"เสือเหลือง" โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ สุดหืดกว่าจะเอาชนะ "หญิงชรา" แฮร์ธ่า เบอร์ลิน ไปได้หลังเสมอในเวลา 1-1 ก่อนดวลจุดโทษเอาชนะไปได้ 3-2 ตีตั๋วเข้ารอบก่อนรองชนะเลิศสำเร็จ เช่นเดียวกับ "ราชันสีน้ำเงิน" ชาลเก้ ที่บุกไปต้อน ซานด์เฮาเซ่น ทีมจาก ลีกา สอง 4-1 ในศึกเดเอฟเบ โพคาล เยอรมัน เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา

ฟุตบอลเดเอฟเบ โพคาล รอบ 16 ทีมสุดท้าย

วันพุธที่ 8 กุมภาพันธ์ 2560

ดอร์ทมุนด์ (บุนเดสลีกา) 1- แฮร์ธ่า เบอร์ลิน (บุนเดสลีกา) 1

(ต่อเวลาพิเศษเสมอ 1-1,ดอร์ทมุนด์ ชนะจุดโทษ 3-2 )

        สนาม : ซิกนัล อิดูน่า พาร์ค, (ดอร์ทมุนด์)

         เปิดเกมครึ่งแรกมาได้แค่ 16 นาทีดอร์ทมุนด์มีโอกาสลุ้นก่อน เมื่อ ยูเลี่ยน ไวเกิ้ล จ่ายทะลุแนวรับให้ ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมย็อง หลุดเข้าไปแปด้วยขวาเล่นทางกะเสียบเสาไกล แต่ รูเน่ ยาร์สไตน์ นายทวารแฮร์ธ่าล้มตัวปัดได้หวุดหวิด

         ผ่านมา 25 นาทีทีมเยือนตั้งเกมได้ เกือบได้ประตูนำ วลาดิเมียร์ ดาริด้า โยนลูกเตะมุมจากกราบขวาเข้ากลางให้ จอห์น แอนโธนี่ บรูคส์ สลัดตัวประกบ ก่อนโขกกดติดเซฟ โรมัน เบือร์กี้ นายทวารดอร์ทมุนด์ แต่บอลยังเข้าทาง เวดัดอิบิเซวิช โขกซ้ำจ่อๆ แค่ 2 หลาข้ามคาน

         ถัดมาสองนาทีหญิงชรามาได้ประตูนำก่อน 1-0 เมื่อ นิคลาส ชตาร์ค โยนเข้าเขตโทษให้ ซาโลมง กาลู พุ่งเข้าชาร์จด้วยขวาระยะ 12 หลา ผ่าน โรมัน เบือร์กี้ เข้าประตูไปช่วยให้แฮร์ธ่า เบอร์ลินบุกมานำก่อน 1-0

         เริ่มครึ่งหลังได้เพียง 3 นาที ดอร์ทมุนด์ ได้ประตูตีเสมอ 1-1 อุสมาน เดมเบเล่ ได้หลุดเข้าไปกดเรียดด้วยซ้ายชนเสาก่อนตามไปเก็บ แล้วคืนหลังกลับมาให้ คริสเตียน พูลิซิช ไหลง่ายๆ ไปที่ มาร์โค รอยส์ แปด้วยขวากลางประตูตุงตาข่าย

         เข้าสู่นาทีที่ 57 ดอร์ทมุนด์ เกือบได้ประตูนำ มาร์โค รอยส์ หลุดเข้าเขตโทษด้านขวาก่อนเปิดเรียดเข้ากลางให้ ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมย็อง แปด้วยขวาติดเซฟ รูเน่ ยาร์สไตน์ ก่อนตามซ้ำดาบสองตุงตาข่าย แต่ผู้ตัดสินเป่าเป็นจังหวะฟาวล์ไปก่อนแล้ว

         ดอร์ทมุนด์มาได้โอกาสอีกครั้งในนาทีที่ 66 ยูเลี่ยน ไวเกิ้ล ไหลต่อสั้นให้ ราฟาแอล เกร์เรยโร่ ตั้งป้อมกดด้วยซ้ายเข้ามือ รูเน่ ยาร์สไตน์ จบ 90 ดอร์ทมุนด์ เสมอ แฮร์ธ่า เบอร์ลิน 1-1 ต้องต่อเวลาพิเศษอีก 30 นาที

         ช่วงต่อเวลาพิเศษยังไม่สามารถทำอะไรกันได้ ทำให้ต้องตัดสินด้วยการยิงลูกที่จุดโทษ ผลปรากฎว่าแข้ง "เสือเหลือง" ยิงแม่นกว่าก่อนเอาชนะ "หญิงชรา" แฮร์ธ่า เบอร์ลิน ไปได้ด้วยสกอร์ 3-2 ผ่านเข้าไปเล่นในรอบก่อนรองชนะ

เลิศสำเร็จ

        รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม

         ดอร์ทมุนด์ : โรมัน เบือร์กี้ - ลูคัสซ์ พิสซ์เซ็ค, มาร์ค บาร์ตร้า, โซคราติส ปาปาสตาโธปูลอส, ราฟาเอล เกร์เรยโร่ - ยูเลี่ยน ไวเกิ้ล - อุสมาน เดมเบเล่, มาร์โค รอยส์, เอริค ดวร์ม, มาร์เซล ชเมลเซอร์ - ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมย็อง

         แฮร์ธ่า เบอร์ลิน : รูเน่ ยาร์สไตน์ - ปีเตอร์ เพคาริค, เซบาสเตียน ลังก์คัมป์, จอห์น แอนโธนี่ บรูคส์, มักซิมิเลียน มิทเทิลชตัดท์ - เพอร์ เชลเบรด, นิคลาส ชตาร์ค, เกนกิ ฮารากูชิ, วลาดิเมียร์ ดาริด้า - ซาโลมง กาลู, เวดัด อิบิเซวิช

      ซานด์เฮาเซ่น (ลีกา สอง) 1 - ชาลเก้ 04 (บุนเดสลีกา) 4 

        สนาม: ฮาร์ทวัลด์สตาดิโอน

         เริ่มเกมครึ่งแรกมาได้แค่ 11 นาที ทีมเยือนได้ลุ้นก่อนเลย อเลสซานโดร ชอปฟ์ โยนบอลจากริมเส้นไปหน้าประตู กีโด้ บวร์กสตัลเลอร์ วอลเลย์ด้วยขวาติดเซฟ มาร์โค คนัลเลอร์ นายทวารเจ้าบ้าน ก่อนที่ ดาเนียล คาลิจูรี่ ปราดตามซ้ำด้วยขวาจากระยะแค่ 6 หลา บอลไปชนเสาอย่างน่าเสียดาย

         4 นาทีต่อมา ซานด์เฮาเซ่นจำเป็นต้องเปลี่ยนเอา โชเซ่ วุนกีดิก้า ที่มีอาการบาดเจ็บออกมาพัก แล้วส่ง ยาคุบ โคเซ็คกี้ ลงมาเล่นแทน

         ครึ่งชั่วโมงของเกมการแข่งขัน ชาลเก้ 04 ได้ลุ้นก่อน เมื่อ อเลสซานโดร ชอปฟ์ โยนฟรีคิกให้กับ กีโด้ บวร์กสตัลเลอร์ โหม่งในกรอบเขตโทษ แต่ มาร์โค คนัลเลอร์ นายทวารของซานด์เฮาเซ่น ปัดทิ้งออกหลังไปได้ทัน

         ผ่านมา 38 นาที ราชันสีน้ำเงินมาได้ประตูขึ้นนำก่อน 1-0 เมื่อ อเลสซานโดร ชอปฟ์ มิดฟิลด์ชาวออสเตรียวัย 23 ปี ซัดด้วยซ้ายจากกลางกรอบเขตโทษบอลเสียบมุมซ้ายบนเข้าไป

         ก่อนหมดครึ่งแรกสองนาที ชาลเก้นำ 2-0 เมื่อโต้กลับเร็วขึ้นมา ก่อนที่ นาบิล เบนทาเล็บ จ่ายยาวให้กับ ดาเนียล คาลิจูรี่ สับไกยิงด้วยซ้ายจากทางกรอบเขตโทษด้านซ้าย บอลเสียบมุมซ้ายบนเข้าไป

         ช่วงทดเจ็บครึ่งแรกนาทีที่ 45+1 ทีมเยือนมาได้ประตูที่สามจากจังหวะที่ อเลสซานโดร ชอปฟ์ เปิดมุมให้กับ นัลโด้ ปราการหลังชาวบราซิล ทะยานขึ้นโหม่งบอลเสียบมุมซ้ายเข้าไปให้ ชาลเก้นำขาด 3-0 เมื่อหมดครึ่งแรก

         มาเล่นกันต่อในครึ่งหลัง ซานด์เฮาเซ่นไม่ยอมง่ายๆ ไล่มา 1-3 จากจังหวะที่ ดาเมียน รอสบัค โหม่งลูกฟรีคิกตั้งให้กับ แอนดรูว์ วูเท่น โขกจ่อๆ เข้าประตูไปในนาทีที่ 65

         จากนั้นนาทีที่ 71 ชาลเก้ 04 มาได้ประตูนำหายห่วง 4-1 เมื่อ อเลสซานโดร ชอปฟ์ โยนลูกเตะมุมให้กับ เบเนดิคท์ เฮอเวเดส โขกไปติดเซฟของ มาร์โค คนัลเลอร์ ปัดมาเข้าทางของ เยฟเฮน โคโนเปลียนก้า ดาวเตะชาวยูเครนที่ลงมาเป็นสำรอง ตามซ้ำด้วยขวาจ่อๆ เข้าประตูไป จบเกม ชาลเก้บุกมาชนะ 4-1 ทะยานเข้าสู่รอบ 8 ทีมสุดท้ายเดเอฟเบ โพคาล ต่อไป

        รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม

         ซานด์เฮาเซ่น: มาร์โค คนัลเลอร์ - ฟิลิปป์ คลิงมันน์, ทิม คิสเตอร์, ทิม คนิปปิง, ดาเมียน รอสบัค - เดนิส ลินส์ไมเออร์, สเตฟาน คูโลวิตส์ (ดาเนียล ลูคาซิค น.68) - โธมัส เพลเดิ้ล, โชเซ่ วุนกีดิก้า (ยาคุบ โคเซ็คกี้ น.15) - แอนดรูว์ วูเท่น, ลูคัส เฮอเลอร์ (ริชาร์ด ซูคูต้า-ปาซู น.62)

         ชาลเก้: ราล์ฟ เฟห์รมันน์ - เบเนดิคท์ เฮอเวเดส, นัลโด้, มาติย่า นาสตาซิซ - อเลสซานโดร ชอปฟ์, เบนฌาแม็ง สต็อมบูลี่, นาบิล เบนทาเล็บ, เซอัด โคลาซินัช, เลออน โกเร็ตซ์ก้า (คลาส-แยน ฮุนเตลาร์ น.85) - กีโด้ บวร์กสตัลเลอร์ (มักซ์ เมเยอร์ น.74), ดาเนียล คาลิจูรี่ (เยฟเฮน โคโนเปลียนก้า น.62)