ผลคะแนนและราคา 2 in 1 คะแนนในการแข่งสด ผลการแข่งขัน ตารางการแข่งขัน อัตราต่อรอง ข้อมูล คะแนนบาสเก็ตบอล
ฟุตบอล » พรีเมียร์ลีก อังกฤษ » 5ข้อ! "บอ.บู๋" สรุปหลังผีชนะน่าเกลียดดีดตัวขึ้นอันดับห้า

5ข้อ! "บอ.บู๋" สรุปหลังผีชนะน่าเกลียดดีดตัวขึ้นอันดับห้า

Posted 20/03/2017 by siamsport

 
"ปีศาจแดง" แมนฯ ยูไนเต็ด หนีอันดับ 6 ได้เป็นครั้งแรกในรอบมากกว่า 100 วัน ด้วยชัยชนะแบบไม่น่าประทับใจเท่าไหร่เหนือ มิดเดิ้ลสโบรช์ 3-1 ที่ ริเวอร์ไซด์ เมื่อวันอาทิตย์ และต่อไปนี้คือบทสรุป 5 ข้อโดย "บอ.บู๋​" คอลัมนิสต์ดัง Siamsport ที่เขียนไว้บนหน้าเพจส่วนตัว...

        บุกไปขยี้ มิดเดิ้ลส์โบรช์ แล้วกระโดดขึ้นไปอยู่อันดับ 5 ได้ก็จริง แต่ชัยชนะเกมล่าสุดของ แมนฯ ยูไนเต็ด จัดเป็นชัยชนะที่น่าเกลียดมาก-ขอบอก!

        ต่อไปนี้คือสิ่งที่เห็นและเป็นไปของ แมนฯ ยูไนเต็ด ในเกมที่ ริเวอร์ไซด์ สเตเดี้ยม

        1. หลังสาม: โช เซ่ มูรินโญ่ จำเป็นต้องวางหลัง 3 เป็นเกมที่ 4 ติดต่อกัน โดยติดตั้งระบบ 3-4-3 ให้ลูกทีม ทั้งนี้เพราะปราศจากผู้เล่นตัวหลักอย่าง ซลาตัน อิบราฮิโมวิช, อันเดร์ เอร์เรร่า และปอล ป๊อกบา ที่ติดโทษแบนและบาดเจ็บ รวมถึงต้องการเน้นผลการแข่งขันเป็นสำคัญ

        2. ล้าจริงเหรอ?: มีการเปลี่ยนผู้เล่นตัวจริงจากนัดล่าสุดที่เอาชนะ รอสตอฟ ในศึกยูโรปา ลีก เมื่อวันพฤหัสฯ ถึง 7 คน คือ...เด เคอา แทน โรเมโร่ - โจนส์ แทน โรโฮ - อ.ยัง แทน บลินด์ - คาร์ริค แทน เอร์เรร่า - เฟลไลนี่ แทน ป๊อกบา - ลินการ์ด แทน มคิทาร์ยาน และ แรชฟอร์ด แทน อิบราฮิโมวิช
        หมายความว่าผู้เล่นตัวจริงกว่าครึ่งทีมได้พักมาแบบเต็มๆ ตั้งแต่วันจันทร์ที่แล้ว ฉะนั้นอาการอ่อนล้าและโรยแรงจึงอาจไม่ใช่ข้ออ้างในการโชว์ฟอร์มไม่ออก
        อย่างไรก็ตาม ผู้เล่นปีศาจแดงก็กรำศึกหนักมาตลอด แถมลงสนามมากกว่าทีมอื่นหลายนัด

        3. มูมู่ ปอดแหก: ครึ่งแรก แม้พลพรรคปีศาจแดงจะไม่ได้ครองบอลทำเกมรุกบุกกระหน่ำอยู่ข้างเดียว แต่เวลาบุกก็ได้น้ำได้เนื้อมากกว่าทีมเจ้าถิ่นอย่างเห็นได้ชัด จังหวะสุดท้ายมีมากกว่า และมีโอกาสทำประตูก็มากกว่า แถมได้ประตูนำจากการโขกของ เฟลไลนี่
        แต่ครึ่งหลัง ผู้เป็นกุนซือกลับวางแผนให้ลูกทีมเน้นเกมรับอย่างรัดกุมมากยิ่งขึ้น แล้วรอจังหวะสวนกลับตามสไตล์ของ มูรินโญ่ ที่ชาวบ้านคุ้นเคย ซึ่งไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจอะไรเลย
        จนกระทั่ง...
        แมนฯ ยูไนเต็ด อาศัยจังหวะโต้กลับ และเป็น ลินการ์ด ที่กระทุ้งประตูนำห่างเป็น 2-0
        ณ จุดนั้น โบโร่ ไม่มีอะไรจะเสียจึงแก้เกมด้วยการเสี่ยงถอดกองกลางออกแล้วส่งกองหน้าอย่าง เกสเตเด้ ลงมาเล่นเป็นหัวหอกคู่กับ เนเกรโด้ รวมถึงส่งตัวกระชากลากเลื้อยอย่าง อดาม่า ตราโอเร่ ลงมาเสริมเกมรุกอีกตัว
        นาทีต่อมา มูรินโญ่ แก้เกมกลับคืนแบบทันควันด้วยการส่งปราการหลังอย่าง โรโฮ ลงมาแทนตัวขับเคลื่อนเกมรุกอย่าง มาต้า
        ตอนแรกก็เข้าใจว่าอาจขยับ โจนส์ หรือ ไบยี่ ขึ้นไปช่วยเกมในแดนกลาง - ที่ไหนได้ โรโฮ ลงมาเป็น "เซ็นเตอร์แบ็ค" อีก 1 ตัว นั่นหมายความว่า หลังจากนำ 2-0 แมนฯ ยูไนเต็ด มีปราการหลังตัวกลางถึง 4 คน บวก วิง-แบ็ค อีก 2 ข้าง เท่ากับมีแผงหลังทั้งหมด 6 คน
        ระบบการเล่นคือ 6-3-1 เหมือนเกมที่บุกไปเยือน เชลซี นั่นแหละ
        แต่คู่แข่งของ แมนฯ ยูไนเต็ด ในเกมนี้คือทีม "รองบ๊วย" อย่าง มิดเดิ้ลส์โบรช์
        ว่าแล้วก็ถอยลงไปตั้งรับลุกพลางอุดประตูเพียงอย่างเดียวแบบโคตรพ่อ โคตรแม่รถบัส โดยครองบอลไม่ได้ เพราะมีแต่กองหลังเต็มไปหมด ได้แต่หวดตูมเดียวไปข้างหน้า ซึ่งขอเรียนตามตรงว่าเป็นวิธีการเล่นที่ทุเรศมาก แทนที่จะเน้นการครองบอล เพื่อทำลายเวลาพลางป้องกันไม่ให้คู่แข่งบุกใส่ กลับถอยลึกตั้งรับแล้วเตะทิ้งอย่างเดียว เรียกว่าเล่นแบบรอโดน
        คำถามคือการเจอกับ "รองบ๊วย" อย่าง โบโร่ มึงต้องกลัวมากขนาดนั้นเลยเหรอ ???
        ที่ทุเรศกว่าคือมีเซ็นเตอร์แบ็คทั้งหมด 4 ตัว ยังอุตส่าห์เสียประตูให้คู่แข่งซะอย่างนั้น!
        แม้จะเป็นความผิดพลาดส่วนบุคคลของ สมอลลิ่ง แต่ที่การเล่นแบบตั้งรับอย่างเดียว มันก็ย่อมเสี่ยงต่อความผิดพลาดอยู่แล้ว
        จึงพอจะสรุปได้ว่าทั้งปอดแหก และไม่มีชั้นเชิง คำนึงถึงผลการแข่งขันอย่างเดียว ทั้งที่คู่แข่งของพวกเขาไม่ใช่ บาร์เซโลน่า, เรอัล มาดริด หรือ บาเยิร์น มิวนิค สักหน่อย ไม่ต้องกลัวขนาดนั้นก็ได้

        4. นี่แหละเกมลูกหนัง: สิ่ง ที่ต้องยอมรับคือ แมนฯ ยูไนเต็ด เล่นไม่ค่อยไฉไลนัก แถมยังแสดงความปอดแหกออกมาอย่างออกนอกหน้าอีกต่างหาก แต่กลับบุกชนะด้วยสกอร์สวยงาม 3-1 ผิดกับบางเกมที่อุตส่าห์เล่นดีชิบหาย บุกกระหน่ำตลอดทั้งเกม แต่ยัดเยียดความปราชัยให้คู่แข่งไม่สำเร็จ
        เท่านั้นไม่พอ ยังมาได้ประตูย้ำหัวตะปูแห่งชัยชนะแบบเฮงๆ จากการสะดุดเงาตัวเองลื่นล้มของ บัลเดส อีกต่างหาก
        นี่แหละเกมลูกหนังที่บ่อยครั้งมันก็ไม่มีเหตุผล และไม่ต้องการความเข้าใจใดๆ ทั้งสิ้น

        5. หลังจมอยู่ในอันดับ 6 มากว่า 100 วัน แถม โดนถีบไปอยู่อันดับ 7 อีกเกือบหนึ่งวันเต็มๆ แมนฯ ยูไนเต็ด กระโดดขึ้นมาอยู่ในอันดับ 5 ได้แล้ว แม้จะเป็นชัยชนะที่ไม่ค่อยสมกับศักดิ์ศรีแห่งความเป็นปีศาจแดงสักเท่าไหร่ก็ ตาม

TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน

อัลบั้มภาพเด็ดๆ

More »

คลิปไฮไลท์

More »