คมกว่า!ซามูไรฟัน4-0ช้างศึกตกรอบอย่างเป็นทางการ
Posted 28/03/2017 by siamsport
ทีมชาติไทย สู้ถวายหัว แต่ต้านความเฉียบคมของขุนพล "ซามูไร บลู" ไม่ไหว โดนยิง 4-0 ศึกคัดบอลโลก ที่ ไซตามะ เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา จากผลงาน 3 สตาร์ที่ค้าแข้งในยุโรปทั้ง ชินจิ คางาวะ (ดอร์ทมุนด์), ชินจิ โอกาซากิ (เลสเตอร์), ยูยะ คูโบะ (เกนท์) และ มายะ โยชิดะ (เซาธ์แฮมป์ตัน) ขณะที่ ธีรศิลป์ แดงดา พลาดจุดโทษตีไข่แตกท้ายเกม ทำให้ ญี่ปุ่น มี 16 แต้ม รั้งจ่าฝูงชั่วคราว ส่วน "ช้างศึก" หมดสิทธิ์ไปเล่นรอบสุดท้ายอย่างเป็นทางการ
ฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือกโซนเอเชีย กลุ่ม บี
วันอังคารที่ 28 มีนาคม 2560
ทีมชาติญี่ปุ่น 4-0 ทีมชาติไทย
เริ่มการแข่งขันเปิดเกมขึ้นมาทีมชาติไทยเปิดเกมรุกทันที ชนาธิป สรงกระสินธ์ เปิดบอลยาวไปมุมธงทางขวา แต่ทริสตอง โด สปีดไปไม่ทัน จากนั้นเจ้าถิ่นก็เริ่มที่จะครองเกมเล่นได้ตามที่ตัวเองถนัด ขณะที่ทีมชาติไทยลงไปรับรอโต้กลับ นาทีที่6 ทีมไทยมีโอกาสอีกครั้ง พีระพัฒน์ โน๊ตชัยยา พาบอลขึ้นมาทางริมเส้นซ้ายเกือบสุดเส้นหลัง เปิดเข้าไปในกรอบเขตโทษยามาคูชิเตะโดนบอลไม่ดี มาเข้าทางของ ชนาธิป สรงกระสินธ์ ได้ซัด แต่ไปติดบล็อกแข้งเจ้าถิ่นเด้งออกไปอย่างน่าเสียดาย
ญี่ปุ่นเริ่มตั้งเกมตามที่ถนัดได้เปิดเกมใส่ทีมชาติไทย นาทีที่9 ญี่ปุ่นก็ออกนำจนได้ เมื่อเปิดบอลจากแนวหลังวางยาวมาที่ปีกขวาให้กับคูโบะจับบอลลงก่อนเปิดเข้าไปกลางประตูให้กับคางาวะจับบอลหนึ่งจังหวะหลอกจะยิง แต่ไม่ซัดทำให้นักเตะไทยเสียจังหวะก่อนซัดผ่านช่องเสียบตาข่ายให้ญี่ป่นนำ 1-0 นาทีที่11 ญี่ปุ่นก็มีโอกาสซัดอีกครั้งในกรอบเขตโทษจากฮาราคูชิ แต่ กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ ประตูช้างศึกปัดออกไปทัน ทว่าจังหวะนี้ก็ล้ำหน้าไปก่อนแล้ว
นาทีที่18 ญี่ปุ่นหวิดได้เม็ดที่สอง เมื่อคางาวะทำชิงบริเวณเส้นกรอบเขตโทษทางขวาให้กับยามากูชิหลุดเข้าไปซัดในเขตโทษ แต่ยังดีที่ กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ ยังไวพุ่งปัดออกไปได้ทัน ทว่านาทีต่อมา นาทีที่19 ทีมญี่ปุ่นที่ครองเกมได้เหนือกว่าขึ้นบอลทางกราบขวา ฮารางูชิชิงบอลให้กับคูโบะที่ริมเส้น ก่อนเปิดไปที่จุดนัดพบกลางประตูให้กับโอกาซากิที่โฉบเข้ามาโหม่งถึงก่อนที่ อดิศร พรหมรักษ์ จะเข้าถึงบอลพุ่งเสียบตาข่ายชนิดที่ กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ พุ่งสุดตัวยังไม่ทันทำให้ญี่ป่นนำเป็น 2-0
หลังเสียประตูไปสองเม็ดทีมชาติไทยพยายามสู้เต็มที่ นาทีที่27 ชนาธิปได้บอลกลางสนามพยายามกระชากขึ้นมาแต่ก็ต้องดึงบอลช้า เนื่องจากเพื่อนเติมขึ้นมาไม่ทันทำให้เสียโอกาสสุดท้ายโดนแย่งบอลไปได้ นาทีที่34 ทีมไทยมีโอกาสได้ซัดบ้าง เมื่อขึ้นบอลมาจาก วัฒนา พลายนุ่ม เปิดออกทางขวาให้ ทริสตอง โด ก่อนที่ทริสตองจะเปิดเข้ามาในเขตโทษบนเส้น 18 หลา ให้กับ ธีรศิลป์ แดงดา พลิกบอลซัดทันทีบอลพุ่งเข้ากรอบแต่ไปตรงตัวคาวาชิมะ นายด่านญี่ปุ่นรับเอาไว้ได้ทัน
นาทีที่ 41 ญี่ปุ่นเกือบพลาด เมื่อ โมริชิเกะ เซนเตอร์ เตะบอลพลาดไปติดหัวของ วัฒนา พลายนุ่ม โหม่งต่อให้ ธีรศิลป์ แดงดา กระชากเข้าเขตโทษ แต่จังหวะที่จะซัดโดนทางโมริชิเกะตามมาเบียดเอาไว้ได้ทันทำให้เสียจังหวะซัดไม่เต็มก่อนจะถูดเคลียร์ไปได้ ท้ายเกมทีมไทยได้โอกาสกดดันทดเจ็บ 2 นาที ทีมชาติไทยมีโอกาสจะตีไข่แตก เมื่อ พีระพัฒน์ โน๊ตชัยยา เปิดเตะมุมทางขวาโด่งเข้ามาในเขตโทษ บอลมาตกที่เสาสองที่มีธีรศิลป์ แดงดา ยืนอยู่ได้พลิกซัดแต่ไปติดเซฟของคาวาชิมะ ประตูของญี่ปุ่นเด้งออกมา แต่ยังไม่พ้นอันตราย บอลยังชุลมุนในกรอบ 6 หลา มาเข้าทางของ อดิศักดิ์ ไกรษร ได้ซ้ำดาบสอง แต่ยังติดผู้เล่นญี่ปุ่นเด้งออกมา และเข้าทางอีกหนย้ำซัดอีกที แต่ก็ยังติดบล็อกผู้เล่นเจ้าถิ่น ก่อนที่สุดท้ายทีมชาติญี่ปุ่นจะช่วยกันเคลียร์ออกไปได้ จากนั้นก็จบครึ่งแรก ญี่ปุ่น นำ ไทย 2-0
ลงมาสู้กันต่อครึ่งหลังสองทีมยังไม่มีรายงานการเปลี่ยนตัวผู้เล่น นาทีที่ 47 ทีมไทยได้ฟรีติกทางกราบซ้ายก่อนเข้าเขตโทษ เมื่อทางสิโรจน์ ฉัตรทอง โดนทาง โยชิดะ ไปทำฟาวล์ และเป็นธีรศิลป์ แดงดา รับหน้าที่ปั่นบอลข้ามกำแพงไปแล้วแต่มุมไม่ทันไปตกบนตาข่ายด้านหลัง นาทีที่ 51 ทีมไทยได้เตะมุมทางขวา พีระพัฒน์ โน๊ตชัยยา เปิดโด่งเข้าไปในกรอบถึงทาง อดิศร พรหมรักษ์ กองหลังที่เติมขึ้นไปสูงพักบอลลงด่วยอก ก่อนซัด แต่ไปติดบล็อค บอลเด้งไปเข้าทางของชนาธิป สรงกระสินธ์ ในเขตโทษเยื้องทางซ้าย ซัดเต็มข้ออีกที แต่ก็ยังไม่ผ่านมือของ คาวาชิม่า ประตูญี่ปุ่นที่ไวทายาทพุ่งปัดออกหลังไปได้ นาทีต่อมาวิโรจน์ ฉัตรทอง ก็ได้โอกาสซัดอีกครั้งในเขตโทษ ทางซ้าย แต่ข้ามคานออกไปอย่างน่าเสียดาย
ทีมไทยที่ไม่มีอะไรจะเสียลงมาครึ่งหลังยงคงเดินหน้าเปิดเกมแลกกับญี่ปุ่นอย่างสนุก แต่ไม่สามารถเจาะตาข่ายได้ นาทีที่ 58 กลับต้องมาเสียประตูเพิ่ม เมื่อญี่ปุ่นตัดบอลได้ทางปีกขวาเปิดเข้ามากลางให้กับ คูโบะ จัดบอลพลิกกระชากเข้ากลางประตูถึงบริเวณหัวกระโหลก ตัดสินใจซัดเต็มข้อบอลพุ่งเสียบตาข่ายชนิดที่กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ บินสุดตัวยังไมถึงทำให้ญี่ปุ่นหนีไปเป็น 3-0 นาทีที่ 65 ญี่ปุ่น ถอดทาง ฮาราคูชิ ออกแล้วส่ง เคนซูเกะ ฮอนดะ ลงไปเล่นแทน
นาทีที่ 69 ฮอนดะ ได้บอลขึ้นมาทางซ้ายกระชากเข้าเขตโทษก่อนซัด แต่กวิทนทร์ ธรรมสัจจานันท ์ปัดเข้าไว้ได้ ก่อนที่แนวรับของไทยจากตามมาเตทิ้งออกไป นาทีต่อมาไทยทำเกมขึ้นมาทางปีกซ้าย บอลอยู่ที่สิโรจน์ ฉัตรทอง พลิกบอลเข้ากลางก่อนซัดแตะบอลเบาไปเข้ามือของ คาวาชิม่า รับเอาไว้ได้ นาทีที่ 72 ไทยปรับทัพคนแรก ถอดทาง สิโรจน์ ฉัตรทอง ออกแล้วส่ง นูรูล ศรียานเก็ม ไปเล่นแทน นาทีต่อมาญี่ปุ่นก็ปรับผู้เล่นเช่นกัน ถอด คากาวะ ออก ส่ง นิชิคาว่า คิโยทาเกะ ลงไปเล่นแทน
นาทีที่ 78 ชนาธิป สรงกระสินธ์ จ่ายบอลทะลุช่องแนวรับให้กับพีระพัฒน์ โน๊ตชัยยา เข้าไปในเขตโทษได้ซัด แต่พีระพัฒน์ ยิงมุมแคบแต่เบาไปทำให้ไปเข้าซองของคาวาชิม่า รับเอาไว้ได้อีกครั้ง นาทีต่อมา ฮอนดะ ได้บอลทางปีกซ้ายเปิดโด่งไปเสาสองเข้าทางของ คูโบะ ได้วอลเล่ย ์ด้วยนขวา แต่กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ ยังไวพุงยืดเท้าสัดเอาไว้ได้ทันก่อนจะโดนเพื่อนมาช่วยเคลียร์ออกไปได้ นาทีที่ 81 ทีมชาติไทยเกือบตีไข่แตก เมื่อทางนูรูล ศรียานเก็ม ได้บอลหลุดเข้าโทษและได้ซัดแต่ยังดีกงอหลังของญี่ปุ่นมาบล็อคเอาไว้ทัน นาทีที่83 ญี่ปุ่นขยับหนีไปเป็น 4-0 จากจังหวะเปิดเตะมุมทางซ้ายของคิโยทาเกะ โด่งไปกลางประตูและเป็นทาง โยชิดะ กัปตันทีมที่โถมขึ้นมาโหม่งถัดหน้าก่อนที่กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ จะเข้ามาปัดถึงบอลพุงเสียบตาข่ายสวยงาม
นาทีที่ 84 ทีมชาติไทยน่าจะตีไข่แตก เมื่อได้จุดโทษ จากจังหวะที่พีระพัฒน์ โน๊ตชัยยา ได้บอลทมางปีกซ้ายเปิดบอลเข้ามากลางประตู และเป็นทางนาคาโตโมะ กองหลังสกัดวืดเตะวืดเต้งจะมาเข้าทางธีรศิลป์ แดงดา และจังหวะจะซัดทาง นาคาโตโมะ พยายามจะพุ่งตัวมาบล็อคแต่ดันไปชนธีรศิลป์ ล้มลงในเขตโทษ ผุ้ตัดสินเป่าชี้เป็นจุดโทษทันที และเป็นทางธีรศิลป์ ที่ลุกขึ้นมาซัดเอง ยิงไปทางซ้ายมือของตัวเอง ซึ่งทาง คาวาชิม่า ประตูญี่ปุ่นเดาทางถูกพุ่งไปทุบบอลออกไปได้ทำให้ทีมชาติไทยพลาดโอกาสตีไขแตกอย่างน่าเสียดาย
เข้าสู่ช่วงเทเจ็บ 3 นาที ญี่ปุ่นก็ยังไม่เพลาเกมรุกพยายามเปิดเกมกดดันทีมชาติไทย แต่บรรดาแข้งจากแดนสยามก็ช่วยกันรับอย่างเหนียวแน่และพยายามท่จะเปิดเกมโต้กลับสู้เช่นกันแต่ทำอะไรไม่ถนัดนัด และจบเกมทีมชาติญี่ปุ่น เอาชนะทีมชาติไทย 4-0 ส่วนเกมนัดถัดไปของทีมชาติไทยจะลงสนามนัดที่ 8 วันอังคารวันที่ 13 มิ.ย. เปิดบ้านรับทีมชาติไทย พบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
ไทยมาแปลกจัด 4-2-3-1 ลุยญี่ปุ่น
11 ผู้เล่นตัวจริงของทีมชาติไทย มีการปรับหมากมาใช้ 4-2-3-1 ด้วยการให้ กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ เฝ้าเสา แบ็กซ้ายเป็น พีระพัฒน์ โน๊ตชัยยา ขวาใช้ ทริสตอง สมชาย โด เซนเตอร์ฮาล์ฟปรับมาใช้ กรวิทย์ นามวิเศษ กับ อดิศร พรหมนรักษ์
กองกลางตัวรับใช้ ธนบูรณ์ เกษารัตน์ กับ วัฒนา พลายนุ่ม ซึ่งลงสนามในนามทีมชาติไทย ชุดใหญ่ เป็นครั้งแรกในชีวิต มี “เมสซี่เจ”ชนาธิป สรงกระสินธ์ เป็นตัวรุก และให้ สิโรจน์ ฉัตรทอง ออกทางซ้าย อดิศักดิ์ ไกรษร ไปอยู่ทางขวา หน้าเป้าเป็น “กัปตันมุ้ย”ธีรศิลป์ แดงดา
ด้าน ญี่ปุ่น ส่งขุนพลที่ค้าแข้งนอกประเทศบู๊ นำโดย มายะ โยชิดะ เซนเตอร์ฮาล์ฟกัปตันทีมจาก เซาธ์แธมป์ตัน, ชินจิ คางาวะ เพลเมกเกอร์ของ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์, เกงกิ ฮารากูชิ ตัวรุกของแฮร์ธ่า เบอร์ลิน ที่โขกไป 1 ลูกในเกมแรกที่บุกไปชนะไทย 2-0
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน
อัลบั้มภาพเด็ดๆ
มาย ฮาเร็ม ส่งภาพเขย่าโซเชียล นุ...
เจนนี่ ธมนภัค พริตตี้สุดฮอต นุ่ง...
ฮาน่า ฮาอึน ชอง ดาว TikTok สาวสว...
นาฟ ฉัฐนันท์ ปล่อยแซ่บท้าลมหนาว ...
เต็มที่แล้ว! ไทย พ่าย อุซเบกิสถา...
ตัดเกรด นักเตะไทย เกมเสมอ โอมาน ...
คลิปไฮไลท์