มีคิวลงเล่นเกมนัดที่ 3 ของรอบแบ่งกลุ่ม อี ศึกเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก 2017 วันนี้ (อังคารที่ 14 มี.ค. 60) สำหรับ "กิเลนผยอง" เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด แชมป์เก่าไทยลีกที่นำเป็นจ่าฝูงฤดูกาล 2017 อยู่ขณะนี้ด้วยผลงานสุดหรูชนะรวด 6 นัดติดต่อกันชนิดไม่เสียประตูให้ใครโดย "กิเลนผยอง" ที่นำเป็นจ่าฝูงของกลุ่มอยู่จากผลงานเตะ 2 นัด มี 4 แต้มจากนัดแรกที่ บุกเสมอ บริสเบน รอร์ (ออสเตรเลีย) 0-0, นัดสองเปิดบ้านชนะ แชมป์เจลีก, รองแชมป์สโมสรโลกล่าสุดอย่าง คาชิม่า แอนท์เลอร์ส ไปได้ 2-1 โดยนัดที่ 3 เอสซีจี เมืองทอง จะพบกับอุลซาน ฮุนได ของเกาหลีใต้ อันดับ 3 ของกลุ่มนี้ขณะนี้ที่เตะมา 2 นัด ชนะ 1 แพ้ 1 จากผลงานบุกแพ้ คาชิม่า แอนท์เลอร์ส ในเกมแรก 0-2 ก่อนล่าสุดจะกลับมาเฝ้าบ้านชนะ บริสเบน รอร์ ได้ 6-0 เกมนี้จะเตะเวลา 19.30 น. ตามเวลาท้องถิ่นที่เร็วกว่าไทย 2 ชั่วโมง จากสนามอุลซาน มุนซู สเตเดี้ยม เมืองอุลซาน เกาหลีใต้
 
 
          ล่าสุด "โค้ชแบน" ธชตวัน ศรีปาน กุนซือใหญ่ ออกมากล่าวกับสยามกีฬาถึงการพาทีมบุกเยือนถิ่นทีมดังโสมขาวหนนี้ว่า "เป้าหมายในเกมนี้ของเอสซีจี เมืองทอง คือบุกไปเก็บแต้มกลับออกมาให้ได้ ยอมรับว่าทีมอุลซาน เป็นทีมที่แข็งแกร่ง เขาเคยเป็นถึงแชมป์เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก จากฤดูกาล 2012 มาแล้ว อีกทั้งนัดล่าสุดก็เพิ่งเปิดบ้านถล่มบริสเบน รอร์ จากออสเตรเลียได้ถึง 6-0 เลยทีเดียว แม้ว่าเกมลีกนัดล่าสุดเกมที่ 2 ของศึกเคลีก นั้นพวกเขาจะบุกไปแพ้ เชจู ยูไนเต็ดมาถึง 0-3 แต่นั่นเป็นเพราะพวกเขาพักตัวหลักไว้หลายราย ซึ่งเขาจะโฟกัสกับเกมที่จะเปิดบ้านพบกับเราในศึกเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก นี้โดยเฉพาะ
 
 
          ขณะนี้ทีมเรายังคงมีปัญหานักเตะมีอาการบาดเจ็บอยู่ถึง 4 รายประกอบด้วย ทริสตอง โด, อดิศักดิ์ ไกรษร, อี โฮ, ธีรศิลป์ แดงดา แต่ทุกคนน่าจะผ่านความฟิตลงสนามช่วยทีมในเกมนี้ได้
 
 
          การไปเยือนทีมจากเกาหลีใต้ที่มีความแข็งแกร่งเป็นจุดเด่นนั้นเราต้องมีวินัย ในการเกมรับที่ยอดเยี่ยมทุกคนต้องมีสมาธิกับเกมตลอด 90 นาที ต้องเล่นเกมรับให้ผิดพลาดน้อยที่สุดไม่ให้เขาเล่นงานเราได้แล้วคอยใช้ความ ผิดพลาดของเขาเองทำเกมรุกโต้กลับ หากเกมนี้บุกไปเก็บแต้มกลับมาได้ถือว่าประสบความสำเร็จซึ่งผมมั่นใจว่าลูก ทีมจะทำได้"
 
 
          สำหรับ 11 คนแรกของเอสซีจี เมืองทอง ที่คาดว่าจะถูกส่งลงสนามในระบบการเล่น 3-5-2 ที่เน้นเกมรับแน่นนั้นน่าจะประกอบด้วย ผู้รักษาประตู กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์, กองหลังแนวรับ เซลิโอ ซานโตส, นาโออากิ อาโอยามะ, อดิศร พรหมรักษ์ กองกลางริมเส้นซ้าย, ขวา ธีราทร บุญมาทัน, ทริสตอง โด, วัฒนา พลายนุ่ม, อี โฮ, ชนาธิป สรงกระสินธ์, คู่หน้า ชีสโก้ ฆีเมเนซ, ธีรศิลป์ แดงดา
 
 
          ขณะที่เจ้าถิ่นอย่างอุลซาน ฮุนได นั้น คิม โด ฮุน กุนซือใหญ่ออกมาแสดงความมั่นใจเกมนี้พวกเขาจะเปิดบ้านเช็กบิลเอาชนะผู้ไป เยือนอย่าง เอสซีจี เมืองทองได้แน่นอน แต่ก็จะกำชับไม่ให้ลูกทีมประมาท ทีมจากไทยทีมนี้ที่เต็มไปด้วยนักเตะดีกรีทีมชาติร่วมทัพมาด้วยถึง 10 คนเป็นอันขาด แต่ด้วยความได้เปรียบในฐานะเจ้าถิ่นยังเชื่อว่าทีมจะคว้าชัยไปได้เพื่อแซงนำ เอสซีจี เมืองทองไปอยู่อันดับให้ดีกว่าให้ได้
   
 
          สำหรับสถิติที่ผ่านมาระหว่างสโมสรจากไทยกับทีมจากเกาหลีใต้ ที่ผ่านมาเฉพาะตั้งแต่รายการ เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก ปฏิรูปการแข่งขันจากปีค.ศ. 2003 จนปัจจุบัน ปรากฏว่าสโมสรจากไทยพบกับทีมจากเกาหลีใต้ เคยพบกันมา 23 ครั้ง ชนะ 2 เสมอ 6 แพ้ 15  ได้ 17 เสีย 52 ประตู โดย 2 ทีมที่เคยชนะทีมจากเกาหลีใต้ได้คือ บีอีซี เทโรฯ กับบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด นั่นเอง โดยที่ปีค.ศ. 2003  บีอีซี เทโรฯ เล่นรอบแบ่งกลุ่ม เปิดบ้าน ชนะ แทจอน ซิติเซ็น ไปได้ 2-0 เมื่อ 12 มี.ค. 46  มาถึงฤดูกาล 2015บุรีรัมย์  ยูไนเต็ด ก็เอาชนะ ซองนัม 2-1 (ห) เมื่อ 24 ก.พ. 58
   
 
          ด้านสถิติของ "กิเลนผยอง" เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ที่จะบุกไปเยือนอุลซาน ฮุนได วันอังคารที่ 14 มี.ค. นี้ ในอดีตที่ผ่านมา "กิเลนผยอง" เคยพบกับทีมจากแดนโสมขาวมาแค่ 2 ครั้งเท่านั้นในเอซีแอล 2013 ที่ผ่านมา กับทีมชนบุก โดยเปิดบ้านเสมอไป 2-2 เมื่อ 26 ก.พ. 56 ได้ประตูจาก มาริโอ ยูรอฟสกี้ กับ คิม ยู จิน คนละ 1 ประตู ส่วนอีกนัดไปเยือน เมื่อ 24 เม.ย. 56 แพ้กลับมา 0-2 โดยหากเกมนี้บุกไปชนะกลับมาได้จะทำให้เอสซีจี เมืองทอง เป็นทีมแรกที่บุกไปชนะทีมจากเกาหลีใต้ ได้ถึงถิ่น ในรายการ เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก นับจากหนแรกเมื่อปีค.ศ. 2003 เป็นต้นมา