ปรีวิว ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก

(รอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดสอง)

วันอังคารที่ 14 มีนาคม 2560

เลสเตอร์ (อังกฤษ)     -     เซบีย่า (สเปน)

(ผลนัดแรก เซบีย่า ชนะ 2-1)

ถ่ายทอดสด : PPTV HD,บีอิน สปอร์ตส์ 1, เวลา : 02.45 น.

สนาม: คิง พาวเวอร์ สเตเดี้ยม

        เกมตัดสินของแชมป์เก่าพรีเมียร์ลีก กับแชมป์เก่ายูโรปา ลีก ภายหลังนัดแรกที่ ราม่อน ซานเชซ ปิซฆวน ชัยชนะเป็นของเจ้าบ้าน 2-1 เท่ากับ เลสเตอร์ ซิตี้ ขอชนะแค่ 1-0 ก็เพียงพอต่อการไปต่อด้วยกฎประตูทีมเยือน

        อย่างไรก็ดี หลังจากเกมเลกแรกเมื่อ 22 ก.พ. เลสเตอร์ ก็มีความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่เมื่อ เคลาดิโอ รานิเอรี่ โค้ชชาวอิตาเลียน ถูกเด้งออกจากตำแหน่ง และเพิ่งมีการยืนยันตั้ง เคร็ก เช็คสเปียร์ อดีตผู้ช่วยของรานิเอรี่ คุมถาวรไปจนจบซีซั่นนี้เป็นที่เรียบร้อย

        เช็คสเปียร์ ได้คุมเต็มตัวหลังจากสร้างผลงานดีเยี่ยมใน 2 เกมแรก ชนะ ลิเวอร์พูล กับ ฮัลล์ ซิตี้ ด้วยสกอร์ 3-1 ทั้งสองนัด ทำให้ขยับหนีโซนตกชั้นขึ้นมาเป็น 3 แต้ม พร้อมกับแข่งน้อยกว่าอยู่ 1 นัด

        เลสเตอร์ อาศัยช่วงที่ไม่มีโปรแกรมเตะเกือบสิบวัน บินไปเก็บตัวเปลี่ยนบรรยากาศที่ดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เป็นเวลา 4 วัน และกลับมาลงซ้อมที่สโมสรเป็นที่เรียบร้อย

        เกมนี้ เช็คสเปียร์ ไม่มีปัญหานักเตะบาดเจ็บเพิ่มเติม นอกเหนือจาก โมย่า วาเก้ กองหลังตัวใหม่ที่เจ็บไหล่ ในขณะที่ อิสลัม สลิมานี่ กับ เลโอนาร์โด้ อูยัว หายเจ็บกลับมาอยู่ในทีมตั้งแต่นัดก่อน

        การจัดทัพจะไม่เปลี่ยนแปลงจาก 2 นัดหลังซึ่งผลงานดี ด้วยระบบดั้งเดิม 4-4-2 แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล เฝ้าเสา เวส มอร์แกน กับ โรเบิร์ต ฮูธ คุมเกมรับตามเดิม

        กลางสนาม แดนนี่ ดริงค์วอเตอร์ ยืนคู่กับ วิลเฟร็ด เอ็นดีดี้ ส่วนริมเส้น 2 ฝั่งเป็น ริยาด มาห์เรซ กับ มาร์ค อัลไบรท์ตัน และคู่หน้าใช้ เจมี่ วาร์ดี้ กับ ชินจิ โอกาซากิ แต่ก็มีสิทธิ์ที่ สลิมานี่ จะแทรกลงตัวจริงคู่ วาร์ดี้ เช่นกัน

        ด้าน เซบีย่า เพิ่งผ่านเกม ลา ลีกา มาเมื่อวันเสาร์ และทำได้เพียงเสมอ เลกาเนส 1-1 เท่ากับเป็นการหลุดเสมอ 2 เกมติดแล้ว จนตามหลังจ่าฝูง เรอัล มาดริด เพิ่มเป็น 5 คะแนน

        สภาพความพร้อมสำหรับ ฮอร์เก้ ซามปาโอลี่ นัดนี้ ถือว่าเกือบสมบูรณ์ โดยตัวกุนซืออาร์เจนไตน์ พ้นโทษแบนเกมยุโรป 2 นัดกลับมาแล้ว พร้อมยืนข้างสนามตามปกติ

        ขณะที่ กาเบรียล เมร์กาโด้ กองหลังอาร์เจนไตน์ พ้นโทษแบนเกมยุโรป 1 นัดกลับมาเช่นกัน ส่วน บีโตโล่ กองกลางตัวรุก ก็จะกลับคืนทีมด้วยหลังติดโทษแบนเกมลีกช่วงสุดสัปดาห์

        อีก 2 ราย ซามีร์ นาสรี่ กองกลางฝรั่งเศส กับ นิโกลัส ปาเรฮา กองหลังอาร์เจนไตน์ ที่ได้พักเกมเสมอเลกาเนส จะกลับมาอยู่ในทีมอีกครั้ง

        เท่ากับตัวเจ็บตอนนี้เหลือแค่ เบอนัวต์ เตรมูลินาส กับ ไมเคิ่ล โครห์น-เดห์ลี่ เท่านั้น

        ระบบมาตรฐานยุโรป 4-2-3-1 แดนกลางคุมเกมโดย สตีเว่น เอ็นซอนซี่ กับ ซามีร์ นาสรี่ พร้อมให้ ฮัวกิน กอร์เรอา เดินเกมรุกร่วมกับ บีโตโล่ และ ปาโบล ซาราเบีย โดยวาง สเตวาน โยเวติช ยืนหอกเป้า

รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม

        เลสเตอร์ (4-4-2) : แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล - แดนนี่ ซิมพ์สัน, เวส มอร์แกน, โรเบิร์ต ฮูธ, คริสเตียน ฟุคส์ - ริยาด มาห์เรซ, แดนนี่ ดริงค์วอเตอร์, วิลเฟร็ด เอ็นดีดี้, มาร์ค อัลไบรท์ตัน - เจมี่ วาร์ดี้, ชินจิ โอกาซากิ (อิสลัม สลิมานี่)

        เซบีย่า (4-2-3-1) : เซร์คิโอ รีโก้ - มาเรียโน่, อดิล รามี่, นิโกลัส ปาเรฮา, เซร์คิโอ เอสกูเดโร่ - สตีเว่น เอ็นซอนซี่, ซามีร์ นาสรี่ - ฮัวกิน กอร์เรอา, บีโตโล่, ปาโบล ซาราเบีย - สเตวาน โยเวติช

        ผู้ตัดสิน: ดานิเอเล่ ออร์ซาโต้ (อิตาลี)

ข้อมูลเพิ่มเติมที่น่าสนใจ
- เซบีย่าชนะ 2-1 ในครั้งแรกที่เจอเลสเตอร์ ซิตี้ ในถ้วยยุโรป จากเลกแรก
- เลสเตอร์ ซิตี้ ไม่เคยชนะคู่แข่งจากสเปนในถ้วยยุโรป (เสมอ 1 แพ้ 4 : ที่เหลือจากนั้น เป็นการพบแอต.มาดริด คัพ วินเนอร์ส คัพ 1961-62 และยูฟ่า คัพ 1997-98)
- 7 จาก 9 ครั้งที่ทีมแพ้ 1-2 ในการเยือน ชปล. รอบน็อกเอาต์ นัดแรก พลาดเข้ารอบต่อไป
- เลสเตอร์ ซิตี้ เป็นทีมแรกนับตั้งแต่มาลาก้าในฤดูกาล 2012-13 ที่คว้าแชมป์กลุ่ม ในการเล่นชปล. ครั้งแรก
- เซบีย่าผ่านเข้ารอบน็อกเอาต์ ชปล. 3 จาก 4 ครั้งที่ร่วมแข่งขัน อย่างไรก็ตาม พวกเขาไม่เคยไปไกลกว่ารอบ 16 ทีม
- เซบีย่าทำคลีนชีตมากกว่าทุกทีมในชปล. ฤดูกาลนี้ (5, เท่ายูเวนตุส)
- "จิ้งจอกสีน้ำเงิน" เป็นหนึ่งใน 4 ทีมที่ชนะทั้ง 3 เกมในบ้าน รอบแบ่งกลุ่ม ชปล. ฤดูกาลนี้ (แอต.มาดริด, บาเยิร์น มิวนิค และบาร์เซโลน่า)
- อย่างไรก็ตาม เซบีย่ายังไม่แพ้นอกบ้าน ชปล. ฤดูกาลนี้ (ชนะ 1 เสมอ 2) โดยทำคลีนชีตได้ทั้ง 3 เกมดังกล่าว
- จากบรรดาทีมที่ยังอยู่ในรายการนี้ เลสเตอร์ ซิตี้ เป็นทีมที่มีค่าเฉลี่ยครองบอลน้อยที่สุด (39.6%)
- สตีเว่น เอ็นซอนซี่ ของเซบีย่า ผ่านบอลมากกว่าผู้เล่นรายอื่นในชปล. ฤดูกาลนี้ (610)
- ซามี่ นาสรี่ ทำได้แค่ 1 ประตู 1 แอสซิสต์จาก 17 เกมรอบน็อกเอาต์ ชปล.
- ริยาด มาห์เรซ มีส่วนร่วม 3 จาก 4 ประตูที่เลสเตอร์ ซิตี้ ยิงได้ในบ้าน ชปล. ฤดูกาลนี้