - ให้คะแนนไม่ได้

กุนซือ

เยอร์เก้น คล็อปป์ - 4.5

        นัดนี้ เยอร์เก้น คล็อปป์ จัดตัวกะเอาตายเหมือนกัน แต่ก็ปัญหาเดิมๆคือ เกมรุกทำอะไรแนวรับอันแข็งแกร่งของ เซาธ์แฮมป์ตัน ไม่ได้

        และเป็นอีกนัดที่ คล็อปป์ แก้เกมได้ช้าสุดๆ เลือกปล่อยตัวสำรองคนแรกนาที 78 ซึ่งจะว่าไปแล้วการส่งผู้เล่นในเกมรุกลงมาเร็วกว่านี้ อาจจะมีความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นก็เป็นได้ แต่กุนซือเยอรมัน ไม่คิดเช่นนั้น

        มองได้สองมุมคือ บรรดาตัวสำรองก็ไม่ได้ดีไปกว่าผู้เล่น 11 ตัวจริงในสนาม หรืออีกมุมหนึ่งที่เราไม่รู้คือ คล็อปป์ อาจมองข้ามช็อต ยอมทิ้งตรงนี้ เพื่อไปเน้นเกมในลีกให้มากกว่าเดิม และอย่าลืมว่าทีมยังอยู่ในเส้นทางของถ้วย เอฟเอ คัพ อยู่ด้วย