บาร์เซโลน่า กลายเป็นทีมแรกที่แม้ว่าจะแพ้มาก่อน 4 ลูก แต่ก็ยังผ่านเข้ารอบของศึก แชมเปี้ยนส์ ลีก ได้ หลังไล่ต้อน ปารีส แซงต์-แชร์กแมง 6-1 ในนัดสองของรอบ 16 ทีมสุดท้าย โดยมันยังทำให้พวกเขาชนะ 5 นัดติดจากทุกรายการด้วย

บาร์เซโลน่า สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งเวที ลา ลีกา สเปน สร้างประวัติศาสตร์เป็นทีมแรกที่สามารถผ่านเข้ารอบในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ได้ ทั้งที่นัดแรกแพ้มาก่อนด้วยผลต่าง 4 ประตู หลังจากที่พวกเขาเปิดรัง คัมป์ นู ไล่ถล่ม ปารีส แซงต์-แชร์กแมง 6-1 ในการแข่งรอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดสอง เมื่อวันพุธที่ 8 มีนาคม ที่ผ่านมา จนทำให้ชนะไปด้วยสกอร์รวม 2 นัด 6-5

ในนัดแรก บาร์เซโลน่า ออกไปแพ้ ปารีสฯ มาก่อน 0-4 ทำให้หลายคนคิดว่าพวกเขาคงจะไม่มีโอกาสผ่านเข้าสู่รอบก่อนรองชนะเลิศได้แล้ว เพราะที่ผ่านมาไม่เคยมีทีมไหนที่พลิกสถานการณ์จากการแพ้ด้วยผลต่างถึง 4 ลูก ในนัดแรกได้ ไม่ว่าจะเป็นในยุคปัจจุบันที่ใช้ชื่อ แชมเปี้ยนส์ ลีก หรือในสมัยที่ใช้ชื่อรายการว่า ยูโรเปี้ยน คัพ

ด้วยความที่จำเป็นต้องยิงให้ได้เยอะๆ บาร์เซโลน่า เลยเปิดฉากบุกเต็มที่ตั้งแต่วินาทีแรกในนัดสอง ซึ่งพวกเขาก็มีความหวังทันทีเมื่อนำก่อน 3-0 จาก หลุยส์ ซัวเรซ นาทีที่ 3, การทำเข้าประตูตัวเองของ เลย์แว็ง คูร์กซาว่า นาทีที่ 40 และลูกจุดโทษของ ลิโอเนล เมสซี่ นาทีที่ 50 แต่ในนาทีที่ 62 แฟนบอลเจ้าถิ่นก็ต้องเงียบกริบเมื่อ เอดินสัน คาวานี่ ตีไข่แตกให้ทีมเยือนได้ และมันทำให้ดูเหมือนว่า "อาซูลกราน่า" จะหมดหวังแล้ว เพราะตอนนั้นพวกเขาจำเป็นต้องยิงอย่างต่ำ 3 ประตู เพื่อที่จะผ่านเข้ารอบไปให้ได้

 อย่างไรก็ตาม ปาฏิหาริย์ก็เกิดขึ้นเมื่อ บาร์เซโลน่า มารัว 3 ประตูในช่วงท้ายเกม จากการเหมา 2 ลูกของ เนย์มาร์ ในนาทีที่ 88 กับนาทีแรกของการทดเวลาบาดเจ็บ และอีก 1 ลูกของ เซร์กี้ โรเบร์โต้ ในช่วงอีกไม่กี่วินาทีก่อนที่จะจบเกม โดยนี่ยังเป็นชัยชนะนัดที่ 5 ติดต่อกันในทุกรายการของยอดทีมแห่งแคว้นกาตาลันด้วย