ผลคะแนนและราคา 2 in 1 คะแนนในการแข่งสด ผลการแข่งขัน ตารางการแข่งขัน อัตราต่อรอง ข้อมูล คะแนนบาสเก็ตบอล
ฟุตบอล » ฟุตบอลไทย » ช้างศึกช้ำ!พ่ายซาอุคาบ้าน0-3โอกาสไปต่อริบหรี่

ช้างศึกช้ำ!พ่ายซาอุคาบ้าน0-3โอกาสไปต่อริบหรี่

Posted 23/03/2017 by siamsport

 

       ทีมชาติไทย ยังควานหาสามแต้มแรกไม่เจอในการลุย ฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก รอบสาม เมื่อโดน "เศรษฐีน้ำมัน" ซาอุดิอาระเบีย บุกอัดพัง 3-0 ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 23 มี.ค. 60 ทำให้ "ช้างศึก" รั้งอันดับสุดท้ายกลุ่ม บี มีหนึ่งคะแนน โอกาสไปรอบสุดท้ายริบหรี่เต็มทน ขณะที่ทีมเยือนนั่งจ่าฝูง

 

 

ฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบ 12 ทีมสุดท้าย กลุ่มบี

วันพฤหัสบดีที่ 23 มีนาคม 2560

ไทย 0-3 ซาอุดิอาระเบีย

 

          ออกสตาร์ทครึ่งแรก นาทีที่4 นาวาฟ อัล อะบิ๊ต เปลี่ยนแกนจากซ้ายไปขวาให้กับ ซัลมาน อัล ฟาราจ เปิดบอลเข้าไปในเขตโทษ บอลยาวหลุดออกหลัง นาทีที่ 5 โอมาร์ เฮาซาวี่ ปั้มบอลกับ สิโรจน์ ฉัตรทอง ก่อนที่บอลจะเข้าไปในเขตโทษตัวเอง “ปีโป้” วิ่งเข้าไปกดดันทว่าบอลไปเข้ามือ ยาสเซอร์ อัล โมไซเล็ม
             
          นาทีที่ 8 ไทเซีย อัล ยัสซิม หลุดไปที่เสาแรกก่อนหักบอลกลับไปที่จุดโทษ ธนบูรณ์ เกษารัตน์ ล้มตัวสไลด์บอลออกหลัง นาทีที่9 นาวาฟ อัล อะบิ๊ต เปิดลูกเตะมุมฝั่งขวาเข้าไปในเขตโทษ กวินทร์ ธรมสัจจานันท์ ทุบบอลทิ้งออกมา นาทีที่12 “ช้างศึก”หวิดได้ลุ้นครั้งแรก หลังตาก จักรพันธ์ แก้วพรม ครอสลูกเตะมุมทางซ้ายไปที่เสาแรก โมฮาเหม็ด อัล ชาห์ลาวี่ ลงมาช่วยเคลียร์บอลออกไป
          

          นาทีที่ 13 มานชัวร์ อัล ฮาร์บี้ เปิดบอลจากซ้ายเข้าไปในเขตโทษ อดิศร พรหมรักษ์ โหม่งออกมา แต่เป็นจังหวะที่ โมฮาเหม็ด อัล ชาห์ลาวี่ ยกเท้าสูงจากทางด้านหลัง ใส่ปราการหลังรายนี้ของทีมชาติไทย นาทีที่17 ธีรศิลป์ แดงดา โดน ยาสเซอร์ อัล ชาห์รานี่ กระแทกจากด้วยหลังฝั่งซ้าย อาลี อับดุลนาบี้ ผู้ตัดสินในเกมนี้กลับไม่เป่าฟาล์ว
                                                      

          นาทีที่ 20 นาวาฟ อัล อะบิ๊ต ซ่าไม่ออกหลังจาก ประทุม ชูทอง เสียบตัดเกม นาทีที่ 22 นาวาฟ อัล อะบิ๊ต ผู้ที่สังหารจุดโทษทีมชาตอไทยในเกมแรก ได้โอกาสซัดจากหน้าเขตโทษส่งบอลเลียดออกหลัง นาทีที่ 25 นาวาฟ อัล อะบิ๊ต เปิดบอลหลุดกับดักล้ำหน้าไปให้ โมฮัมเหม็ด อัล ชาห์ลาวี หลุดเข้าไปยิงเน้นๆส่งบอลเข้าไป ทำให้ ซาอุดิอาระเบีย บุกมานำ 1-0 และถือเป็นการกลับมายิงครั้งแรกในรอบเกือบ 6 ปีใส่ทีมชาติไทย หลังจากฟุตบอลโลก 2014 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย เมื่อวันที่ 11 ต.ค.2011 เจ้าตัวมาในฐานะตัวสำรอง
           

          นาทีที่ 27 ทีมชาติไทยต่อเกมบุก ปกเกล้า อนันต์ พยายามกระดกบอลไปให้ ทริสตอง สมชาย โด หลุดเข้าไปที่เสาสอง ทว่า มานซัวร์ อัล ฮาร์บี้ ยังเคลียร์ทิ้งออกหลัง นาทีที่28 ชนาธิป สรงกระสินธ์ ครอสบอลจากซ้ายเข้าไปที่จุดโทษ หวังให้ สิโรจน์ ฉัตรทอง ทว่าแนวรับทีมเยือนโขกออกมา
           

          นาทีที่ 29 โมฮัมเหมัด อัล ชาห์ลาวี ได้โอกาสโหม่งที่เสาไกลหวังให้บอลเสียบใต้คาน ทว่าบอลยังย้อยหลุดออกหลัง นาทีที่32 จักรพันธ์ แก้วพรม จ่ายบอลออกไปให้ สิโรจน์ ฉัตรทอง คลึงบอลหน้าเขตโทษ ก่อนที่จะจ่ายบอลไปที่เสาแรก ปกเกล้า อนันต์ ตามไปมาทัน
                                                       
               
          นาทีที่ 34 ชนาธิป สรงกระสินธ์ จ่ายลบอลเร็วทะลุช่องไปที่หน้าเขตโทษทีมเยือน ธีรศิลป์ แดงดา ควบไปเอาบอลโดนไลน์แมนที่ 1 ยกธงฟาล์วหน้าว่าหัวหอกหมายเลข 10 ไปดุง โมต๊าซ เฮาซาวี่ นาทีที่36 ซัลมาน อัล ฟาราจ ไปหวด จักรพันธ์ แก้วพรม ทางฝั่งขวา ผู้ตัดสินให้ฟาล์วแต่ไม่มีใบเหลืองให้กองกลางซาอุดิอาระเบีย
           

          นาทีที่ 38 ชนาธิป สรงกระสินธ์ พยายามยิงเลียดหน้าเขตโทษ บอลไปโดนแนวรับ “เศรษฐีน้ำมัน” เคลียร์ออกไป นาทีที่40 ทีมชาติไทย มีลุ้นหลังจาก ธีรศิลป์ แดงดา ออกบอลเข้าไปในเขตโทษทางซ้าย สิโรจน์ ฉัตรทอง แต่งบอลเข้าขวาแล้วปั่นทันที บอลไปเลี้ยวเสาไกลออกหลังอย่างได้ลุ้น
          

          นาทีที่ 42 ธีราทร บุญมาทัน รับใบเหลืองหลังจากไปอัด นาวาฟ อัล อะบิ๊ต ทำให้เป็นการรับใบเหลืองที่ 2 จาก 6 เกม หลังจากโดนมาแล้ว 1 ใบในนัดบุกไปแพ้ ซาอุดิอาระเบีย 0-1 เมื่อวันที่ 1 ก.ย.2016  ทำให้ติดโทษแบนหมดสิทธิ์ลงสนามในการบุกไปเยือน ญี่ปุ่น วันที่ 28 มี.ค.นี้ ทันที
           

          นาทีที่ 45 ไทเซีย อัล ยัสซัน พยายามล้มตัวยิงในเขตโทษแต่ อดิศร พรหมรักษ์ เคลียร์บอลออกหลัง นาทีที่45+2 ธีราทร บุญมาทัน เปิดฟรีคิดจากครึ่งสนามฝั่งชวาเข้าไปหน้าเขตโทษ ก่อนจะโดน โอมาร์ เฮาซาวี่ โหม่งเคลียร์ทิ้งออกมา “ช้างศึก”ยายามตั้งเกมจะรุกต่อ แต่ผู้ตัดสินกลับเป่าหมดครึ่งแรกทั้งๆที่ยังเหลือให้ได้ลุ้นอีกเฮือก ทำให้ ซาอุดิอาระเบีย บุกมานำทีมชาติไทย 1-0

 

          ครึ่งหลังทีมชาติไทย ส่ง พีระพัฒน์ โน๊ตชัยยา ลงไปแทน ประทุม ชูทอง ทำให้เปลี่ยนระบบมาเล่น 4-2-1-3 ด้ววการวาง “เจ้าบาส”ขึ้นมาเป็นปีกซ้าย ให้ ธีรศิลป์ แดงดา เป็นกองหน้าตัวเป้า แล้วฝัง สิโรจน์ ฉัตรทอง ไปประจำการฝั่งขวาแทน
             

          นาทีที่ 47 ชนาธิป สรงกระสินธ์ ไหลบอลออกไปทางซ้ายให้ พีระพัฒน์ โน๊ตชัยยา โยนไปเสาไกล บอลยังข้ามตัว สิโรจน์ ฉัตรทอง นาทีที่ 52 ธีรศิลป์ แดงดา ไหลบอลออกไปทางซ้ายให้กับ ชนาธืป สรงกระสินธ์ พลิกตัวยิงเลียดด้วยซ้ายส่งบอลไปเข้ามือ ยาสเซอร์ อัล โมไซเล็ม
              

          นาทีที่ 54 ธีราทร บุญมาทัน แทงบอลออกไปทางซ้ายให้กับ พีระพัฒน์ โน๊ตชัยยา เปิดบอลเข้าไปในเขตโทษโดนสกัดบอลทิ้งออกมา นาทีที่ 55 สิโรจน์ ฉัตรทอง ลาดบอลไปถึงเส้นหลังฝั่งขวา แต่จังหวะสุดท้ายโดนยกธงว่าลูกออกหลังไปก่อน นาทีที่ 59 ชนาธิป สรงกระสินธ์ แทงบอลทะลุช่องไปให้กับ สอโรจน์ ฉัตรทอง โดน โมต๊าซ เฮาซาวี เคลียร์ทิ้งไปได้
                                                            

          นาทีที่ 51 ธีรศิลป์ แดงดา หลุดเข้าไปในเขตโทษแต่กลับล้มทว่ายังไหลบอลให้ พีระพัฒน์ โน้ตชัยยา แต่บอลเข้าขวาขจึงให้ “เทพมุ้ย” ทว่ากลับยิงไม่ได้ นาทีที่ 63 ทีมขาติไทย ส่ง ชาริล ชัปปุยส์ ลงไปแทน จักรพันธ์ แก้วพรม นาทีที่ 64 ยาเซอร์ อัล ชาห์รานี่ ขึ้นมาทางกราบขวา ก่อนที่จะเปิดเข้าไปกลางประตู บอลไปเข้ามือ กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์
              

          นาทีที่ 67 ธีรศิลป์ แดงดา จ่ายบอลออกทางซ้ายให้ พีระพัฒน์ โน๊ตชัยยา กดด้วยซ้ายที่เสาแรกแบบไม่ต้องจับ บอลติดไซด์ก้อยเลี้ยวออกหลังไป จังหวะต่อทีมชาติไทย แก้เกมครั้งสุดท้าย ด้วยการให้ อดิศักดิ์ ไกรษร ลงไปแทน สิโรจน์ ฉัตรทอง
              

          นาทีที่ 68 อดิศักดิ์ ไกรษร หวิดแผลงฤทธิ์ หลังจากกระชากบอลทางซ้ายเข้าเขตโทษ บอลลึกไปเข้ามือ ยาสเซอร์ อัล โมไซเล็ม นาทีที่ 70 ทีมเยือนส่ง ซัลมาน มูวาชาร์ ลงไปแทน นาวาฟ อัล อะบิ๊ต นาทีที่ 74 ธีราทร บุญมาทัน แทงบอลเข้ากน้าเขตโทษ ชนาธิป สรงกระสินธ์ พลิกตัวยิงด้วยซ้ายส่งบอลออกหลัง
                                                         
               
          นาทีที่ 75 เจ้าบ้านหวิดเสียอีกลูก หลังจาก ธนบูรณ์ เกษารัตน์ สกัดบอลพลาด โมฮัมเหม็ด อัล ชาห์ลาว์ โขกบอลออกซ้ายให้ ซัลมาน มูวาชาร์ ยกบอลเข้าไปในเขตโทษโดน อดิศร พรหมรักษ์ ตามมาเคลียร์บอลทิ้งออกหลัง นาทีที่ 78 ทีมเยือน นาอิฟ ฮาซาซี่ ลงไปแทน โมฮัมเหม็ด อัล ชาห์ลาวี
              

          นาทีที่ 81 ขนาธิป สรงกระสินธ์ พลิกบอลออกทางซ้าย พีระพัฒน์ นํตชัยยา วิ่งเข้ามากดด้วยซ้ายถนัดแต่บอลปลิ้นออกหลัง นาทีที่ 83 กลายเป็น ซาอุดิอาระเบีย ที่ได้สกอร์หนีห่างทีมชาติไทย 2-0 จากจังหวะที่ ซัลมาน มูวาซาร์ ครอสบอลจากซ้ายเข้าไปในเขตโทษ ธนบูรณ์ เกษารัตน์ สกัดบอลผิดเหลี่ยมส่งบอลเข้าประตูตัวเอง
              

          นาทีที่ 90+2 ซัลมาน มูวาชาร์ เข้าชาร์จนิ่มๆส่งบอลเข้าไป จบเกมทีมชาติไทย เปิดบ้านแพ้ให้กับ ซาอุดิอาระเบีย 0-3 ทำให้พวกเขามีความเป็นไปได้ที่จะฉากการไปลุยเวิลด์ คัพ 2018 รอบสุดท้าย ที่รัสเซีย แน่นอนแล้ว หลังจากมี 1 คะแนน ส่วนขุนพล “เศรษฐีน้ำมัน” มี 13 แต้ม หากอีก 4 เกมที่เหลือสามาถเก็บชัยชนะได้จนทำให้ “ช้างศึก”มีเพิ่มเป็น 13 แต้ม ก็ไม่พอเข้ารอบต่อไป เนื่องจากปลงานเฮด ทู เฮด ในการเจอกับ ซาอุฯ แพ้ทั้ง 2  นัด คือ แพ้ 0-1 (ย) และ แพ้ 0-3 (ห)
              

          เว้นเสียจากคู่ดึกของสายเวลา 22.30 นาทีที่  (ตามเวลาไทย) ถ้า ญี่ปุ่น บุกไปแพ้หรือเสมอ ยูเออี จะทำให้โอกาสของทีมชาติไทย มีความหวังในการเป็นอันดับ 2 ของกลุ่ม บี ในการไปเล่นเวิลด์ คัพ 2018 ทว่าต้องเก็บให้ได้ 12 คะแนนเป็นอย่างน้อย


          โดยโปรแกรมการเดินทางของ ทีมชาติไทย ในการยกพลไปแข่งขันฟุตบอลโลก 2018 รอบ 12 ทีมสุดท้าย โซนเอเชีย กลุ่ม B นัดที่ 7 พบ "ซามูไร" ญี่ปุ่น วันที่ 28 มี.ค. เวลาไทย 17.35 นาทีที่  ช่อง 7 สีถ่ายทอดสด ขุนพลแข้งแดนสยาม จะออกจากท่าอากาศยานนานาชาติ สุวรรณภูมิ ในช่วงเช้าวันที่ 24 มี.ค. เวลา 8.00 นาทีที่  ไปถึงท่าอากาศยานนานาชาตินาริตะ ด้วยสายการบินไทย เที่ยวบินที่ ทีจี 676 (TG 676) เวลา 15.05 นาทีที่  (ตามเวลาท้องถิ่นที่เร็วกว่าไทย 2 ชั่วโมง)

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน

อัลบั้มภาพเด็ดๆ

More »

คลิปไฮไลท์

More »