ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดที่ 2

วันพุธที่ 8 มีนาคม 2560

บาร์เซโลน่า (สเปน) 6 - ปารีส แซงต์-แชร์กแมง (ฝรั่งเศส) 1

(รวมผลสองนัด บาร์เซโลน่า ผ่านเข้ารอบด้วยประตูรวม 6-5)

        สนาม : คัมป์ นู (บาร์เซโลน่า, สเปน)

         เกมครึ่งแรก ผ่านไปเพียง 3 นาที บาร์เซโลน่า นำ 1-0 อย่างรวดเร็ว ราฟินญ่า โยนบอลจากปีกขวาไปติด มาร์กินโญส โหม่งสกัดชนคาน และ มาร์โก แวร์รัตติ เคลียร์บอลไม่พ้นอันตรายมาเข้าหัว หลุยส์ ซัวเรซ โหม่งเผาขนเรียบร้อยนับเป็นประตูที่ 19 จากการลงเล่น 31 นัดในแชมเปี้ยนส์ ลีกของเขา

         นาที 11 นักเตะเปแอสเชเรียกร้องลูกจุดโทษ หลังจาก ฮาเวียร์ มาสเคราโน่ ทำแฮนด์บอลในกรอบเขตโทษฝั่งซ้าย แต่ เดนิซ อายเตกิ้น ผู้ตัดสินเยอรมัน ไม่เป่าให้ ทีมแชมป์ลีก เอิง ได้ลูกจุดโทษแต่อย่างใด

         จากนั้นสามนาทีต่อมา ยูเลี่ยน ดรักซ์เลอร์ โดนใบเหลือง หลังจากทำฟาวล์ ลิโอเนล เมสซี่ และเจ้าถิ่นได้ฟรีคิกระยะ 20 หลา เมสซี่ สังหารฟรีคิกเท้าซ้าย บอลข้ามคานไปไม่กี่หลา

         บาร์ซ่า เป็นฝ่ายครองบอลมากกว่า โดยเล่นเกมเพรสซิ่ง นาที 34 เมสซี่ ตัดบอลได้ ก่อนจ่ายให้ ซัวเรซ ยิงในกรอบเขตโทษฝั่งขวาติด เควิน ทรัพพ์

         และแล้วนาที 40 บาร์ซ่า นำห่าง 2-0 หลุยส์ ซัวเรซ โยนบอลจากนอกกรอบเขตโทษฝั่งซ้าย ติอาโก้ ซิลวา กัปตันทีมเปแอสเชสกัดบอลในกรอบเขตโทษฝั่งซ้ายไม่ดี อันเดรส อิเนียสต้า ได้บอลยิงระยะ 6 หลา ไปโดนเท้าขวาของ เลย์แว็ง คูร์กซาว่า แบ็กซ้ายปารีสฯ สกัดบอลเข้าประตูตัวเอง จบครึ่งแรก บาร์เซโลน่านำห่าง 2-0

         มาถึงครึ่งหลัง นาที 48 โธมัส เมอนิเย่ร์ แบ็กขวาปารีสฯ เสียหลักล้มในกรอบเขตโทษฝั่งซ้ายไปโดนขาของเนย์มาร์ และกรรมการเป่าให้ยอดทีมจากสเปน ได้ลูกจุดโทษ ลิโอเนล เมสซี่ สังหารจุดโทษเท้าซ้ายตุงตาข่าย บาร์ซ่านำห่าง 3-0 นับเป็นประตูที่ 94 ในการลงเล่นแชมเปี้ยนส์ ลีก 113 นัดของเขา

         สี่นาทีต่อมา เปแอสเชโต้กลับเร็ว เมอนิเย่ร์จ่ายจากปีกขวาให้ เอดินสัน คาวานี่ ยิงที่เสาแรกบอลพุ่งชนเสาอย่างน่าเสียดาย

         ปารีสฯ แก้เกมส่ง อังเคล ดิ มาเรีย ปีกทีมชาติอาร์เจนตินาลงเล่นแทน ลูกัส มูร่า นาที 55

         เข้าสู่นาที 62 เปแอสเชตีไข่แตก ไล่ตามหลังมาที่สกอร์ 1-3 มาร์โก แวร์รัตติ โยนยาวเข้ามาในกรอบเขตโทษฝั่งซ้าย เลย์แว็ง คูร์กซาว่า โหม่งตั้งให้ เอดินสัน คาวานี่ ยิงเท้าขวาที่เสาแรก บอลพุ่งเข้าประตูไปอย่างสวยงาม เป็นประตูที่ 25 จากการลงเล่นแชมเปี้ยนส์ ลีก 44 นัด ของเขา

         นาที 87 บาร์ซ่านำห่าง 4-1 เนย์มาร์สังหารฟรีคิกเท้าขวาจากนอกกรอบเขตโทษฝั่งซ้าย บอลพุ่งเสียบสามเหลี่ยม

         และนาทีต่อมา มาร์กินโญสโดนใบเหลือง หลังจากทำฟาวล์ หลุยส์ ซัวเรซ ในกรอบเขตโทษ เนย์มาร์ยิงจุดโทษเท้าขวาตุงตาข่าย บาร์เซโลน่านำห่าง 5-1 นับเป็นประตูที่สองของเขาในเกมนี้

         เกมทำท่าว่าจะจบลงแค่นี้แต่ในช่วงทดเวลาเจ็บเจ้าถิ่น บาร์เซโลน่า มาสร้างปาฎิหาริย์ได้สำเร็จ เมื่อ เซร์จี้ โรเบร์โต้ ตัวสำรองที่ลงมาเป็นซูเปอร์ซับฮีโร่ซัดประตูเข้าไปเป็นประตู 6-1 ก่อนจบเกม "เจ้าบุญทุ่ม" สร้างประวัติศาสตร์กลายเป็นทีมแรกที่แพ้จากเกมแรกถึงสี่ลูก ก่อนจะกลับมารัวยิงในเกมที่สองไล่ถล่ม เปแอสเช 6-1 สกอร์รวมสองนัดผ่านเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายด้วยประตูรวม 6-5

         รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม

         บาร์เซโลน่า : มาร์ค-อันเดร แทร์ ชเตเก้น - เคราร์ด ปีเก้, ฮาเวียร์ มาสเคราโน่, ซามูแอล อูมติตี้  - อีวาน ราคิติช, เซร์คิโอ บุสเก็ตส์, อันเดรส อิเนียสต้า (กัปตันทีม) - ลีโอเนล เมสซี่ - ราฟินญ่า, หลุยส์ ซัวเรซ, เนย์มาร์

         สำรอง : ยาสเปอร์ ซิลเลสเซ่น (ผู้รักษาประตู), อาร์ด้า ตูราน, ปาโก้ อัลกาเซร์, จอร์ดี้ อัลบา, ลูก้าส์ ดีญ, เซร์จี้ โรเบร์โต้, อันเดร โกเมส

         ปารีส แซงต์-แชร์กแมง : เควิน ทรัพพ์ - โธมัส เมอนิเย่ร์, มาร์กินโญส, ติอาโก้ ซิลวา (กัปตันทีม), เลย์แว็ง คูร์กซาว่า - มาร์โก แวร์รัตติ, อาเดรียง ราบิโอต์, แบลส มาตุยดี้ - ลูคัส มูร่า, เอดินสัน คาวานี่, ยูเลี่ยน ดรักซ์เลอร์

         สำรอง : อัลฟงส์ อาเรโอล่า (ผู้รักษาประตู), เพรสแนล คิมเพมเบ้, เกอร์เซกอร์ซ ครีโชเวียค, ฮาเวียร์ ปาสตอเร่, อังเคล ดิ มาเรีย, แซร์ช โอริเย่ร์, ฮาเตม เบน อาร์กฟา

         ผู้ตัดสิน : เดนิซ อายเตกิ้น (เยอรมัน)